หมวดหมู่ทั่วไป > ข่าวสมาพันธ์

แถลงการณ์สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปฯ กรณี รพ.ขอนแก่น

<< < (12/13) > >>

patchanok3166:
องค์กรแพทย์ขอนแก่น รับได้ “พญ.อัมพร” ประธานสอบสวนวินัยฯ “หมอชาญชัย” คนที่ 3 เหตุเป็นไปตามกลไกปกติ เผยมั่นใจความเป็นกลาง เชื่อมั่นในความเป็นธรรม

หลังจากองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น ร่วมกับตัวแทนเครือข่ายบุคลากรสาธารณสุขโรงพยาบาลต่างๆ เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินการกู้ธรรมาภิบาลกระทรวงสาธารณสุข และขอให้ย้าย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น กลับมารพ.ขอนแก่นตามเดิม หลังจากถูกย้ายมายังสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขด้วยกล่าวหา “ฉ้อราษฎร์บังหลวง” ส่วนการสอบสวนฯก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เนื่องจากล่าสุดผู้บริหารสธ. ได้เปลี่ยนประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย เป็น พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตบริการสุขภาพที่ 5

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตบริการสุขภาพที่ 5 กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระบบราชการ โดยดำเนินการตามหน้าที่ คือ ต้องแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบก่อน จึงจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ขณะเดียวกันผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถยื่นเรื่องคัดค้านกรรมการฯ หรือประธานกรรมการที่จะมาสอบสวนได้เช่นกัน ซึ่งหากตรงนี้ผ่านพ้นไปได้ ไม่มีการยื่นคัดค้านก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนฯต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกกดดันกับการเป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัยฯ ซึ่งเปลี่ยนมา 2 ครั้งแล้วหรือไม่ พญ.อัมพร กล่าวว่า ถึงจุดนี้ก็ต้องทำตามหน้าที่ที่พวกเราทุกคนต้องทำให้ได้ผลดีที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ตนตั้งใจ และต้องขอขอบคุณทุกความห่วงใยที่มีการสอบถามเข้ามาส่วนตัว

ด้าน พญ.กนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับ พญ.อัมพร เป็นผู้ตรวจราชการเขต 5 ซึ่งถือเป็นกลไกตามปกติตั้งแต่แรกอยู่แล้ว หากมีการแต่งตั้ง พญ.อัมพร ตั้งแต่ตอนแรกก็ไม่มีปัญหา ดังนั้น เมื่อ ขณะนี้ได้เข้าสู่กลไกปกติ ตนก็เชื่อมั่นในอาจารย์ เชื่อมั่นในความเป็นนักวิชาการ เป็นจิตแพทย์เด็ก เชื่อมั่นในความเป็นธรรม ส่วนที่มีการยื่นหนังสือเรียกร้องไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ก็หวังว่าเรื่องจะไม่ย้อนกลับไปที่กระทรวงสาธารณสุขเหมือนเมื่อครั้งแรก เนื่องจากหากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างก็ไม่มีผลอะไรอยู่ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตั้งประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง นพ.ชาญชัย โดยเดิมเป็น นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงเขต 6 แต่เกิดคำถามว่า เป็นการคัดเลือกประธานสอบสวนฯ ที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอนเนื่องจาก โรงพยาบาลขอนแก่น การจะตั้งผู้ตรวจฯ มาสอบสวนควรเป็นในเขตพื้นที่สุขภาพที่ 5 ไม่ใช่ข้ามเขต กระทั่งนพ.สุเทพ ขอถอนตัวเนื่องจากติดภารกิจ และมีการตั้งประธานสอบฯคนใหม่ คือ นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เขต 11 แทน ก็เกิดคำถามอีกเช่นเดิม จนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องออกมาการันตีความเป็นกลาง กระทั่งล่าสุดได้เปลี่ยนประธานคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 3 คือ พญ.อัมพร ซึ่งเป็นผู้ตรวจราชการเขต 5

