ผู้เขียน หัวข้อ: รอคำพิพากษาก่อน แพทยสภาค่อยสอบ หมอตุ๋นหมอลงทุนทัวร์ 64 ล้าน คาดไม่เกิน 1 ปี  (อ่าน 505 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9796
    • ดูรายละเอียด
แพทยสภา ชี้ “หมอ” ตุ๋นหมอลงทุนทัวร์ ต้องรอคำพิพากษา เหตุเป็นคดีความ หากผิดจริงจึงพิจารณาเรื่องจริยธรรม คาด ใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเพราะเป็นแพทย์ ย้ำ “หมอ” นำวิชาชีพไปหลอกลวงคนถือว่ามีโทษ
       
       จากกรณี เรืออากาศโทหญิง พญ.นิจชา รุทธพิชัยรักษ์ อายุ 30 ปี แพทย์โรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย ผู้เสียหายหลากหลายอาชีพกว่า 10 คน แจ้งความดำเนินคดี น.ต.หญิง พญ.ประจำ รพ.รัฐแห่งหนึ่งข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในบริษัททัวร์ วี สยาม เอเจนซี่ จำกัด รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 64 ล้านบาท
       
       วันนี้ (18 เม.ย.) นพ.พินิจ หิรัญโชติ อนุกรรมการกลั่นกรองจริยธรรม แพทยสภา กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า กรณีนี้แตกต่างจากความผิดด้านมาตรฐานวิชาชีพ เพราะไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับการรักษา แต่เป็นเรื่องของคดีความ ซึ่งต้องรอคำพิพากษาจากศาลก่อน และนำมาพิจารณาว่ามีความผิดตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 หรือไม่ โดยพิจารณาข้อบังคับในหมวด 2 หลักทั่วไป ซึ่งข้อ 5 ระบุชัดเจนว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมย่อมดำรงตนให้สมควรในสังคมโดยธรรมและเคารพต่อกฎหมายของบ้านเมือง ดังนั้น หากคำพิพากษาออกมาก็จะนำมาพิจารณาข้อนี้ได้ โดยกรณีนี้ใช้เวลาไม่นานไม่เกิน 1 ปีนับจากคำพิพากษาออกมา

        นพ.พินิจ กล่าวว่า หากมีความผิดจริงการพิจารณาโทษนั้น จะมีโทษด้านจริยธรรม ตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาตไม่เกิน 2 ปี และเพิกถอนใบอนุญาต คือ ไม่สามารถประกอบวิชาชีพได้อีก อย่างไรก็ตาม กรณีเรื่องของการฉ้อโกงนั้น หากประชาชนท่านใดต้องการฟ้องแพทย์ที่เข้าข่ายฉ้อโกง ก็สามารถทำได้ แต่ต้องไปแจ้งความก่อน และจึงมาร้องแพทยสภา เนื่องจากแพทยสภาจะพิจารณาเฉพาะเรื่องจริยธรรมเป็นหลัก แต่คดีความจะต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กรณีของการฉ้อโกง เบื้องต้นแพทยสภาได้หารือกันแล้ว โดยอย่างไรเสียก็ต้องมีการพิจารณา แต่ต้องรอคำพิพากษาความผิดให้ชัดเจนก่อน
       
       เมื่อถามถึงการอาศัยวิชาชีพแพทย์ เพื่อความน่าเชื่อถือ ในการสร้างรายได้ที่อาจไม่ถูกต้องให้กับตนเอง นพ.พินิจ กล่าวว่า แพทย์ก็คนธรรมดาที่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่หากนำวิชาชีพไปใช้หลอกลวงคนอื่นก็ถือว่ามีโทษ และน่าจะมีโทษมากกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ ขณะที่ประชาชนก็ต้องพิจารณา ตั้งสติให้ดี อย่าหลงเชื่อเพราะเข้าใจว่าเป็นแพทย์ เพราะจริงๆ แล้วไม่ควรเชื่อใจใครโดยไม่กลั่นกรอง ต้องระลึกว่า ไม่มีของถูกและดี อย่างทัวร์ลูกโซ่ เป็นต้น เงินแม้จะเล็กน้อยก็เงินเรา แต่ถ้าเอาออกไปก็กลายเป็นเงินคนอื่นแล้ว ดังนั้น ใครชวนทำอะไรต้องมีสติ และพิจารณาให้ดีๆ

โดย MGR Online       18 เมษายน 2560