ผู้เขียน หัวข้อ: “ฟูลมูนปาร์ตี้” เกาะพะงัน มหกรรมเมา (และ) มัน คืนพระจันทร์เต็มดวง  (อ่าน 1378 ครั้ง)

seeat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 470
    • ดูรายละเอียด
...ดวงจันทร์...คืนวันเต็มดวง(คืนเดือนเพ็ญ 15 ค่ำ)
       
       กวีเห็นแล้วอาจจะเรียงร้อยถ้อยรจนาออกมาเป็นบทกวีมีจันทร์อันไพเราะจับใจ
       
       คีตกวีเห็นแล้วอาจจะจรดปากการ้อยเนื้อร้องร่ายทำนองเป็นบทเพลงรักใต้แสงจันทร์
       
       จิตรกรอาจมองดวงจันทร์แล้วไม่เห็นกระต่าย หากแต่มองแล้วเกิดจินตภาพเป็นงานแอ๊บสแตร็ก ก่อนที่จะป้ายสีเลอะๆ ลงบนผืนผ้าใบ พร้อมกับบอกใครต่อใครว่างานชิ้นนี้ “แม่ม...โคตรอาร์ตเลยว่ะ”
       
       ปีศาจสุราอาจจะนั่งล้อมวงร่ำสุราเย้ยจันทร์ ก่อนที่จะเมามายใต้เงาจันทร์ และอ้วกแตกอ้วกแตนใต้เงาจันทร์
       
       เด็กน้อยผู้ยากไร้อาจจะท่องกลอน...จันทร์เจ้าเอ๋ย ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า...ด้วยเพียงแอบหวังว่าอาจจะมีชีวิตที่ดีขึ้น (บ้าง) แต่กลอนนี้ไม่ว่าจะท่องมากี่รุ่นต่อกี่รุ่น วิถีของเด็กด้อยโอกาสในบ้านเราก็ไม่เคยดีขึ้น แถมมีแต่จะแย่ลงอีกต่างหาก
       
       กระต่ายอาจจะมองแล้วหมายปองถึงดวงจันทร์
       
       คนอกหักอาจจะมองจันทร์แล้วน้ำตาไหลพรากสะท้อนประกายแสงจันทร์บนใบหน้า
       
       พวก ไลเคน เจคอบ หรือมนุษย์หมาป่า ยามเหมือนเห็นพระจันทร์เต็มดวงแล้วจะออกอาการเขี้ยวงอก ขนงอก พร้อมจะกลายเป็นหมาป่าออกอาละวาดได้ทุกเมื่อ
       
       และสำหรับนักท่องเที่ยวนับพันนับหมื่นที่ “เกาะพะงัน” จ.สุราษฎร์ธานี ดวงจันทร์ในคืนวันเต็มดวง คือ สิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอคอย หลายคนดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากประเทศไกลๆ เพียงเพราะต้องการมาสัมผัสกับบรรยากาศอันเมา (และ) มัน ของ “ฟูลมูนปาร์ตี้” มหกรรมริมชายหาดที่โด่งดังขึ้นชื่อระบือไกลในระดับโลก

ฟูลมูนปาร์ตี้เริ่มจากงานเล็กๆก่อนพัฒนาสู่งานปาร์ตี้ระดับโลก
       กำเนิด
       
       ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า งานฟูลมูนปาร์ตี้ในเมืองไทย มีต้นกำเนิดจากที่ไหน เสม็ด สมุย หรือพะงัน แต่สำหรับต้นกำเนิดของงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่ เกาะพะงัน มีข้อมูลบันทึกว่า เมื่อช่วงราวๆ ปี พ.ศ.2530-31 (บางข้อมูลบอกปี 28) มีคนกลุ่มหนึ่งประมาณ 20-30 คน ได้จัดงานวันเกิดขึ้นที่หาดริ้นนอกในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง (บ้างก็ว่าเป็นการจัดงานเลี้ยงส่งนักท่องเที่ยว) ซึ่งสมัยนั้นสภาพพื้นที่ที่นี่ยังคงดิบๆ มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าความเป็นชุมชนท่องเที่ยวเหมือนในสมัยนี้
       
