ผู้เขียน หัวข้อ: ‘ฮ่องกง’ กลุ้มประชาชนไม่มาฉีดวัคซีน อาจต้องทิ้ง ‘ไฟเซอร์’ นับล้านโดส  (อ่าน 307 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9785
    • ดูรายละเอียด
ในขณะที่หลายประเทศหาทางช่วงชิงส่วนแบ่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อมนำมาฉีดสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนของตัวเอง แต่ “ฮ่องกง” กลับเผชิญปัญหาที่แตกต่างออกไป เพราะกลายเป็นว่าคนจำนวนมากไม่ยอมมาลงทะเบียนฉีดวัคซีน ทำให้วัคซีนที่รัฐบาลสั่งซื้อมาหลายล้านโดสใกล้หมดอายุและอาจต้องถูกทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเสนอทางออกให้รัฐบาลฮ่องกงขายวัคซีนที่ไม่ได้ใช้ให้กับประเทศอื่น รวมถึงเจรจากับผู้ผลิตเพื่อชะลอการส่งมอบวัคซีนล็อตใหม่ไปก่อน

ฮ่องกงเป็นหนึ่งในไม่กี่ดินแดนของโลกที่สามารถจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เกินความต้องการของประชากรที่มีอยู่ราว 7.5 ล้านคน ทว่ากระแสความไม่พอใจรัฐบาลที่กดขี่ผู้เห็นต่างทางการเมือง บวกกับข้อมูลบิดเบือนที่ถูกเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ และยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่แทบจะเป็นศูนย์ ทำให้คนจำนวนมากไม่เห็นความจำเป็นและยังลังเลที่จะเข้ารับวัคซีน

วัคซีนเกือบ 4 ล้านโดสทั้งของซิโนแวคและไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคถูกส่งมาถึงฮ่องกงตั้งแต่เดือน ก.พ. แต่จนถึงตอนนี้ยังเหลือวัคซีนค้างอยู่ในสต็อกอีกราว 2 ล้านโดส เนื่องจากมีผู้ประสงค์รับวัคซีนน้อยมาก

ตลอด 3 เดือนที่รัฐบาลฮ่องกงเปิดให้ประชาชนฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 เพิ่งจะมีผู้เข้ารับวัคซีนโดสแรกเพียง 1.28 ล้านคน หรือราว 17% ของประชากร ส่วนผู้ที่รับวัคซีนครบทั้ง 2 โดสมีแค่ราวๆ 921,500 คน

โทมัส ชาง (Thomas Tsang) อดีตผู้ตรวจการศูนย์ป้องกันสุขภาพแห่งฮ่องกง (Centre for Healtth Protection) และหนึ่งในคณะทำงานด้านวัคซีนของรัฐบาลฮ่องกง ได้ออกมาเตือนประชาชนเมื่อวันอังคาร (25 พ.ค.) ว่า พวกเขาเหลือเวลาตัดสินใจอีกแค่ “3 เดือน” ก่อนที่วัคซีนไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทคล็อตแรกจะหมดอายุ

“วัคซีนทุกชนิดมีวันหมดอายุ” ชาง ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ RTHK “วัคซีนที่หมดอายุแล้วจะนำมาใช้อีกไม่ได้ และตามแผนงานที่เราวางไว้ในปัจจุบัน ศูนย์ฉีดวัคซีนของไบโอเอ็นเทคในชุมชนจะยุติภารกิจในเดือน ก.ย. นี้”

ชาง ย้ำว่า การที่ฮ่องกงนำวัคซีนอันมีค่ามาเก็บเอาไว้เฉยๆ หลายล้านโดสโดยไม่ใช้งาน ในขณะที่อีกหลายประเทศยังมีวัคซีนไม่พอใช้ “เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง” พร้อมเตือนว่าวัคซีนล็อตใหม่ก็อาจจะไม่มาตามนัด

“วัคซีนที่เรามีอยู่อาจเป็นทั้งหมดที่เราจะหาได้สำหรับปีนี้ โดยไม่มีมาเพิ่มอีก” เขากล่าว

ความลังเลในการฉีดวัคซีนยังลามไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ของฮ่องกงเอง โดยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาองค์การโรงพยาบาลฮ่องกงเปิดเผยว่า มีแพทย์และพยาบาลที่ยอมฉีดวัคซีนแค่ราวๆ 1 ใน 3 เท่านั้น

รัฐบาลฮ่องกงได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค และซิโนแวค อย่างละ 7.5 ล้านโดส ซึ่งเพียงพอสำหรับการฉีด 2 โดสให้แก่ประชากร 7.5 ล้านคน

เกาะศูนย์กลางธุรกิจแห่งนี้ยังเคยสั่งจองวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไว้อีก 7.5 ล้านโดส ก่อนจะยกเลิกสัญญาไปเมื่อต้นปีนี้ เนื่องจากต้องการประหยัดวงเงินไว้สำหรับจัดซื้อวัคซีนรุ่นใหม่ในปีหน้า

