ผู้เขียน หัวข้อ: ‘ปิยะสกล’เปิดใจหลัง’หมอประทีป’ท้าชนฟ้องศาลปกครอง  (อ่าน 616 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9785
    • ดูรายละเอียด
จากกรณี นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ อดีตรองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดใจภายหลังชวดตำแหน่งเลขาธิการ สปสช. ว่าเตรียมฟ้องศาลปกครอง เพื่อขอเพิกถอนมติคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กรณีไม่รับรองตำแหน่งด้วยคะแนนเสียง 14 ต่อ 13 เสียง เนื่องจากเป็นคะแนนที่มีปัญหา รวมทั้งกระบวนการสรรหาก็มีกระบวนการที่มิชอบ และขัดต่อมาตรา 31 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ที่ระบุว่าเมื่อสรรหาแล้วต้องแต่งตั้งเลขาธิการ พร้อมทั้งขอให้คุ้มครองชั่วคราวต่อกระบวนการสรรหาครั้งใหม่ และจะมีการฟ้องศาลอาญาต่อบอร์ดฯอีกด้วยนั้น

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว ว่าหลังจากมารับตำแหน่งก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่ เดิมทีอะไรที่ยังมีความเห็นแตกต่างไม่ตรงกันอยู่ ก็ค่อยๆ ปรับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่หลังจากนั้น ก็พยายามมีการบูรณาการ ให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยมีพันธกิจหลักคือ องค์กรหลักด้านสุขภาพที่รวมพลังสังคม เพื่อประชาชนสุขภาพดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นปรากฏการณ์ ณ ขณะนี้คือ ความไม่ลงตัวกันในการสรรหาเลขาธิการ สปสช. แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ประชาชนจะไม่รับผลกระทบในส่วนนี้อย่างแน่นอน จึงไม่ต้องกังวล เพราะรักษาการเลขาธิการ สปสช. ก็ยังมี ทางกระทรวงฯก็ยังอยู่ ดังนั้น งานเดินหน้าไม่สะดุด ไม่มีการล้มบัตรทอง ไม่ว่าทางตรงทางอ้อมตามที่มีกลุ่มบิดเบือน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ท่านมารับตำแหน่งสถานการณ์ขัดแย้งดูเบาลง แต่กรณี สปสช.จะทำให้ความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า จริงๆ สปสช.กับ สธ.ก็ยังทำงานเหมือนเดิม ไม่มีอะไรที่กระทบกับประชาชนเลย มีเพียงประเด็นเลือกเลขาธิการ สปสช.เท่านั้น ดังนั้น ตรงนี้ต้องใช้ความอดทน การดูข้อมูลให้ถูกต้อง หันหน้าเข้าหากัน อย่าเพ่งโทษกันการสรรหาครั้งนี้ ถ้าเรียนจากใจจริงตนไม่ได้สร้างสถานการณ์ ทำตามกฎระเบียบข้อบังคับทุกอย่าง แต่ผลที่ออกมาแน่นอนว่าเป็นที่ถูกใจ และไม่ถูกใจคนบางกลุ่มก็เสนอความคิดเห็นได้ ไม่ว่าอะไร ข้องใจในส่วนไหนก็เสนอความคิดเห็นได้ อย่าถือว่าเป็นศัตรูกัน เชื่อว่าแนวความคิดของทุกคนก็มุ่งหวังให้เกิดผลดีกับประเทศทั้งนั้น และถ้าพูดกันเป็นที่เข้าใจก็เดินหน้าต่อไปได้ ทั้งที่งานก็ไม่ได้เสียอะไร

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นพ.ประทีป เตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่และกลายเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า แน่นอนว่ามีคนมุ่งเน้นเปลี่ยนให้เป็นประเด็นทางการเมือง จริงๆ ไม่มีอะไร แต่ก็มีคนเอาไปขยาย ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ไม่เกิดประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ไม่นานก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและกลับมาสู่ความปกติได้ อย่าบอกว่าเป็นพวกคนนั้น พวกคนนี้เลย เราพวกเดียวกัน ทำงานด้วยกัน เราทำงานเพื่อประชาชนด้วยกันทั้งนั้น เพียงแต่มีความขัดข้องในแง่ตัวบุคคล

นพ.ปิยะสกลกล่าวอีกว่า คนธรรมดาดูก็รู้ว่าระบบกับคนแยกออกจากกัน คณะกรรมการ สปสช. ประกอบด้วยผู้แทนทุกภาคส่วน ทั้งวิชาชีพ ทั้งฝั่งกระทรวง ผู้ทรงคุณวุฒิ และเอ็นจีโอ ทุกคนมีสิทธิลงคะแนน ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น ทำไมเมื่อผลการลงคะแนนตามระเบียบปฏิบัติ และผมก็ไม่เคยขอคะแนนเสียงใคร เขามีวิจารณญาณออกมา แต่พอไม่ตรงกับความเห็นของคนส่วนหนึ่ง ก็มาหาว่าจะล้มระบบ ถามว่าระบบนี้เกิดมาเพื่อใคร เกิดมาเพื่อคนกลุ่มเดียว หรือเกิดมาเพื่อคนทั้งประเทศ ผมมองว่าการตัดสินใจของกรรมการแต่ละท่าน เราควรให้เกียรติไม่ใช่หรือ และที่มาบอกว่ากรรมการในบอร์ดไม่มีสิทธิลงคะแนนรับรองซ้ำ ในที่ประชุมได้มีการสอบถามนักกฎหมายของ สปสช. และตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่าให้เป็นไปตามบอร์ดฯ ทุกคำทุกมติมีอยู่ในเทปของการประชุม ไปพิจารณาได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนกลุ่มเห็นต่างจะขอให้รัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก

“ผมจะลาออกเพื่ออะไร ในเมื่อผมทำตามกฎระเบียบอยู่แล้ว และถ้าผมลาออก ระบบสาธารณสุขจะดีขึ้นเลยหรือ ผมพูดสรุปง่ายๆ ไม่มีใครจะไปทำอะไรให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ประชาชนและผู้ป่วยที่ได้รับสิทธิสุขภาพอะไรอยู่ก็จะยังคงได้ และจะได้มากขึ้นด้วย ดังนั้น กลุ่มที่จะไปแสดงออกอะไร ไปเรียกร้องนายกรัฐมนตรี ก็สามารถทำได้หากต้องการเรียกร้อง นพ.ประทีปก็ทำได้ แต่เรียกร้องให้ตัวเอง เพราะหวั่นผลกระทบด้านสิทธิสุขภาพ อันนี้รับรองว่าผมไม่คิดจะล้มหรือจะทำอะไรให้กระทบประชาชนเลย ดังนั้น ใครอยากทำอะไรก็ทำ ผมจะไม่ตอบโต้อีก ใครไปแสดงความคิดเห็นบิดเบือนในโซเชียลก็แสดงไป เพราะหากเราไม่ใช่แบบที่เขากล่าวหา ทั้งหมดก็กลับคืนตัวเอง ที่แน่ๆ หากใครทำให้ระบบเสียหาย ตนจะเอาเรื่องแน่นอน” นพ.ปิยะสกลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการดำเนินคดีกับผู้บิดเบือนข้อมูลหรือไม่ นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า อยากให้งานเดินหน้า แต่ขอบอกเพียงว่า อย่าทำให้ระบบเสียหาย และประชาชนเดือดร้อนเป็นพอ เพราะตนจะไม่ยอม ส่วนจะทำอย่างไรก็ต้องดูว่าฝ่ายที่ทำระบบเสียหายจะทำแบบใดอีก

มติชนออนไลน์
วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2559