ผู้เขียน หัวข้อ: โลกประณาม '2 ดีเจ' ล้วงข่าวเจ้าหญิงเคท ต้นสังกัดยกหางไม่ได้ทำผิดกฎหมาย  (อ่าน 1107 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด

ชาวโลกประณาม '2 ดีเจ' ตัวแสบ หลอกถามพระอาการเจ้าหญิงเคท กับนางพยาบาลจนฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกผิด ด้านบ.ต้นสังกัดยกหางไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แจงขณะนี้ลูกจ้างต่างรู้สึกแย่ไม่แพ้กัน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 9 ธ.ค. ว่า หลังนางจาซินธา ซัลดันฮา วัย 46 ปี ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่ประเทศอินเดีย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นางพยาบาลประจำโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7 กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ฆ่าตัวตายในห้องพัก เนื่องจากเผลอปล่อยข่าวพระอาการแพ้พระครรภ์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่เข้ารับการรักษาอาการให้ 2 นักจัดรายการวิทยุสุดแสบในออสเตรเลีย

ซึ่งล่าสุดเกิดกระแสความโกรธเคือง และการโต้แย้งกันถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของดีเจชาวออสเตรเลีย บ้างตำหนิเกี่ยวกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังชี้ว่า ทั้ง 2 ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่ร่วมกันก่อไว้ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม ขณะที่ทั้ง 2 ออกมาขอโทษแบบเจื่อนๆ เพียงเท่านั้น


นางพยาบาล จาซินธา ซัลดันฮา


เหตุการณ์สุดสลดเริ่มขึ้นเมื่อ น.ส.เมล เกร็ก กับ นายไมเคิล คริสเตียน 2 พิธีกรรายการวิทยุ ทูเดย์ เอฟเอ็ม ในออสเตรเลีย ได้โทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาลคิงเอ็ดเวิร์ด ที่ 7 โดยดัดเสียงและอ้างตัวว่าเป็นสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ แห่งราชวงศ์อังกฤษ เพื่อหลอกสอบถามพระอาการแพ้พระครรภ์ของเจ้าหญิงแคทเธอรีนกับนางพยาบาลคนหนึ่ง ซึ่งนางพยาบาลคนดังกล่าวก็ได้บอกเล่าทุกอย่างหมดเปลือก โดยไม่ทันสังเกตถึงสำเนียงแปร่งๆ ของทั้ง 2 และแจ้งไปว่าเจ้าหญิงเคททรงบรรทมหลับๆ ตื่นๆ และรับพระกระยาหารเหลว แถมยังตอบด้วยว่าถ้าจะเสด็จมาเยี่ยมก็ขอให้เป็นหลังเวลา 09.00 น.

อย่างไรก็ดี สถานีวิทยุ ทูเดย์ เอฟเอ็ม ของออสเตรเลีย เผยผ่านแถลงการณ์ว่า ทั้ง 2 ดีเจที่ก่อเรื่อง ถูกพักงานชั่วคราวจนกว่าจะได้รับแจ้งจากบริษัทต้นสังกัด แต่ก็ถือว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมายข้อใด ขณะที่ซีอีโอของสถานีดังกล่าวออกมาเเบ่งรับเเบ่งสู้แทนลูกจ้างว่า ทั้งเกร็ก และคริสเตียน ได้รับคำปรึกษาจากทนายความแล้ว พวกเขาไม่ใช่เครื่องจักรกล แต่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา และพวกเราทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน.


ด้านหน้าโรงพยาบาลคิง เอ็ดเวิร์ด ที่ 7

 

โดย: ไทยรัฐออนไลน์

9 ธันวาคม 2555