แพทย์แผนจีนแนะฝังเข็มลดอาการปวดตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย อีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมหรือโรคบ้างาน ที่กำลังฮิตในหมู่หนุ่ม-สาวคนทำงาน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม แพทย์แผนจีนบุญเหลือ รุ่งสกาวเลิศ ประจำคลินิกเครือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท กล่าวว่าปัจจุบันสังคมคนเมืองดำรงชีวิตโดยการทำงานใช้สมองมากขึ้น แต่ใช้กำลังและการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง วันๆ นั่งทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศ ปิดหน้าต่างเปิดแอร์เย็นฉ่ำทั้งวัน หลายคนลืมไปว่าอากาศในห้องไม่ถ่ายเท เก้าอี้ไม่มีพนักพิงช่วยรองรับหลัง จอคอมพิวเตอร์ไม่อยู่ในระดับสายตา โต๊ะทำงานกับเก้าอี้สูงไปหรือต่ำไป แผ่นรองรับข้อมือไม่ได้ระดับ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานมักอยู่ในอิริยาบถที่ไม่ถูกสุขลักษณะ การนั่งหลังงอหลังค่อม ยกไหล่ นั่งไขว้ห้างเอี้ยวตัว ใส่รองเท้าส้นสูง ยืนหลังแอ่น ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้ ทั้งต้นคอ บ่าไหล่แขน ข้อมือ ปวดและชา นิ้วล็อก ปวดเบ้าตาและศีรษะ ยิ่งเวลามีงานเร่งรีบสายตาจ้องอยู่กับคอมพิวเตอร์นานกว่าวันละ 6 ชั่วโมง จะเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดคือ คอร์ติซอล ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว ส่งผลให้ระบบการไหลเวียนในร่างกายไม่ดี จึงเป็นวงจรของการเกิดอาการปวดตามร่างกายต่างๆ ที่คนสมัยนี้เรียกว่า โรคออฟฟิศซินโดรม
โรคออฟฟิศซินโดรม หรือโรคบ้างานเดิมทีจะพบมากในผู้ชายญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ทุกวันนี้พบในสังคมไทยแล้ว และจากการสำรวจ ประชากรวัยแรงงานหรือวัยทำงานของประเทศไทย พบว่ามีจำนวนถึงร้อยละ?67 ของจำนวนประชากรทั่วประเทศ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงแก่ชีวิต แต่โรคออฟฟิศซินโดรมก็เป็นภัยคุกคามสุขภาพอย่างมาก
อาการปวดของออฟฟิศซินโดรมเกิดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานผิดปกติเป็นประจำ ทำให้เลือดและน้ำหล่อเลี้ยงเกิดการคั่งอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลานาน ไม่สามารถขับถ่ายออกจากในตำแหน่งคั่ง ส่งผลให้เลือดใหม่ไม่สามารถนำเอาออกซิเจนและสารอาหารใหม่เข้าไปให้การบำรุงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งอวัยวะต่างๆ เช่น กระเพาะอาหาร เกิดแรงกดดันตามเส้นเลือดและการขาดการบำรุง จึงทำให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นและอวัยวะเกิดการปวดเมื่อยและอักเสบซึ่งผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง กลุ่มคนที่ใกล้วัยทองและคนที่ต้องรับผิดชอบงานมากกว่าปกติ จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้ง่าย หนัก และเป็นนานกว่าคนอื่นๆ
วิธีการป้องกันและรักษาตัวเองคือควรจะเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมในการทำงาน ปรับสภาพที่ทำงานให้ถูกสุขลักษณะ จัดโต๊ะ เก้าอี้ เครื่องคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับระดับร่างกายตัวเอง ใส่ใจอิริยาบถร่างกายให้เหมาะสมในการทำงานลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย ออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างการทำงานสม่ำเสมอ ออกกำลังกายในวันหยุด
นอกจากนี้ การฝังเข็มของศาสตร์แพทย์แผนจีน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม โดยแพทย์แผนจีนบุญเหลือ อธิบายว่า การฝังเข็มเป็นศาสตร์การรักษาที่มีมานานกว่าสี่พันปี เริ่มต้นจากประเทศจีน และได้แพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรปและอเมริกา เป็นต้น จนได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกตั้งแต่ปีค.ศ.1979 และอีกครั้งในปีค.ศ.1995 ว่าเป็นทางเลือกในการรักษาโรค และอาการป่วยต่างๆ 57 โรค รวมถึงอาการปวดข้อ ปวดไหล่ปวดศีรษะ ช่วยลดการอักเสบอย่างได้ผล ซึ่งการฝังเข็ม แยกเป็น 2 ชนิด คือ ฝังไปที่เส้นประสาท เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวเลือดไหลเวียนดี และฝังเพื่อให้จิตใจผ่อนคลายซึ่งจะฝังจุดที่เส้นประสาทจะสั่งการไปยังสมองส่วนกลางให้หลั่งสารเอ็นโดรฟินจะช่วยให้จิตใจผ่อนคลายขึ้น
การฝังเข็มเป็นการกระตุ้นเส้นประสาทให้สั่งการไปยังกล้ามเนื้อที่บีบรัดตัวอยู่ให้เกิดการคลายตัว ส่งผลให้เส้นเลือดที่อยู่ในบริเวณกล้ามเนื้อนั้นมีการไหลเวียนได้ดีขึ้น ออกซิเจนและสารอาหารใหม่จึงจะสามารถเข้าไปให้การบำรุงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น รวมทั้งอวัยวะในบริเวณนั้นๆ ได้ อาการปวดจึงลดลงได้ และจากการศึกษาของแพทย์แผนปัจจุบันพบว่าการฝังเข็มทำให้เกิดการหลั่งสารเอ็นโดรฟินซึ่งช่วยลดอาการปวดได้
อย่างไรก็ตาม แพทย์แผนจีนบุญเหลือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการฝังเข็ม ย้ำว่าแม้จะฝังเข็มแล้ว แต่โรคออฟฟิศซินโดรมจะดีขึ้นได้ต้องเกิดจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานให้ถูกต้อง ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และที่สำคัญควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หากมีอาการใดๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วก่อนอาการลุกลาม