ฮ่องกงได้รับมอบวัคซีนไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคมาแล้วทั้งสิ้น 3,363,000 โดส แต่เพิ่งจะถูกใช้ไปเพียง 1,231,600 โดส โดยวัคซีนไฟเซอร์นั้นจำเป็นจะต้องเก็บในอุณหภูมิที่ต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส และมีอายุการใช้งานแค่ไม่เกิน 6 เดือน ขณะที่วัคซีนซิโนแวคสามารถเก็บที่อุณหภูมิตู้เย็น 2-8 องศาเซลเซียส และมีอายุการเก็บรักษานานกว่า 1 ปี

การที่ฝ่ายบริหารท้องถิ่นฮ่องกงร่วมมือกับจีนกวาดล้างนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และปราบปรามการชุมนุมประท้วงใหญ่เมื่อปี 2019 ส่งผลให้ความเชื่อมั่นที่ชาวฮ่องกงมีต่อรัฐบาลตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์

เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลฮ่องกงได้แจกคูปองเงินสด 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกงแก่พลเมืองทุกคนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนักวิจารณ์บางคนก็เสนอว่ารัฐน่าจะนำกลยุทธ์นี้มาใช้ดึงคนให้ฉีดวัคซีนด้วย

อย่างไรก็ตาม แคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ออกมาปฏิเสธไอเดียดังกล่าวเมื่อวันอังคาร (25) โดยบอกว่า “การแจกเงินสดหรือสิ่งของที่เป็นรูปธรรมเพื่อกระตุ้นให้คนฉีดวัคซีนไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลควรทำ และอาจจะก่อให้เกิดผลตรงกันข้ามด้วยซ้ำ”

วิลเลียม ฉุย ชุนหมิง ประธานสมาคมเภสัชกรประจำโรงพยาบาลฮ่องกง ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ว่า รัฐบาลฮ่องกงมีทางเลือกอยู่ 3 อย่าง หากไม่นำวัคซีนที่เหลือไปเผาทำลายทิ้ง ก็ต้องบริจาคหรือไม่ก็ขายต่อให้แก่ประเทศอื่น ซึ่งตัวเขาเองเห็นว่าการขายให้กับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 ขั้นรุนแรง เช่น อินเดีย, ปากีสถาน, เนปาล หรือฟิลิปปินส์ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ประเทศเหล่านี้มีเงินจ่าย แต่ยังหาวัคซีนได้ไม่เพียงพอ ถ้าเราขายวัคซีนให้พวกเขาก็จะได้เงินสดกลับมาเพื่อเตรียมเอาไว้ซื้อวัคซีนรุ่นสองที่จะผลิตออกมาในอนาคต” ฉุย กล่าว

ฉุย ยังเตือนด้วยว่า วัคซีนที่หมดอายุแล้วไม่สามารถขนไปทิ้งตามบ่อขยะได้ แต่จะต้องเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน เพื่อไม่ให้กรดไรโบนิวคลิอิก (RNA) ของเชื้อไวรัสแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม

รัฐบาลฮ่องกงยอมรับว่า วัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกกำลังจะหมดอายุกลางเดือน ส.ค. และขอร้องให้ประชาชนที่ยังลังเลรีบลงทะเบียนฉีดวัคซีนโดยเร็ว พร้อมกันนั้นยังประกาศขยายโครงการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ถือใบอนุญาตเข้า-ออก (two-way permits) รวมถึงผู้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่พำนักอยู่ในฮ่องกง

ทางการฮ่องกงได้เตรียมหารือกับบริษัทเวชภัณฑ์ต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการวัคซีน โดยอาจระงับการจัดซื้อเพิ่ม, ให้ผู้ผลิตชะลอการส่งมอบวัคซีนล็อตใหม่ รวมถึงเป็นไปได้ว่าจะมีการบริจาควัคซีนที่ใกล้หมดอายุผ่านทางองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อกระจายต่อไปยังประเทศอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้

สัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐอเมริกาประกาศจะแจกวัคซีน 80 ล้านโดสให้แก่ประเทศทั่วโลก ซึ่งถือเป็นความพยายามคานอำนาจจีนและรัสเซียซึ่งกำลังใช้ “การทูตวัคซีน” (Vaccine Diplomacy) สร้างอิทธิพลในเวทีโลกเช่นกัน

ฉุย แนะนำให้ฮ่องกงเอาอย่างสหรัฐฯ ที่แบ่งปันวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเหลือใช้ให้กับแคนาดา และสำหรับคำถามที่ว่าการปล่อยให้มีวัคซีนเหลือทิ้งมากเช่นนี้จะกระทบโอกาสของฮ่องกงในการสั่งซื้อวัคซีนรุ่นถัดไปหรือไม่นั้น ฉุยตอบว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะการจัดส่งวัคซีนขึ้นอยู่กับว่าประเทศใดสั่งซื้อก่อน-หลังเป็นหลัก

29 พ.ค. 2564  ผู้จัดการออนไลน์