คุณหมอแตกต่างจากคุณหมอท่านอื่น ที่ตั้งใจดีและเคยรักษาผู้ป่วยแล้วเสียชีวิต ทำให้เกิดเป็นความผิด เป็นคดีความ คุณหมอไม่เหมือนกับคุณหมอที่ผมกล่าวถึงเหล่านั้น
คงคล้ายกับกรณี รัฐมนตรีสาธารณสุขท่านนึงในอดีต ที่คอรัปชั่นจนโดนจับได้ แล้วหนีไปบวช เพื่อให้บาปเจือจาง สุดท้ายออกมาเขียนหนังสือ เพื่อให้สังคมให้อภัย ว่าถ้ารู้จักหลักธรรมในศาสนาพุทธตั้งแต่แรก ชีวิตตนก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าไม่ถูกจับได้ ก็คงไม่สำนึกผิด
ทุกวันนี้ คนในสังคมจะทำอะไร ไม่ค่อยมีสมองคิดให้รอบคอบ หรือคิดเผื่อ เพียงคิดแต่ว่าทำไปก่อน ถ้ามันเดือดร้อนกับคนอื่น ก็ค่อยมา fake หน้าตา สำนึกผิด เดี๋ยวสังคมก็ให้อภัย เพราะสังคมทุกวันนี้ก็เน้นปรองดอง ไอ้พวกจิตเวชก็พยายามโน้มน้าวให้คนมองโลกในแง่ดี ทำๆไป เดี๋ยวเขาก็ยกโทษให้ ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่กำลังจะทำลงไป มันมีผลร้ายหรือเดือดร้อนคนอื่นหรือไม่ อย่างเก่งก็ทำหน้าปูเลี่ยน ร้องไห้บีบน้ำตาเยอะๆเข้าไว้ ยกมือกราบชาวบ้านชาวช่องไปทั่ว แล้วก็หัวเราะแหะๆ คำขอโทษที่จริงใจไม่เคยออกจากปากเลย แล้วก็ผ่านไป ต่อมาก็ทำแบบเดิมอีก นี่ล่ะสังคมทุกวันนี้