ผู้เขียน หัวข้อ: ปลัดสธ.ย้ำโรคมือเท้าปากในไทยไม่น่าวิตกสั่งดูแลป้องกัน  (อ่าน 986 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยสถานการณ์โรคมือเท้าปากในไทยยังไม่น่าวิตก กำชับทุกจังหวัดเฝ้าระวังควบคุมรักษาเต็มที่ สั่งมาตรการดูแลรักษาความสะอาดสถานที่ ของเล่น ของใช้เด็ก...

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยจากสถานการณ์พบเด็กกัมพูชาป่วยและเสียชีวิตจากโรคมือเท้าปากประมาณ 64 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายน 2555 เป็นต้นมา โดยผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าเกิดจากเชื้อเอ็นเทอโรไวรัส 71 ซึ่งเป็นชนิดรุนแรงทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ว่า จากการประเมินสถานการณ์ของโรคมือเท้าปาก (Hand Foot Mouth) ในประเทศไทยขณะนี้ พบว่ายังไม่น่าวิตก และโรคนี้เป็น 1 ใน 57 โรคที่กระทรวงสาธารณสุขเฝ้าระวังต่อเนื่องทุกปี ในรอบ 6 เดือนปีนี้พบผู้ป่วยโรคมือเท้าปากประปรายกระจายหลายจังหวัด ยังไม่พบการระบาดของโรคเป็นกลุ่ม โดยตั้งแต่ 1 มกราคม – 1 กรกฎาคม 2555 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วย 10,813 ราย ร้อยละ 72 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ไม่มีผู้เสียชีวิต

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการตรวจสอบเชื้อของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบเกิดจากเชื้อ 2 ชนิด คือ คอกซากี เอ 16 (Coxsackie A 16) และเอ็นเทอโรไวรัส 71 (Entero Virus 71) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ และที่พบในไทยเป็นชนิดที่ไม่รุนแรง นอกจากนี้ เด็กที่เสียชีวิตในกัมพูชาพบว่าส่วนใหญ่อยู่ในพนมเปญด้านประเทศเวียดนาม และพบส่วนน้อยประมาณ 5 รายอยู่ที่เสียมเรียบ จึงขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเด็กไม่ต้องตื่นตระหนก หรือวิตกกังวลมากเกินไป กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด และประสานกับหน่วยงานต่างประเทศ เช่น ศูนย์ป้องกันควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา หรือซีดีซี และองค์การอนามัยโลกอย่างต่อเนื่อง

นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ปีนี้ฝนตกชุกมาก อากาศเย็นและชื้น แนวโน้มอาจทำให้พบผู้ป่วยโรคนี้มาก ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคในทุกจังหวัดอยู่แล้ว แต่ขณะนี้มีรายงานผู้ป่วยในหลายจังหวัดเพิ่มขึ้น วันนี้ได้ทำหนังสือสั่งการด่วน กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ และประสานกับกทม. เฝ้าระวังโรคนี้อย่างต่อเนื่อง หากมีผู้ป่วยให้ทำการควบคุมป้องกันโรคโดยเร็วที่สุด และกำชับทีมแพทย์โรงพยาบาลทุกแห่ง โดยเฉพาะกุมารแพทย์ให้ตรวจโรคอย่างละเอียดตามมาตรฐานการรักษา เพราะโรคนี้หากตรวจพบและรักษาได้เร็วจะลดความรุนแรงได้ นอกจากนี้ ยังได้ทำหนังสือขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบดูแลศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก และสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษาในพื้นที่ ขอให้ดูแลความสะอาดของสถานที่ ของเล่น ของใช้เด็กให้สะอาด

"ควรล้างมือฟอกสบู่หลังสัมผัสสิ่งของหลังเข้าห้องน้ำห้องส้วมทุกครั้ง ซึ่งจะช่วยขจัดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 80 โดยเชื้อโรคมือเท้าปากจะอยู่ในอุจจาระของเด็กที่ป่วยได้นานถึง 6 สัปดาห์ และติดมากับมือ ปนเปื้อนในอาหาร น้ำ หรือของเล่น และขอให้ตรวจวัดไข้ ดูตุ่มพองตามมือ เท้า หรือในปากของเด็กทุกเช้า หากพบว่าเด็กมีไข้สูงอย่างน้อย 2 วัน หรือไข้สูงร่วมกับมีแผลในปาก หรือมีแผลที่มือ เท้า หรือเด็กมีอาการซึม หอบเหนื่อยหรือดูแล้วเด็กมีอาการแย่ลง จึงแจ้งผู้ปกครองให้พาเด็กไปพบแพทย์ และหยุดอยู่บ้านจนกว่าจะหาย และขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ เพื่อควบคุมโรคไม่ให้ติดไปยังเด็กคนอื่นๆ" ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับผู้ปกครอง ศูนย์เด็กเล็ก หรือสถานศึกษาที่พบเด็กป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก ขอให้ทำความสะอาดพื้นผิวที่เด็กสัมผัส เช่น พื้นอาคาร ผนัง ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของน้ำยาฟอกผ้าขาวอย่างถูกวิธี ส่วนของเล่นที่เด็กอาจเอาเข้าปาก ขอให้ล้างทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกตามปกติแล้วผึ่งแดด ก็จะสามารถฆ่าเชื้อได้ และขอให้กำจัดอุจจาระเด็กที่ป่วยอย่างถูกวิธี โดยเทลงส้วม หรือกรณีใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปขอให้ใส่ลงในถุงพลาสติกและมัดปากก่อนทิ้งลงถังขยะ ดูแลเรื่องอาหารให้สะอาด และล้างมือให้บ่อยขึ้น.