ชนพื้นเมืองเพเนลาคุต ทางตะวันตกของแคนาดาเปิดเผยว่า พบหลุมศพนิรนามมากกว่า 160 ศพ ใกล้ที่ตั้งของโรงเรียนประจำเก่าแห่งหนึ่ง นับเป็นการพบหลุมศพนิรนามที่อดีตโรงเรียนประจำชนพื้นเมืองแห่งที่ 4 ของแคนาดาในช่วงไม่นานที่ผ่านมา
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การค้นพบหลุมศพนิรนามมากกว่า 1,000 ศพ ที่โรงเรียนประจำชนพื้นเมือง 3 แห่ง สร้างความสะเทือนใจและรื้อฟื้นความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีต เกี่ยวกับนโยบายบังคับกลืนเยาวชนชาวพื้นเมืองเข้าสู่สังคมแคนาดา
ล่าสุด โจอัน บราวน์ หัวหน้าชนพื้นเมืองเพเนลาคุต ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ว่า "เป็นอีกครั้งที่เราต้องเจ็บปวดสืบเนื่องจากพฤติกรรมที่เข้าขายฆ่าล้างผ่าพันธุ์เหล่านี้" ยืนยันการค้นพบครั้งใหม่ "ศพนิรนามไม่มีเอกสารมากกว่า 160 ศพ" ในเขตอนุรักษ์บริติชโคลัมเบีย
"มันเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง" บ็อบ แชมเบอร์ลิน อดีตรองประธานสหภาพชนเผ่าอินเดียนพื้นเมือง (อินเดียนแดง) ในรัฐบริติชโคลัมเบีย กล่าว พร้อมคาดหมายว่าน่าจะมีหลุมศพนิรนามอีกหลายสิบแห่งที่ยังไม่พบ
"หัวใจผมแหลกสลายแทนชนเผ่าเพเนลาคุต และสำหรับทุกชุมชนชนพื้นเมืองทั่วประเทศ" จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาบอกกับผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (13 ก.ค.) "เราไม่สามารถช่วยคนตายฟื้นคืนมาได้ แต่เราสามารถบอกความจริง เดินหน้าพูดความจริง เช่นเดียวกับที่เราจะเดินหน้าทำงานร่วมกับชนพื้นเมืองในการต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติและการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบ ด้วยการลงมือจริงๆ และเป็นรูปธรรม"
โรงเรียนประจำสำหรับชนพื้นเมืองบนเกาะเพนเนลาคุต ทางตะวันตกของแวนคูเวอร์ พรากเด็กชนพื้นเมืองจากอ้อมอกบรรดาผู้ปกครอง และพาเด็กๆ เหล่านั้นมายังโรงเรียนประจำในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนถึงปี 1975
การค้นพบครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเพิ่งพบหลุมศพนิรนามอื่นๆ ที่โรงเรียนประจำเก่า 3 แห่งทั่วแคนาดา ประกอบด้วย หลุมศพนิรนาม 215 ศพ ที่โรงเรียนประจำเก่า แคมลูปส์ อินเดียน เรสซิเดนเทียล ในรัฐบริติชโคลอมเบีย ในเดือนพฤษภาคม ศพนิรนาม 715 ศพ ที่อดีตโรงเรียนประจำเมืองมารีวาล รัฐซัสแคตเชวัน ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และหลุมศพนิรนาม 182 ศพ ที่โรงเรียนประจำเซนต์ยูจีนส์ มิสชัน ใกล้เมืองแครนบรูค รัฐบริติชโคลัมเบีย
ทั้งนี้ การค้นพบแต่ละครั้งได้รื้อฟื้นความทรงจำอันเจ็บปวดที่เด็กชนพื้นเมืองมากกว่า 150,000 คนต้องเผชิญ โดยก่อนจะถึงช่วงปี 1990 เด็กๆ ชนพื้นเมืองจะถูกบังคับให้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ ไม่อนุญาตให้พูดภาษาชนพื้นเมืองของตัวเอง ไม่ให้ติดต่อพ่อแม่ มีการทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดทางเพศ ต้องใช้ชีวิตสภาพแวดล้อมที่สกปรก อาคารไม่ได้คุณภาพ ระบบให้ความอบอุ่นไม่ดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของเด็กหลายพันคนเท่าที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กลุ่มชนพื้นเมืองเชื่อว่า ยังมีเด็กที่เสียชีวิตแต่ไม่มีการเปิดเผยอีกเป็นจำนวนมาก
โบสถ์คาทอลิก ดูแลโรงเรียนต่างๆ ในนามของรัฐบาลกลาง ในช่วงปี 1912 จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1970
ในปี 2008 สตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้นเคยออกมาขอโทษในนามประชาชนชาวแคนาดาสำหรับโรงเรียนประจำชนพื้นเมือง
(ที่มา : เอเอฟพี)
14 ก.ค. 2564 ผู้จัดการออนไลน์