หลังจาก ศ.นพ.สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ได้เปิดประเด็นกรณี ผอ.สวรส.รายหนึ่งที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นในทีมวิชาการของ 2 รมต.สธ. ว่าในช่วงที่ยังเป็นผอ.สวรส.นั้น ได้ทำเรื่องเสนอขอค่าตอบแทนพื้นฐานรายเดือนและโบนัสทั้งที่คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย เพราะตาม พ.ร.บ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พ.ศ.2535 ระบุว่า ตำแหน่ง ผอ.ไม่สามารถรับค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนและโบนัสได้
สำนักข่าว Health Focus ได้พยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์ อดีตผอ.สวรส. ซึ่งทราบกันดีว่า คือ นพ.พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข นั้น แต่ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์เนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ และยินดีให้สัมภาษณ์ภายในสัปดาห์หน้านั้น
ระหว่างนี้จึงได้สอบถามข้อมูลเชิงลึกกับแหล่งข่าวในสวรส.ซึ่งพบประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1.สวรส.เป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 11 แห่งพ.ร.บ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และในมาตรา17 แห่งพ.ร.บ.นี้ ได้บัญญัติว่า ให้คณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (บอร์ดสวรส.)เป็นผู้กำหนดอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
ซึ่งวิธีการพิจารณาเพื่อขึ้นเงินเดือนหรือโบนัสนั้น สวรส.จะทำการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาผลงานของผู้อำนวยการ และพิจารณาเปอร์เซนต์ในการขึ้นเงินเดือนและโบนัส นำเสนอต่อบอร์ดสวรส.เพื่อทำการอนุมัติ
2. ในกรณีที่เป็นประเด็นร้องเรียนอยู่ในขณะนี้นั้น คณะอนุกรรมการได้พิจารณาขึ้นเงินเดือนพร้อมทั้งได้มีการพิจารณาเงินค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนการให้แก่ผอ.สวรส. และได้มีการตรวจสอบว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยทำหนังสือสอบถามไปยัง คณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งได้รับคำตอบว่า สามารถดำเนินการได้ ตาม พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ.2542 ซึ่ง สวรส.จัดอยู่ในองค์การมหาชนกลุ่มที่ 2 ตามพ.ร.บ.นี้ จึงนำหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชนมาใช้
3. เมื่อ นพ.พงษ์พิสุทธิ์ ดำรงตำแหน่ง ผอ.สวรส.ครบวาระแรก ในวันที่ 30 เม.ย.53 บอร์ดสวรส.ได้มีมติเห็นชอบให้ นพ.พงษ์พิสุทธิ์ เป็นผอ.สวรส.ต่ออีกวาระหนึ่ง ซึ่งต้องมีการเสนอชื่อให้ครม.เห็นชอบตามกระบวนการ แต่ในระหว่างนี้กระบวนการล่าช้า นพ.พงษ์พิสุทธิ์ จึงยังอยู่ในฐานะรักษาการผอ.
ทางสวรส.จึงได้หารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความในช่วงที่รักษาการ ในประเด็นต่างๆ เช่น อำนาจหน้าที่ หรือการอนุมัติการดำเนินการต่างๆ รวมถึงเรื่องค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนและโบนัสนี้ด้วย ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ตีความตอบกลับมาในเรื่องอำนาจการทำงานต่างๆ ในช่วงรักษาการผอ.สวรส.นี้
แต่ที่เป็นประเด็น คือ ในเรื่องการกำหนดอัตราเงินเดือนและค่าตอบแทนอื่นๆ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่า พ.ร.บ.สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มีการประกาศใช้ก่อน พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ. 2542 ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะใช้หลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชนได้
หลังจากนั้น สวรส.จึงได้นำความเห็นประเด็นเรื่องค่าตอบแทนนี้ของคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดสวรส. ซึ่งบอร์ดสวรส.ก็มีมติให้ระงับและหยุดจ่ายค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนและโบนัสให้กับนพ.พงษ์พิสุทธ์ แต่ไม่ได้มีมติขอเงินคืนจากนพ.พงษ์พิสุทธิ์แต่อย่างใด
จนกระทั่ง นพ.สมเกียรติ เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.สวรส. ในปี 2555 และได้ทำหนังสือขอความเห็นต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษตามผลการปฏิบัติงานของผอ.สวรส. ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า บอร์ดสวรส.ไม่มีอำนาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษตามผลการปฏิบัติงานให้ผอ.สวรส.
และประเด็นนี้จึงได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็น 1 ในอีกหลายกรณีที่ นพ.สมเกียรติระบุว่า ผิดปกติ ส่อทุจริต และได้ฟ้องเรียกเงินโบนัสคืนพร้อมทั้งดอกเบี้ย
ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า บทสรุปสุดท้ายของเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร
Sat, 2014-12-06
http://www.hfocus.org/content/2014/12/8784
