การเป็นแม่ของลูกสักหนึ่งคนอาจดูเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนที่ยังไม่เคยมีลูก หรือไม่คิดจะมีลูก แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณถูกเรียกว่าแม่นั้น อาจหมายถึงการสละเวลา 27,250 ชั่วโมงในชีวิตไปกับการเตรียมอาหาร ทำงานบ้าน และดูแลทุกข์สุขของสมาชิกในครอบครัว จากนั้นก็สละเวลาอีก 2,442 ชั่วโมงในชีวิตของแม่ไปกับการซักล้างทำความสะอาดให้กับลูก ๆ สละเวลา 1,135 วันในชีวิตไปกับการเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบใหญ่มากพอที่พวกเขาจะจัดการกิจวัตรประจำวันในชีวิตตัวเองได้ เช่น แต่งตัว แปรงฟัน รับประทานอาหาร ยังไม่นับรวมถึงการเลี้ยงดูให้เขาเติบใหญ่พอสำหรับจัดการเรื่องยาก ๆ ในชีวิต
บริการช้อปปิ้งสินค้าออนไลน์ Milk&more ผู้เป็นเจ้าของแบบสำรวจพฤติกรรมของแม่ในครั้งนี้ระบุว่า ทุกคนทราบดีว่าแม่เปรียบเสมือนแกนหลักของสถาบันครอบครัว แต่การสำรวจชิ้นนี้ได้เจาะลึกให้เห็นว่า แม่สละเวลาในชีวิตของแม่ให้กับครอบครัวมากแค่ไหนเพื่อให้ครอบครัวของแม่ได้อยู่อย่างมีความสุข มีระเบียบเรียบร้อย และอบอุ่น โดยแบบสอบถามนี้เผยให้เห็นว่า ตลอดชีวิตของแม่มีหน้าที่ต่าง ๆ ที่มาดึงเวลาส่วนตัวของแม่ไปมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
ซื้อหาอาหารเข้าบ้าน 4,155 ชั่วโมง 49 นาที
ทำอาหาร 3,603 ชั่วโมง 36 นาที
ดูแลความเรียบร้อยของบ้าน 2,620 ชั่วโมง 48 นาที
ซักล้างทำความสะอาด 2,442 ชั่วโมง 57 นาที
รีดผ้า 1,787 ชั่วโมง 45 นาที
ส่งลูกไปโรงเรียน 1,740 ชั่วโมง 57 นาที
ช่วยลูกทำการบ้าน 1,544 ชั่วโมง 24 นาที
ล้างห้องน้ำ 1,506 ชั่วโมง 57 นาที
ส่งลูกไปเรียนพิเศษ 1,301 ชั่วโมง 2 นาที
จ่ายบิลต่าง ๆ - ซ่อมแซมข้าวของในบ้าน 1,240 ชั่วโมง 12 นาที
แอนดรูว์ เคนดาลล์ โฆษกของ Milk&more กล่าวว่า "ถ้าแม่มีคนช่วยทำอาหารบ้าง แม่ก็จะมีเวลามาเล่นกับลูก ๆ เพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เลยทีเดียว ยิ่งแม่ที่ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย พวกเธอยิ่งต้องการความยืดหยุ่นอย่างมากในชีวิต การใช้เวลาของชีวิตแม่ตั้ง 4,155 ชั่วโมง และอีก 49 นาทีเพื่อซื้อหาอาหารเข้าบ้านไม่ใช่เรื่องสนุกนักหรอก"
จากภาระหน้าที่ที่คนเป็นแม่ต้องเจอนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มีคุณแม่ราว 75 เปอร์เซ็นต์ตอบว่า พวกเธออยากให้เวลาใน 1 วันมีมากกว่านี้สัก 2 - 3 ชั่วโมง เพื่อที่เธอจะได้มีเวลาดูแลสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบร้อยกว่าที่เป็นอยู่ และ 1 ใน 10 ของผู้ตอบแบบสอบถามเผยว่า ตนเองต้องซักผ้าทำความสะอาด และจ่ายชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของบ้านในตอนกลางคืนหลังดูแลครอบครัวเสร็จแล้ว (แบบสำรวจในครั้งนี้มีคุณแม่เข้าร่วมตอบประมาณ 2,000 คน )
หากได้ทราบถึงความเหนื่อยยากของการเป็นพ่อแม่กันไปแล้ว ทีมงานอยากขอใช้พื้นที่ตรงนี้ฝากถึงท่านผู้อ่านที่เคยคอมเม้นท์ท้ายข่าวในเชิงติเตียนท่านผู้อ่านที่เป็นพ่อแม่ท่านอื่น ๆ ด้วยเนื้อหาใจความว่า มีลูกได้แต่ไม่มีปัญญาเลี้ยง ขอให้ลองพิจารณาข้อมูล และความเหนื่อยยากของการเป็นพ่อแม่เด็กสักคนก่อนที่จะพิมพ์ข้อความต่าง ๆ ด้วยความมันในอารมณ์ หรือต้องการทำเพื่อความสะใจของตนเองแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะการแสดงความคิดเห็นในลักษณะมีแต่จะบั่นทอนความรู้สึกของคนที่พยายามตั้งใจทำหน้าที่พ่อแม่อย่างเต็มความสามารถเสียเปล่า ๆ และเราเชื่อว่า การให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ให้ความช่วยเหลือ อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับสถาบันครอบครัวในยุคปัจจุบันค่ะ
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2554