Sat, 2020-06-27  -- hfocus team

patchanok3166:
นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล หารือ “อนุทิน” ยอมรับ “พญ.อัมพร” ปธ.สอบวินัยคนใหม่ เหตุถูกต้องตามกลไก ส่วนยื่นเรื่อง สอบวินัยปลัด สธ. กรณีละเว้น ล่าสุด “รมว.สธ.” รับเรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 ก.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้มีการหารือร่วมกับ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ซึ่งถูกย้ายมาอยู่ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีมีบัตรสนเท่ห์กล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบในเรื่องรับเงินบริจาคบริษัทยา จนถูกกล่าวหาว่า ฉ้อราษฎรบังหลวง จนเกิดกระแส SAVEธรรมาภิบาล SAVEหมอชาญชัย

นพ.อนุทิน กล่าวภายหลังหารือ ว่า ตนไม่ได้เรียก แต่ นพ.ชาญชัย มาพบเอง โดยแกยอมรับ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 5 เป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ส่วนที่ปลัดสธ.ชี้แจงเรื่องที่ถูกร้องเรียนในเรื่องนพ.ชาญชัย นั้น ตนได้ให้ทีมงานสรุปเรื่องราวอยู่ เพราะข้อมูลเยอะมาก จึงต้องมีคนสรุปให้อยู่ ส่วนสงสัยตรงไหนก็จะค่อยเชิญทีมหารือ และพิจารณาอย่างเป็นธรรมอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่ามีกรอบการดำเนินการหรือไม่ นพ.อนุทิน กล่าวว่า จะดำเนินการเร็วที่สุด

ด้าน นพ.ชาญชัย กล่าวว่า ตนได้ขออนุญาตเข้าพบ นายอนุทิน กรณีที่มีคำสั่งตั้ง พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 5 เป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ว่าตนไม่คัดค้านที่ พญ.อัมพร จะมาเป็นคนสอบและในวันนี้จะยื่นหนังสือไปยังกองวินัยว่าไม่คัดค้าน เพราะคิดว่าเป็นธรรมาภิบาลที่กระทรวงสาธารณสุขได้ดูแล ทั้งนี้นายอนุทินก็ไม่ได้ย้ำหรือฝากอะไรเป็นพิเศษ จากนี้ก็จะมีการดำเนินการสืบสวนตามระบบต่อไป

“ส่วนกรณีที่โดนย้ายออกจากโรงพยาบาลขอนแก่นที่ไม่เป็นธรรมนั้น ผมก็ได้ไปยื่นเรื่องร้องทุกข์ไว้กับคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) และนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีที่มีการยื่นหนังสือต่อ รมว.สธ. ให้มีการสอบวินัย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กรณีมีการละเว้นไม่ตรวจสอบ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี ที่เคยไปรับตำแหน่งเป็นผอ.โรงพยาบาลขอนแก่นระยะหนึ่งนั้น ท่านรมว.สธ. ก็ได้มีการดำเนินการเรื่องนี้แล้ว”นพ.ชาญชัย กล่าว

นพ.ชาญชัย กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ศูนย์บริหารทรัพยากรโควิด19 มีหน้าที่บริหารจัดการทรัพยากรให้พอใช้ ร่วมถึงมีการคาดการณ์ไว้หากเกิดการระบาดรอบใหม่ ต้องใช้ทรัพยากรมากน้อยแค่ไหน ไทยจะมีทรัพยากรเพียงพอหรือไม่ สามารถจัดหาเวชภัณฑ์ต่างๆได้จากที่ไหน โดยได้มองทั้งของจากภายในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ศูนย์ทรัพยากรโควิด มีการทำงานที่ดีอยู่แล้ว มีผู้รับผิดชอบที่แข็งขัน

