ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกจ้างสธ.ร้องสวัสดิการค่ารักษา "ประดิษฐ"อึกอักแย้มงบไม่พ  (อ่าน 961 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด

“ประดิษฐ” กล่อมลูกจ้างประจำ สธ. ส่งตัวแทนหารือเรื่องสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเทียบเท่าข้าราชการแทนก่อม็อบ ระบุขอดูเหตุผลชอบธรรมหรือไม่ เหตุกระทบกระเป๋าเงินรัฐบาล
    นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กลุ่มลูกจ้างส่วนราชการมาขอเข้าพบตนโดยยื่นข้อเรียกร้อง 2 ข้อคือ 1.เรื่องสิทธิค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้รับบำเหน็จรายเดือนให้เป็นลักษณะเดียวกับข้าราชการหลังเกษียณ ซึ่งเดิมลูกจ้างกลุ่มนี้ตอนทำงานจะได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลเหมือนกับข้าราชการทุกประการ แต่เมื่อเกษียณแล้วจะกลับไปใช้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค 2.ให้สิทธิผู้รับบำเหน็จรายเดือนเมื่อพ้นจากราชการด้วยเหตุสูงอายุ/รับราชการนาน ทั้งนี้ ตามระเบียบแล้วผู้ที่จะได้รับบำเหน็จรายเดือนต้องมีอายุการทำงานไม่ต่ำกว่า 25 ปี ส่วนบำนาญต้องรับราชการมาเกิน 10 ปี และหลังเกษียณจะได้ได้สิทธิในการรักษาพยาบาล กลุ่มลูกจ้างประจำจึงอยากจะได้สิทธิเช่นเดียวกันด้วย
    ทั้งนี้ ผู้แทนของกลุ่มลูกจ้างประจำยื่นเงื่อนไขว่าจะนำมวลชนร่วมเรียกร้องในวันที่ 13 ส.ค.ที่จะถึงนี้ แต่ภายหลังจากได้หารือร่วมกันในเบื้องต้น ทำให้ได้ข้อสรุปว่ากลุ่มลูกจ้างฯ จะไม่มาชุมนุมเรียกร้องแล้ว และปรับเปลี่ยนเป็นการหารือระหว่างตัวแทนกลุ่มลูกจ้างประจำจำนวน 25 คน และฝั่งรัฐบาล เพื่อหาทางออกร่วมกันอีกครั้งใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ตัวแทนที่จะเข้าร่วมหารือนั้นต้องเป็นผู้แทนที่ได้รับการยอมรับกันเองภายในกลุ่มแล้วจริงๆ ส่วนฝ่ายรัฐบาลต้องแจ้งให้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทราบ เพื่อแต่งตั้งหัวหน้าคณะที่จะมาร่วมพูดคุย พร้อมทั้งกำหนดกรอบการหารือ ตั้งใจว่าภายใน 60 วันจะมีคำตอบมาที่ชัดเจนว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร
    นพ.ประดิษฐกล่าวว่า ปัจจุบันลูกจ้างประจำมีประมาณ 200,000 คน และจะไม่มีการรับเพิ่มอีก ขณะนี้มีผู้เกษียณสะสมอยู่ที่ 10,000 คน และคาดว่าจะเกษียณอายุประมาณปีละประมาณ 3,000-4,000 คน ลูกจ้างกลุ่มนี้จะได้รับสิทธิในการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับข้าราชการคือ 12,000 บาทต่อหัว ดังนั้นถ้ามีสะสมอยู่ประมาณ 10,000 คน ค่ารักษาพยาบาลจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงและอยู่ในวิสัยที่รับได้ แต่ต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบว่ามีเหตุผลที่สมควรหรือไม่ เพราะการให้สวัสดิการตรงนี้จะเป็นงบประมาณผูกพัน ซึ่งอาจจะส่งผลกับระบบการเงินของรัฐบาล อีกทั้งการให้สวัสดิการตรงนี้จะเป็นตัวอย่างให้กับลูกจ้างกลุ่มอื่นๆ ด้วย
    “ต้องเรียนให้นายกฯ ทราบก่อนว่าจะมอบหมายให้ใครเป็นหัวหน้าในการพูดคุย รวมไปถึงหัวข้อในการพูดคุย ว่าลูกจ้างกลุ่มนี้มีกี่คนกันแน่ จะเกษียณจริงๆ เท่าไหร่ จะมีผลกระทบด้านการเงินเท่าไหร่ ต้องมาคุยกัน และความชอบธรรมที่จะให้ เพราะถ้าเหตุผลไม่ชัดเจน ไม่ชอบธรรม ก็อาจจะเป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มอื่นๆ ได้” รมว.สธ.กล่าว
    นพ.ประดิษฐยังได้กล่าวถึงกรณีที่มีบุคลากรกลุ่มต่างๆ ของ สธ.ออกมาเรียกร้องกันมากขึ้นว่า การออกมาเรียกร้องเรื่องต่างๆ ก็เป็นสิทธิ แต่เหตุผลของการเรียกร้องก็ต้องชอบธรรมด้วย เพราะสิทธิกับเหตุผลเป็นคนละเรื่องกัน บางเรื่องตนก็รับ เพราะเห็นว่ามีเหตุผลอันชอบธรรม บางเรียกร้องมาทำไม่ได้ เราก็บอกว่าทำไม่ได้ การใช้คนหมู่มากเข้ามาเรียกร้องบางครั้งจะเกิดความรู้สึกไม่ดี การส่งตัวแทนมาคุย มาทำงานร่วมกันยังพอมีทางออก ได้ข้อยุติบ้าง แต่ที่สำคัญคือต้องเป็นตัวแทนที่ชอบธรรมจริงๆ เราไม่สนับสนุนให้ใช้คนหมู่มากมา

ไทยโพสต์