       จากนั้นคนอื่นๆ ได้นำแนวคิดการจัดงานในคืนวันพระจันทร์เต็มดวงไปจัดบ้าง จนแพร่หลายกลายเป็นที่นิยม และพัฒนามาสู่งานฟูลมูนปาร์ตี้ที่หาดริ้นนอกอันขึ้นชื่อเฉกเช่นปัจจุบัน

คู่รักสะท้อนแสง
       ช่วงแรกๆ ที่ฟูลมูนเกาะพะงัน เริ่มเป็นที่พูดถึง ทิวทัศน์ในคืนเดือนเพ็ญที่หาดริ้นนอกนั้นได้ชื่อว่า สวยงามมาก หลังตะวันลับฟ้า พระจันทร์ดวงกลมโตจะค่อยๆ แย้มพรายจากฟากฟ้ามาส่องแสงสกาวสุกใส สะท้อนกับผืนแผ่นน้ำเปล่งประกายสวยงาม ท่ามกลางเวิ้งอ่าวที่ตีโค้งโอบล้อม
       
       ความสวยงามนี้ทำให้นักเขียน นักเดินทาง นำเรื่องราวความประทับใจไปบอกผ่านตัวหนังสือ บอกกันต่อแบบปากต่อปาก จนงานฟูลมูนฮอตฮิตโด่งดังไปทั่วโลก โดยจากสถิติตัวเลขกลมๆ ณ วันนี้ระบุว่า ในช่วงโลว์ซีซั่น (คืนฝนไม่ตก) จะมีคนมาร่วมงานฟูลมูนคืนละไม่ต่ำกว่า 8 พันคน ส่วนในช่วงไฮซีซัน (คืนฝนไม่ตก) จะมีคนมาร่วมงานฟูลมูนกันเป็นจำนวนมากถึงกว่า 30,000 คนเลยทีเดียว

ทุกคืนเดือนเพ็ญหาดริ้นนอกจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว
       แต่สำหรับวันนี้ ความสวยงามในคืนเดือนเพ็ญที่หาดริ้นนอก แทบจะไม่มีคนสนใจ เพราะฟูลมูลปาร์ตี้วันนี้มันได้กลายเป็นมหกรรมแห่งความเมามัน ดื่ม แดนซ์ และปลดปล่อยกันอย่างสุดขั้วไปแล้ว
       
       เดือนเพ็ญ
       
       คืนวันเพ็ญ ปลายเดือนเมษายน 55
       
       แม้ช่วงบ่ายและเย็นฝนจะตกลงมาทำให้ท้องฟ้าทะมึนขมุกขมัว แต่นั่นดูจะไม่เป็นปัญหาสำหรับฟูลมูลปาร์ตี้คืนนี้ที่หาดริ้นนอก เพราะหลังจากที่ฟ้าเริ่มเปิด ดวงจันทร์ลูกกลมโตแย้มพรายส่องประกายเจิดจ้า ถนนทุกสายบนเกาะพงันล้วนต่างมุ่งหน้าสู่หาดริ้นนอก

เตรียมพร้อมเพ้นต์ร่างกายก่อนเข้างาน
       ราตรีคืนนี้ยังอีกยาวไกล ฉันใดก็ฉันเพลที่ค่ำคืนแห่งฟูลมูนปาร์ตี้คืนนี้ยังอีกยาวไกล (มาก) ทำให้ความคึกคักของที่นี่เริ่มสักประมาณ 4 ทุ่มเห็นจะได้
       
       เดิมงานฟูลมูนมีฝรั่งต่างชาติมากกว่า 95% (เป็นพวกวัยรุ่น คนหนุ่มสาว แบ็กแพกเกอร์) แต่เดี๋ยวนี้มีหนุ่มสาวคนไทยนิยมกันไม่น้อย ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวชาวไทยในงานฟูลมูนเพิ่มมาอยู่ที่ประมาณ 10%
       
