คนไข้ปลาบปลื้ม-เพิ่มรสต้มยำกุ้ง ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากสุดปลาบปลื้มพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้แจก เจลลี่โภชนา นวัตกรรมอาหารเพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก เพื่อช่วยผู้ป่วยมีปัญหาในการรับประทานอาหาร โดยแห่รับลอตแรก รสมะม่วง-ชานม หมดเกลี้ยง 4 แสนกล่องในไม่กี่เดือน ด้านมูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมแจกเพิ่มเดือน พ.ย.นี้ ให้ครบตามยอดผลิต 8.4 แสนกล่อง ทีมแพทย์ผู้วิจัยเผยคนไข้พอใจ กินง่าย ไม่เจ็บคอ คุณค่าอาหารสูง ทรงรับสั่งให้ทำเพิ่มรสอาหารคาว ข้าวมันไก่ ต้มยำกุ้ง
จากที่มีการกล่าวขานกันแบบปากต่อปากในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งในช่องปาก ถึงนวัตกรรมอาหาร ที่มีชื่อว่า เจลลี่โภชนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำมาแจกแก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ผ่านทางมูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ได้รับการเปิดเผยจาก ทญ.ดร.ดุลยพร ตราชูธรรม อาจารย์คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้จัดการโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก มูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ ถึงความเป็นมาของเจลลี่โภชนาการดังกล่าวว่า การรักษาผู้ป่วยมะเร็งในช่องปากด้วยการฉายรังสีทำให้เกิดแผลในปาก คนไข้จะเจ็บมากจนรับประทานอาหารไม่ได้ น้ำหนักลดทำให้อาการป่วยทรุดลง โครงการอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปากจึงเริ่มขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิทันตนวัตกรรมฯ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มูลนิธิอานันทมหิดล สถาบัน โภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล โดยทีมแพทย์ นักโภชนาการ เริ่มศึกษาวิจัยเมื่อปี 2553 จนได้เจลลี่โภชนา และนำขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2554 และพระราชทานให้นำไปแจกประชาชน โดยทำออกมา 2 ชนิด รสชานม และรสมะม่วง โดยเริ่มแจกมาตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่ทรงมีรับสั่งให้ทำเป็นอาหารคาว รสข้าวมันไก่ และต้มยำกุ้ง เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสได้รสชาติอาหาร ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำสูตร
ทญ.ดร.ดุลยพร กล่าวอีกว่า เจลลี่โภชนาไม่ใช่อาหารเหลว สามารถใช้แทนอาหารหลัก นิ่มและกลืนง่ายไม่สำลัก ถ้าไม่แกะกล่องเก็บได้นาน 1 ปี จากการให้คนไข้ทดลองใช้ต่างพอใจ เพราะรับประทานได้ทันที มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ใน 1 กล่อง มีปริมาตร 250 มิลลิลิตร ให้สารอาหารและพลังงานเทียบเท่าอาหาร 1 มื้อ มีไขมัน โปรตีน และคาร์โบ ไฮเดรตสูง เน้นให้พลังงาน นอกจากจะเป็นอาหารได้ดีแล้ว ความชุ่มชื้นของเจลลี่ ซึ่งมีค่อนข้างมากยังช่วยให้แผลในปากดีขึ้น กลุ่มผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ผู้ป่วยผ่าตัดขากรรไกร หรือมีแผลในปาก คนที่ไม่มีฟันในการขบเคี้ยวอาหาร และกลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งจะรับประทานอาหารลำบาก สามารถใช้อาหารชนิดนี้ได้ดี โดยมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ที่ 1.5 ล้านคน ซึ่งสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่ามีผู้ป่วยมะเร็งช่องปากประมาณ 5 พันคนต่อปี เป็นอันดับ 4 ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ผลจากการสูบบุหรี่ แต่คนไทยให้ความสำคัญมะเร็งช่องปากน้อยกว่ามะเร็งชนิดอื่น โดยผู้ป่วยมะเร็งช่องปากมีสถิติเสียชีวิตมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ น.ส.บัวขาว หงษาชุม เลขานุการโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก กล่าวว่า มูลนิธิฯ และสถาบันมะเร็งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวม 9 แห่ง อาทิ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา ศูนย์มะเร็งจังหวัดชลบุรี ลพบุรี ลำปาง ได้ทยอยแจกเจลลี่โภชนามาตั้งแต่ต้นปี โดยให้นำสำเนาบัตรประชาชนผู้ป่วยมาขอรับ และโทรศัพท์สอบถามที่หมายเลข 0-2218-9027 ปรากฏมีคนสนใจจำนวนมาก ขณะนี้แจกหมดไปแล้ว 4 แสนกล่อง กำลังรอชุดใหม่อีกกว่า 4 แสนกล่อง ตามยอดผลิต 8.4 แสนกล่อง ซึ่งจะเริ่มแจกในเดือน พ.ย.นี้
ด้านนางดวงใจ ยิ้มแฉล้ม อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ 4 องค์การเภสัชกรรม ผู้ป่วยมะเร็งโคนลิ้นมานานกว่า 5 ปี กล่าวว่า เมื่อ 5 ปีก่อน เข้ารับการรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีและเคมีบำบัด ทำให้ในปากเป็นแผล ผลข้างเคียงจากการรักษาทำให้จมูกไม่รู้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รสชาติอาหาร กินอาหารได้น้อยลงเรื่อยๆ จนน้ำหนักเหลือเพียง 35 กก. หลังทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยประชาชนที่เจ็บป่วยและพระราชทานทุนทรัพย์ให้ผลิตอาหารเพื่อคนป่วย ถึงกับร้องไห้ออกมาทันที สามีเข้ามาถามด้วยความแปลกใจว่าเป็นอะไร รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มที่ทรงห่วงใยคนป่วย ซึ่งนอกจากโครงการอาหารพระราชทาน ยังมีรากฟันเทียม และน้ำลายเทียม สำหรับผู้ป่วยโรคในช่องปากซึ่งมีความทุกข์ทรมานมาก หลังรับแจกเจลลี่โภชนามารับประทานแทนอาหารวันละ 3 มื้อ ทำให้สุขภาพดีขึ้น อาการป่วยไม่ทรุดลง และน้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่กว่า 40 กก.
