ความคืบหน้ากรณีผู้บริหารโรงพยาบาลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกร้องเรียนกล่าวหานำเงินบริจาค 84 ล้านบาทไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หลังจากพระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล อ.หัวหิน ระดมทุนและนำรายได้จากการออกวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด จตุคามรามเทพ รุ่นถวายพ่อหลวง มอบให้โรงพยาบาลหัวหิน ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อนำไปซื้อเครื่องมือแพทย์ ต่อมามีความขัดแย้งระหว่างผู้บริหารโรงพยาบาลกับเจ้าอาวาส เนื่องจากการตรวจสอบสงสัยว่ามีการนำเงินดังกล่าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และเงินบริจาคเหลือเพียง 6 แสนบาท ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงมีคำสั่งให้ นพ.พิภพ เจนสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ สอบข้อเท็จจริงร่วมกับ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ ผู้ตรวจราชการเขต 5 และนิติกรของกระทรวงสาธารณสุข โดยนัดว่าจะมีการสรุปผลสอบในวันนี้ (13 มีนาคม) แต่ต้องขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด
นายทวิชา หวังโภคา ไวยาวัจกร วัดห้วยมงคล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากพระครูปภัสสรวรพินิจ เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคล เปิดเผยว่า หลังจากชาวบ้านผู้บริจาคเงินร้องเรียนไปถึงผู้บริหารกระทรวงสาธารสุข ปรากฏว่าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงล้าช้าเป็นอย่างมาก ทั้งที่การกระทำของผู้บริหารส่อขัดต่อเจตนารมย์ในการระดมทุนเพื่อจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ แต่มีการตรวจสอบพบมีการนำเงินดังกล่าวไปซื้อที่ดิน ซื้อหุ้นพันธบัตร หุ้นกู้ ด้วยการจัดตั้งมูลนิธิเพื่อการพัฒนาโรงพยาบาลในฐานะนิติบุคคล ซึ่งมี นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหินเป็นประธาน เข้าข่ายอาจผิดต่อเจตนารมณ์ นอกจากนี้ไม่มีชื่อเจ้าอาวาสเป็นผู้มีอำนาจร่วมในการเบิกจ่าย แต่มีการแจ้งลงบันทึกหลักฐานว่าสมุดบัญชีดังกล่าวสูญหายที่ สภ.หัวหิน เนื่องจากเดิมเงินบริจาคฝากไว้ในบัญชีธนาคารกรุงไทย มีข้อกำหนดให้ใช้ชื่อกรรมการ 3 ใน 5 คนลงลายมือชื่อในการเบิกจ่ายและทุกครั้งที่เบิกจ่าย จะต้องมีลายมือชื่อของเจ้าอาวาสร่วมด้วยจึงจะสมบูรณ์ ที่สำคัญการนำเงินบริจาคที่มูลนิธินำไปใช้ เจ้าอาวาสวัดไม่ได้รับทราบมาก่อน จนกระทั่งมูลนิธินำที่ดินบางส่วนที่มีการนำเงินบริจาคจัดซื้อ มาให้โรงพยาบาลหัวหินเช่าใช้ประโยชน์
“หลังจากมีปัญหาวัดมีการตั้งทนายฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายฐานผิดสัญญาการรับฝากเงิน ติดตามทรัพย์สินเป็นเงินกว่า 103 ล้านบาท มีการแจ้งความที่ สภ.หัวหิน เพื่อติดตามทรัพย์สินจาก นพ.นิรันดร์ กับพวกรวม 5 รายและต่อมาศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไดรับฟ้องคดีดำที่ 728/2554 จากนั้นได้ร้องไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งขณะนี้มีผลสรุปจากเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ อยู่ระหว่างการนำเสนอนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอเพื่อเสนอพิจารณาเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายอาจปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบขัดต่อประมวลกฎหมายอาญา ส่วนผลสรุปว่าจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่น่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน สภ.หัวหินก็สรุปสำนวนส่งให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ “นายทวิชา กล่าว
นายทวิชา กล่าวอีกว่า หลังจากวัดมอบเงิน 84 ล้านบาทให้ นพ.ไชยนันท์ ทยาวิวัฒน์ อดีต ผอ.โรงพยาบาลหัวหินแล้ว ได้มีการเสนอให้จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ล็อตแรก 30 ล้านบาท แต่ไม่ได้จัดซื้อเนื่องจาก นพ.ไชยนันท์ถูกคำสั่งย้ายด่วน เงินดังกล่าวถือว่าเป็นงบประมาณของทางราชการ การนำไปใช้จ่ายที่จะต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ซึ่งที่ผ่านมานายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้มีหนังสือถึงโรงพยาบาลหัวหิน หลังจากนำปัญหาดังกล่าวหารือกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่างบฯดังกล่าวเป็นของทางราชการ ดังนั้นการนำเงินไปเบิกจ่ายในนามของมูลนิธิจึงน่าจะมีปัญหา เนื่องจากไม่มีการตั้งงบประมาณล่วงหน้า
นพ.พิภพ เจนสุทธิเวชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องใด ๆ ตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการระดมทุนและได้รับเงินบริจาค 84 ล้านบาท ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งให้ตนเป็นกรรมการสอบข้อเท็จริงร่วมกับ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ ผู้ตรวจราชการเขต 5 และนิติกรของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแม้นัดว่าจะมีการสรุปในวันที่ 13 มีนาคม แต่มีการขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงหลายฝ่ายเพื่อเจรจาให้ผู้บริหารโรงพยาบาลนำเงินสดทั้งหมดมาคืนแต่ไม่มีผล ส่วนตนต้องการให้เรื่องนี้มีข้อสรุปโดยเร็วและสร้างความกระจ่างให้ผู้ที่บริจาคทรัพย์เพื่อการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์
นายสนธยา เสนเอี่ยม หัวหน้าสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับการประสานงานจาก นพ. จักรธรรม ธรรมศักดิ์ วุฒิสมาชิก ( ส.ว.) สรรหา เพื่อสอบถามข้อมูลความคืบหน้ากรณีที่เป็นข้อขัดแย้งประเด็นสาธารณะระหว่างวัดห้วยวัดห้วยมงคลกับโรงพยาบาลหัวหิน โดยนพ.จักรธรรมระบุว่าจะเข้ามาไกล่เกลี่ยให้ปัญหามีข้อยุติด้วยการเจรจา โดยเฉพาะปัญหาค้างคาใจของกลุ่มลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเจ้าอาวาส กรณีที่โรงพยาบาลไม่ได้นำงบฯไปจัดซื้อเครื่องแพทย์ตามวัตถุประสงค์ แต่ผู้บริหารโรงพยาบาลแจ้งว่าเงินยังอยู่ครบ เพียงแต่ไม่ได้ซื้อเครื่องมือแพทย์ ซึ่งคาดว่าที่ผ่านมาในการดำเนินการของโรงพยาบาลอาจจะมีช่องว่างในการสื่อสารทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนระหว่างกัน
มติชนออนไลน์ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555