       พวกฝรั่งที่มาปาร์ตี้ส่วนใหญ่จะมาแบบจัดเต็ม กะมาแดนซ์ มาเมา และมามันกันอย่างเต็มที่ แถมบางคนอาจมาหาออปชันพิเศษบรรเลงรมย์เอาดาบหน้าอีกด้วย

ควงกระบองไฟ กิจกรรมฮิตริมชายหาด
       หนุ่มๆ ฝรั่งส่วนใหญ่ที่มาในงานนี้ จะนุ่งกางเกงขาสั้นเดินถอดเสื้อโทงๆ ส่วนผู้หญิงจะเน้นนุ่งน้อยห่มน้อยเป็นหลัก บางคนเล่นใส่บราเดินโชว์หราแบบไม่แคร์สื่อ เพราะพวกนี้เขาไม่ถือ แต่หนุ่มไทยหลายๆ คนนี่ไม่ได้ ถ้าเห็นแหม่มขาวสาวสวยๆ เดินตู้มๆ หนองโพล้นกระจายเป็นต้องหันมองตามจนน้ำลายฟูมปาก
       
       ก่อนเข้างานฟูลมูน นักท่องเที่ยวหลายๆ คนนิยมเพนต์เนื้อเพนต์ตัวแบบเชียร์บอล โดยจะใช้สีสะท้อนแสงที่มีคนไทยมาจัดเตรียมไว้บริการวาดลวดลายลงไปตามเนื้อ ตัว หลัง ขา แขน และหน้า โดยลายที่นิยมก็เป็นลายธงชาติของชาติตน หรือไม่ก็ข้อความบอกตัวตน บางคนชัดถึงขนาดบอกให้ว่ามีรสนิยมแบบไหน
       
       นอกจากนี้ ยังมีพวกเสื้อผ้า ที่คาดผม แหวน สร้อย หรืออุปกรณ์สะท้อนแสงอีกหลากหลายเป็นพร็อบสำหรับการเข้าร่วมงานฟูลมูน เพราะใต้เงาจันทร์สีสะท้อนแสงพวกนี้มันจะดูลอยเด่นเป็นพิเศษ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคู่งานฟูลมูน
       หลังเตรียมกายพร้อมพรัก (ส่วนใจนั้นพร้อมนานแล้ว) เหล่านักท่องเที่ยวก็จะทยอยเดินเข้าสู่งาน ที่บริเวณเส้นทางสู่งานหน้าหาดริ้น นอกจะมีของขายเพียบ ทั้งเสื้อผ้า อาหาร ของที่ระลึก แผงเพนต์ตัว และที่ขาดไม่ได้ คือ ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งที่นิยมกันมากก็เห็นจะเป็นเหล้าถัง หรือ “Bucket” ที่มีวางขายกันอยู่ทั่วไป
       
       เหล้าถัง ประกอบด้วย เหล้า (หลากยี่ห้อ) ผสมกับมิกเซอร์สารพัดสูตร ตามแต่ใครจะเลือกผสมลงในถังพลาสติกใบเล็กขนาดถังน้ำแข็งตามร้านเหล้า ที่หากใครดื่มคนเดียวหมดถังก็เมากรึ่มแล้ว
       
       อ้อ!?! จากประสบการณ์การดื่มเหล้าถังที่นี่ ผมขอแนะนำว่า อย่างเปลี่ยนสูตรบ่อย เพราะจะเมาหัวทิ่มหัวตำเอาได้ง่ายๆ

       สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับฟูลมูนปาร์ตี้เป็นของคู่กัน เพราะถ้าไม่เมาฟูลมูนไม่มัน ถ้าไม่เมาแดนซ์ไม่ออก ถ้าไม่เมามิสู้นอนดูบอลอยู่ที่ที่พักดีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากนักท่องเที่ยวคนไหนเกิดเมามาก ทาง อบต.หาดริ้น เขาก็มีการจัดที่จัดทางไว้ให้นอนสำหรับคนเมา คนง่วง แต่ส่วนใหญ่จะนอนเผละนอนเกลือกกลิ้งบนชายหาดมันนั่นแหละ ส่วนถ้าใครเมามากถึงขาดอาละวาด ทางเจ้าหน้าที่เขาก็จะจับไปสงบสติอารมณ์
       
       เรียกได้ว่างานนี้เมาได้แต่อย่าสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

       เมามัน
       
       ของคู่ฟูลมูนปาร์ตี้อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การแดนซ์ เต้นแร้ง เต้นกา เต้นหมา เต้นแมว ซึ่งตลอดแนวชายหาดริ้นที่ยาวเป็นกิโล จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาแดนซ์กระจายกันอย่างสนุกสนาน โดยเพลงประกอบการเต้นที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเทคโนแดนซ์ R&B เฮาส์ ฮิปฮอป ส่วนพวกเร็กเก้ที่ผมเห็นก็มีอยู่ร้านหนึ่ง คนไม่เยอะเท่าไหร่ เรียกว่า เป็นนิชมาร์เก็ตสำหรับแฟนเพลงเฉพาะกลุ่ม ซึ่งแต่ละร้านต่างก็จะเปิดเพลงของตัวเอง ร้านไหนเปิดเพลงสนุกก็จะมีคนมาเต้นกันเยอะเป็นพิเศษ

       นอกจากการดื่มและแดนซ์แล้ว ฟูลมูนบนหาดริ้นนอก ยังมีกิจกรรมเกี่ยวกับไฟเพื่อความสว่างไสวในยามค่ำคืน อาทิ การควงกระบองไฟ ควงโซ่ไฟ กระโดดเชือกไฟ สไลเดอร์ผ่านห่วงไฟ เป็นต้น หรือที่ดูเป็นไทยๆ มาก ก็คือ การ “ดูหมอ” ริมหาด
       
       ส่วนกิจกรรมที่มาตามธรรมชาติตามความเมา ก็คือ การกอดจูบ พลอดรักฟัดเหวี่ยงกันใต้แสงจันทร์ ถือเป็นวัฒนธรรมตะวันตกที่เราเห็นกันจนชินตา

       สำหรับดีกรีของความเมา มัน (และมั่วบ้างสำหรับนักท่องเที่ยวบางคน) จะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามเข็มนาฬิกา ยิ่งดึกยิ่งเมา ยิ่งสนุก โดยจุดพีกจะอยู่ในช่วงประมาณ ตี 2 ตี 3 และงานจะจบลงในช่วงเช้า ที่ต่างคนต่างแยกย้าย ส่วนถ้าใครยังติดลมเขาก็มีที่ทางให้ไปต่อ แบบสนุกกันให้สุดๆไปเลย ซึ่งบรรยากาศการไปต่อของเช้าวันใหม่นั้นมันเป็นเช่นไร เรื่องนี้ผมมิอาจรู้ได้ เพราะไม่ได้ไปต่อ รู้แต่ว่าเกือบ 1 คืนเต็มๆ ที่มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับงานฟูลมูนปาร์ตี้บนเกาะพงันมา งานนี้แม้มันจะให้ความรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้อยู่บนเมืองไทย แต่นี่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเรา

       เป็นวิถีของการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีทั้งด้านบวกและลบ ซึ่งส่งผลคนในพื้นที่อาจต้องปรับตัวให้สอดรับกับสภาพที่เกิดขึ้น แม้ว่าลึกๆ แล้ว ในใจของใครและใครหลายคนอาจจะไม่เห็นด้วยก็ตาม...(อ่านภาคต่อของฟูลมูนปาร์ตี้เกาะพงันต่อในตอนหน้า)


ปิ่น บุตรี
manager.co.th  3 พฤษภาคม 2555