ผู้เขียน หัวข้อ: สาธารณสุขไทยและภูฏาน ร่วมมือพัฒนาห้องแล็บ-ยา-วัคซีน  (อ่าน 966 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
สาธารณสุขไทย โดยกรมวิทย์ และสาธารณสุขภูฏาณ จับมือร่วมพัฒนาศักยภาพบุคลากร และพัฒนามาตรฐานห้องแล็บ เพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุข  การควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยของยา โดยเฉพาะการปนเปื้อนในยาสมุนไพร 
       
       นายแพทย์ สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางไปประชุมวิชาการด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ประเทศภูฏาน พร้อมด้วย นายแพทย์ บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา ว่า ในการประชุมครั้งนี้ ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของประเทศภูฏาน เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไทย โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือหรือเอ็มโอยู (MOU) ทางวิชาการ เพื่อพัฒนามาตรฐานห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขประเทศภูฏาน เมื่อปลายปี 2553 เป็นต้นมา และได้ตั้งคณะอำนวยการความร่วมมือ 1 ชุด (Steering Committee) เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือทางห้องปฏิบัติการในด้านต่างๆ เร่งรัดให้เกิดความสำเร็จอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการประชุมที่ประเทศไทยเมื่อต้นปีนี้
       
       ทั้งนี้ ความร่วมมือพัฒนามาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการแก่กระทรวงสาธารณสุขภูฏานครั้งนี้ มุ่งเน้นการพัฒนา 3 เรื่อง ได้แก่ 1.การตรวจวิเคราะห์เพื่อการควบคุมโรคต่างๆ อาทิ ตรวจทางจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยา เป็นต้น ขณะนี้ได้เริ่มจัดวางระบบให้กับประเทศภูฏานแล้ว 2.การตรวจเพื่อควบคุมคุณภาพมาตรฐานยาและชีววัตถุ ผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยเฉพาะยาสมุนไพร ซึ่งประเทศภูฏานมีสมุนไพรจำนวนมาก และหลายชนิด แต่ยังขาดห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์คุณภาพมาตรฐาน ต้องส่งตัวอย่างยามาตรวจที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การ แพทย์ของประเทศไทยเป็นระยะๆ และ 3.การพัฒนาบุคลากรด้านการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งห้องปฏิบัติการของกรมวิทย์ของไทยมีมาตรฐาน และเป็นห้องแล็บอ้างอิงขององค์การอนามัยโลก ที่ผ่านมา ไทยได้จัดอบรมบุคลากรให้ภูฏาน และส่งผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิทย์ฯไปให้คำปรึกษาที่ภูฏานด้วย
       
       นายแพทย์ สุรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า ความร่วมมือต่างๆ ที่ผ่านมา นับว่าประสบผลความสำเร็จเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันพระบรมราชนกได้ให้ทุนฝึกอบรมพยาบาลจากประเทศภูฏานอีกด้วย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขไทยและภูฏาน เห็นพ้องที่จะขยายความร่วมมือในการผลิตและจัดซื้อยาแผนปัจจุบันและวัคซีนจากประเทศไทยด้วย โดยผ่านทางองค์การเภสัชกรรมของไทย การขยายความร่วมมือด้านการพัฒนาสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สุขภาพในอนาคตต่อไปอย่างจริงจังและต่อเนื่อง