นพ.ชาญชัย กล่าวต่อว่า การต่อสู้เรียกร้องขององค์กรแพทย์จากรพ.ต่างๆ นั้น เป็นเพียงเรื่องที่ตนถูกตั้งกรรมการสอบเรียกร้องให้เกิดธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุขในภาพรวม ที่ต้องให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง สิ่งที่ตนและองค์กรแพทย์ต่างๆ ทำอยู่ก็เพื่อต้องการให้สังคมได้รับรู้ รับทราบว่าการตรวจสอบ สอบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นต่างๆ ต้องทำอย่างมีธรรมาภิบาล ซึ่งมีขั้นตอนที่เป็นปกติ ก็ต้องทำตาม ตนไม่ได้เรียกร้อง หรือขอเปลี่ยนตัวประธานสอบมากเกินไป แต่เรื่องการสอบสวนวินัยต้องไม่เจาะจง ไม่มีฝ่ายใดรู้ว่าต้องสอบใคร และคนถูกสอบก็ต้องไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนมาสอบ ซึ่งทางกลุ่มวินัยได้จัดลำดับเอาไว้แล้วว่าเรื่องที่ 1 ต้องเป็นผู้ตรวจราชการท่านใด เรื่องต่อไป เป็นท่านใด นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดของการสอบวินัย หากทำตามนี้ก็ไม่มีปัญหา

Thu, 2020-07-02 -- hfocus team

patchanok3166:
นพ.ชาญชัย อดีต ผอ.รพ.ขอนแก่น ให้ทนายยื่นฟ้องปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีที่มีการเผยแพร่การโพสต์ข้อความทางไลน์ว่า นพ.ชาญชัย ทุจริต เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน ศาลรับฟ้องนัดไต่สวนนัดแรก 14 ก.ย.
วันที่ 9 ก.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายกุลพิพัฒน์ เวทศิลป์ ทนายความ ว่า ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ยื่นฟ้องนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากได้มีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มีการนำข้อมูลที่บิดเบือน ข้อมูลที่เป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้นายแพทย์ชาญชัย เสียหาย จึงได้ให้ดำเนินคดีในข้อหานี้และเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

โดยได้ยื่นไปเมื่อเช้าวันนี้(9 ก.ค.) ศาลจังหวัดขอนแก่นได้รับคำฟ้องไว้แล้ว เป็นคดีอาญา เลขที่ 518/2563 โดยนัดตัดสวนมูลฟ้องวันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 13.30 น.

นายกุลพิพัฒน์ กล่าวว่า จากที่มีการกล่าวหาว่านายแพทย์ชาญชัย เรียกรับเงิน 5 เปอร์เซ็นต์จากบริษัทยา พอมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนสรุปว่ามีมูล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ยังไม่วินิจฉัยว่า นายแพทย์ชาญชัย กระทำการทุจริต แต่มีการโพสต์ถามปลัดว่าทำไมถึงย้าย ผอ.ชาญชัย ซึ่ง นายแพทย์สุขุม ฯ ปลัดกระทรวง ฯ ก็เข้ามาตอบว่า ทุจริต ทั้งที่คณะกรรมการสอบสวนฯยังไม่วินิจฉัยว่าทุจริต และอีกประเด็นที่มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์คือ ข้อที่บอกว่า ปปช.มาสอบแล้ว ทั้งที่ ปปช.ยังไม่รับเรื่องและยังไม่อยู่ในกระบวนการของ ปปช. สองข้อความนี้เป็นการนำเข้าบิดเบือน นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตอนนี้ฟ้องข้อหาเดียว แต่มีต่อเนื่องการกระทำความผิด เช่น ให้การเท็จต่อเจ้าพนักงาน การสืบสวนสอบสวนที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบปฏิบัติของกระทรวง รอข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีต่อไปอีก

"วันนี้ยื่นฟ้องเฉพาะนายแพทย์สุขุม และขณะนี้ทางทีมทนายกำลังสืบหาข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่มีบุคคลร่วมกระทำความผิด ซึ่งเราจะดำเนินการฟ้องอีกหลายคดี เพราะว่าการกระทำของบุคคลเหล่านี้ เป็นเหตุทำให้ ผอ.ชาญชัย ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง เกียรติยศ เกียรติคุณ ที่สะสมมาเป็นเวลา 30 กว่าปี"นายกุลพิพัฒน์ กล่าว

