ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจสุขภาพส.ส.-ส.ว.พบ56%อ้วนเกินไป  (อ่าน 1248 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
ตรวจสุขภาพส.ส.-ส.ว.พบ56%อ้วนเกินไป
« เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2010, 18:28:40 »
เปิดผลสำรวจพฤติกรรม สุขภาพ ส.ส.-ส.ว. พบ 56% รูปร่างอ้วนเกินไป 43% ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ เปิดโรคของคนวัยทำงาน “ กรดไหลย้อน-นอนกรน ” แพทย์ชี้ เสี่ยงต่อความจำ-สมองตายได้

ที่รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเครือข่ายคนไทยไร้พุง จัดงาน “Good Life-Good Health: ชีวิตดี สุขภาพดี ” เพื่อตรวจสุขภาพป้องกันปัจจัยเสี่ยงของโรค และการดูแลสุขภาพ ในกลุ่มส.ส. ส.ว. เจ้าหน้าที่รัฐสภา และสื่อมวลชน เพื่อเป็นต้นแบบของการดูแลสุขภาพ โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดงาน

 นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า การดูแลรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มส.ส. และส.ว. จะเป็นตัวอย่างต่อไปสำหรับประชาชนในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจทางสุขภาพในองค์กรนิติบัญญัติ จำนวน 208 คน ระหว่างวันที่ 19 มิถุนายน - 19 ตุลาคม 2552 พบว่า พฤติกรรมการดูแลสุขภาพ ส.ส. และส.ว. กว่า 90 % มองว่า ตนทุ่มเทในการทำงานในระดับมากถึงมากที่สุด ซึ่งผลจากการทุ่มเทในการทำงานทำให้ตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 56 % มีเวลาพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอ และยังพบว่า 43 % มีเวลาดูแลสุขภาพของ ตนเองในระดับค่อนข้างน้อย และในแต่ละวันส.ส.และส.ว.มีพฤติกรรมที่ไม่เคลื่อนไหว เช่น นั่งทำงาน นั่งรถ ดูโทรทัศน์ เฉลี่ย 5 ชั่วโมง 26 นาทีต่อวัน

 “พฤติกรรมการใช้ชีวิตเหล่านี้ ส่งผลให้เกินครึ่งหนึ่ง คือ 56 % มองว่ารูปร่างของตนเองอ้วนเกินไป ส่วน 42 % เห็นว่าพอดี และ 2 % มองว่าผอมเกินไป ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลการใช้บริการทางสุขภาพของ ส.ส. พบว่า ปัญหาโรคที่เกิดจากการทำงานที่สำคัญคือ กรดไหลย้อน ที่มาจากการรับประทานอาหารไม่ตรงตามเวลา และการใช้บริการผ่าตัดแก้โรคนอนกรน ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะน้ำหนักเกิน   และพฤติกรรมการนอน ที่มีความเสี่ยงทำให้อาจอยู่ในภาวะสมองขาดออกซิเจน ซึ่งโรคเหล่านี้ถือเป็นโรคที่พบบ่อยในวัยทำงาน และผู้ที่อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน หากส.ส. และส.ว. มีความรู้ในเรื่องโรคใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้น และรู้จักการป้องกันรักษาสุขภาพล่วงหน้า ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพลงได้ และยังสามารถนำความรู้เหล่านี้ ไปถ่ายทอดในพื้นที่ถึงการป้องกัน และการสร้างเสริมสุขภาพอีกด้วย ” นายชัย กล่าว

 ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า สำหรับกิจกรรม “Good Life-Good Health: ชีวิตดี สุขภาพดี ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 - 5 พฤศจิกายน โดยกิจกรรมประกอบด้วย 3 โซนที่สำคัญคือ โซนตรวจสุขภาพ โดยจะมีการตรวจวัดความเสี่ยงของการเกิดโรคกรดไหลย้อน และภาวะสมองขาดออกซิเจนจากการนอน ซึ่งเป็นโรคที่มักเกิดขึ้นกับกลุ่มคนวัยทำงาน และมีน้ำหนักเกิน โซนออกกำลังกาย โดยการนำเสนอ “ ยาง ยืด เหยียด ” นวัตกรรมออกกำลังกายแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นการยืดเหยียดจากความเมื่อยล้าของการทำงาน และโซนผ่อนคลาย กับดนตรีบำบัด ที่ฝึกการหายใจ การผ่อนคลายความตึงเครียด และช่วยปรับสมดุลของระบบการเผาผลาญของร่างกาย รวมทั้งการนวดเพื่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้นำชุดความรู้สำหรับการดูแลสุขภาพในช่วงน้ำท่วม เผยแพร่ให้กับสมาชิกรัฐสภา เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่อไป

 นพ.ฆนัท ครุฑกูล ผู้จัดการศูนย์หัวใจ หลอดเลือด และเมตาบอลิก โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า โรคกรดไหลย้อน และโรคภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ เป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยในกลุ่มคนวัยทำงาน และผู้ที่อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งโรคกรดไหลย้อน เกิดจากกรดในกระเพาะอาหารมาก หรือกล้ามเนื้อหูรูดในหลอดอาหารคลายตัว จึงเกิดอาการแสบร้อนหน้าอกและคอ เนื่องจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น การทานกาแฟ ช็อคโกแลต และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะเป็นตัวกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะและการคลายตัวของกล้ามเนื้อหูรูด การรับประทานอาหารมากจนเกินไป และผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก วิธีการแก้ไขคือ การควบคุมพฤติกรรมการกินให้พอเหมาะ ลดการทานกาแฟ ช็อคโกแลต และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

                นพ.ฆนัท กล่าวอีกว่า สำหรับโรคภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ซึ่งพบบ่อยในกลุ่มคนที่นอนกรน วิธีสังเกตว่านอนกรน หรืออยู่ในภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับหรือไม่ สังเกตได้จากเมื่อตื่นนอนจะรู้สึกอ่อนเพลีย ง่วง เหมือนนอนไม่เต็มที่ ซึ่งเกิดจากการอุดกลั้นของการหายใจทำให้ออกซิเจนไม่สามารถไปเลี้ยงสมองอย่าง เต็มที่ ส่งผลให้เกิดความดันสูง ความจำไม่ดี และถ้าเป็นมากจะทำให้สมองบางส่วนตายได้ หัวใจและปอดทำงานหนักมากขึ้น   ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก วิธีการรักษาคือการลดน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ส่วนผู้ที่มีลิ้นไก่สั้นอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่การผ่าตัดหากไม่มีการลดน้ำหนัก ก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก   

คม ชัด ลึก 3 พฤศจิกายน 2553