ผู้เขียน หัวข้อ: ตรวจเลือดบริจาคพบติดเชื้อเอชไอวี-ตับอักเสบบีอื้อ เกือบ 100% มาจากเพศที่ 3  (อ่าน 991 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   6 มีนาคม 2556 16:27 น.   

   


       อึ้ง! ตรวจเลือดบริจาคด้วยวิธี NAT ปี 52-55 กว่า 3.7 ล้านยูนิต พบติดเชื้อเอชไอวี 34 ราย ตับอักเสบบี 1,489 ราย ยันไม่รับบริจาคเลือดเพศที่ 3 เป็นเกณฑ์สากลและปกป้องสิทธิผู้ป่วย เหตุเกือบ 100% ของเลือดติดเชื้อมาจากกลุ่มนี้ วอนเพศที่ 3 และชายจริงหญิงแท้ บริจาคเลือดแบบรับผิดชอบต่อสังคม มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่ควรบริจาค ชี้ตรวจเลือดมาก่อนไม่ได้ผล เพราะมีช่องว่างการไปติดเชื้อเพิ่ม
       
       วันนี้ (6 มี.ค.) ที่โรงแรมเอเชีย พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวในการประชุมวิชาการงานบริการโลหิตระดับชาติ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2556 ว่า หลังจากประสบปัญหาขาดแคลนโลหิตเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าในช่วงปีใหม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการเข้าบริจาคโลหิตจำนวนมากถึง 12,000 ยูนิต โดยใช้เวลาถึง 2 เดือนในการบริหารจัดการให้มีโลหิตในสต๊อก 4,000-5,000 ยูนิต ซึ่งขณะนี้สภากาชาดไทยมีโลหิตสต๊อกมากถึง 4,000 ยูนิตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อย่างไรก็ตาม จำนวนโลหิตที่สต๊อก ส่วนใหญ่เป็นโลหิตกรุ๊ป B อาจเป็นเพราะคนเลือดกรุ๊ปแข็งแรงและมาบริจาคเยอะ แต่ขาดแคลนโลหิตกรุ๊ป A โดยในจำนวน 4,000 ยูนิต มีกรุ๊ป A เพียง 400-500 ยูนิตเท่านั้น
       
       “โลหิตที่ได้รับบริจาคจะมีการตรวจโดยเทคโนโลยีการตรวจหาสารพันธุกรรมทาางชีววิทยาระดับโมเลกุล (Nucleic Acid Amplification Technology : NAT) เพื่อตรวจหาการติดเชืื้อในโลหิต ซึ่งในส่วนที่ดำเนินการโดยสภากาชาดเพิ่มขึ้นจาก 34% ในปี 2552 เป็น 64% ในปี 2555 ส่วนที่ดำเนินการที่โรงพยาบาล เพิ่มจาก 12% ในปี 2552 เป็น 15% ในปี 2555 เมื่อรวมทั้ง 2 ส่วนสามารถทำการตรวจได้ถึง 80% เพิ่มจากเดิมที่ตรวจได้ 42% อย่างไรก็ตาม ยังมีที่ไม่ได้ตรวจอีก 20% เท่่ากับยังมีความเสี่ยงที่จะมีการระบุว่าผู้ป่วยได้รับเลือดที่เสี่ยง ในอนาคตสภากาชาดพร้อมที่จะรับดำเนินการตรวจให้ได้ 100%” พญ.สร้อยสอางค์ กล่าว