9 ก.ค. 2563

story:
บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่น รวมตัวเข้ายื่นหนังสือต่อ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น เร่งตรวจสอบการทุจริตเงิน รพศ.ขอนแก่น เมื่อปี 2558 หลังเรื่องเงียบมานาน

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น แพทย์หญิงกนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น (รพศ.ขอนแก่น) เข้ายื่นหนังสือต่อ ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้มีการตรวจสอบ เรื่องการทุจริตเงินของโรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อปี 2558 หลังเรื่องดังกล่าวมีการสอบสวนไปแล้วเรื่องกลับเงียบไป

เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม 2563  แพทย์หญิงกนกวรรณ ศรีรักษา ประธานองค์กรแพทย์ โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น (รพศ.ขอนแก่น) กล่าวว่า ทางองค์กรแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพและหน่วยงานควบคุมภายในรพศ.ขอนแก่น มีความรู้สึกไม่สบายใจและกังวลในเรื่องดังกล่าว

เนื่องจากเป็นคดีทุจริตซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายทั้ง ชื่อเสียง ทรัพย์สินขององค์กร และประเทศเป็นอย่างมาก รวมไปถึงมีการต้ังข้อสงสัยของสังคมอย่างกว้างขวาง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามที่จะโยกย้าย หมอชาญชัย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผู้อํานวยการโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นคนปัจจุบัน ให้พ้นจากตําแหน่ง แล้วให้กลุ่มแพทย์ในชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี ดังกล่าวมาเป็นรักษาการผู้อํานวยการแทน เนื่องจากหลักฐานการทุจริตทั้งพยานเอกสารและพยานบุคคล ยังคงอยู่ภายใน รพศ.ขอนแก่น

ทางองค์กรแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพและหน่วยงานควบคุมภายใน รพศ.ขอนแก่น ได้ทราบว่าคดีทุจรติ เงินสวัสดิการโรงพยาบาลดังกล่าว อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นเวลามากกว่า 4 ปี แล้ว

แต่การสอบสวนยังไม่มีรายงาน ความคืบหน้าให้ปรากฏแต่ประการใด จึงได้เรียนมาเพื่อพิจารณาเร่งรัดตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว เพื่อเป็น การรักษาผลประโยชน์ขององค์กร ประชาชน และประเทศชาติ และเป็นการชี้แจงตอบข้อสงสัยของสังคมที่เกิด ขึ้นอยู่ในขณะนี้ให้กระจ่างชัดต่อไป



10 กรกฎาคม 2563
https://www.komchadluek.net/news/local/436557

story:
ไม่ได้คุยเรื่อง “หมอชาญชัย” ซะนาน วันนี้คุยกันลืมกันหน่อย

ยังจำกันได้ใช้มั้ย?
หมอชาญชัย ผอ.รพ.ขอนแก่น ที่บริหารโรงพยาบาลจากที่คนก่อนๆ ทำติดลบไว้กว่า ๒๐๐ ล้าน

นอกจากบริหารล้างหนี้ได้หมดแล้ว ยังทำให้โรงพยาบาลมีสภาพคล่องด้วยตัวเลขบวกอีกกว่า ๒๐๐ ล้าน
แต่ด้วย “บัตรสนเท่ห์” ที่ “น่าสนเท่ห์” ใบเดียว

กล่าวหาเรื่องเงินทอน ๕% บริษัทยา ถูกปลัดสาธารณสุข “นพ.สุขุม กาญจนพิมาย” ย้ายเข้าประจำกระทรวง

นอกจากตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว
ในคำสั่ง “ปลัดสุขุม” ยังแถมเหน็บชายโครงเป็นแผลค่อนข้างฉกรรจ์เชิงอาญา ว่า
หมอชาญชัย “มีพฤติกรรมข่มขู่พยาน”
ต้องย้าย..ต้องย้าย ………
ให้ “หมอเกรียงศักดิ์” ผู้ขมังเวทย์ไปนั่งแป้นหมอใหญ่แทนให้เสร็จสมอารมณ์ค้าง ซึ่งค้างคามาตั้งแต่ปี ๖๑!

หน้าที่ผม คือหน้าที่ตามดู ก็ดูมาเรื่อยๆ เห็นบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลทางการแพทย์ ออกมาเซฟหมอชาญชัยกันมากมาย
ทั้งเรียกร้องธรรมาภิบาลจากปลัดฯ จากรัฐมนตรี จนถึงนายกฯ ว่าการย้ายหมอชาญชัยนี้ น่าจะมีเบื้องหลัง
และหมอที่ย้ายมาแทน……
คือ “หมอเกรียงศักดิ์” ประธานชมรมแพทย์ชนบทผูกขาด “ตัวละครร่วมฉาก” ก็…ยี้…ยี้

จึงเกิดปรากฏการณ์ “วิกฤตศรัทธาปลัดสาธารณสุข” มดหมอ ยกคณะพากันเดินทางมาถึงหน้ากระทรวง หน้าทำเนียบ
“เอาหมอเกรียงศักดิ์คืนไป เอาหมอชาญชัยกลับมา”!

แต่……
“ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากปลายสาย”
ทั้งสายปลัดฯ สายรัฐมนตรี รวมทั้งสายนายกรัฐมนตรี!?

นานาประชาราษฏร์ (ประชารัฐไม่ยุ่ง มุ่งแต่แย่งเก้าอี้) เห็นหมอดีถูกรังแกก็อดรนทนไม่ได้ ออกมายุ
“อย่างนี้ต้องฟ้อง”!

ฟ้องไล่ขึ้นไปตั้งแต่ปลัดปากแดงจนถึงรัฐมนตรีปากเป็นเอกนั่นเลย เอาให้เหมือนอย่างที่ คุณถวิล เปลี่ยนศรี ฟ้องยิ่งลักษณ์ จนตกเก้าอี้หงายท้องขาชี้ฟ้านั่นแหละ

นี่ก็จะเป็นเดือนแล้ว ………..
เรื่องก็มายันตันอี๋อยู่แค่นี้ ที่คืบหน้าก็มีแค่เปลี่ยนคนนั้น-คนนี้ มาเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนวินัย
เปลี่ยนใครไป-ใครมา คนภายนอก ก็แค่ อ้อ..เหรอ คือรู้แค่ที่รู้ว่าเปลี่ยน

แต่คนใน คือในวงการมดหมอและการสาธารณสุข ซุบๆ ซิบๆ “ด้วยไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่”
แต่ไม่อาวววว…ไม่พูด
“รู้อะไรไม่สู้ รู้ทางลม” เข้าฤดูกาลแต่งตั้ง-โยกย้ายแล้วด้วย จะปากพาซวยไปทำไม ประมาณนั้น

เนี่ย….
สถานการณ์หมอชาญชัย เหมือนหมากรุกถูกบีบตาเดิน จะขยับแต่ละตาต้องคิดหนัก มาเมื่อวาน (๒ กค.๖๓) เห็นขยับเห็นแล้วอยากจะออกปาก
“สุขุมคัมภีรแผน”เอาการ!

แสดงว่า ที่เงียบไป ไม่ใช่แอบหน้าร้องไห้กับข้างฝา คงไปเสาะแสวงหาพบอาจารย์ดี ได้ถ่ายทอดวิชา “ฝ่ามือพิฆาตมารปากแดง” มาแน่ๆ

คือเมื่อวาน หมอชาญชัยไปพบรัฐมนตรีอนุทิน นักข่าวก็ไปซักถาม มาพบด้วยเรื่องอะไร หมอชาญชัยก็บอกว่า
จะมาเรียนให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่า “ไม่คัดค้าน”
ที่เปลี่ยนตัวประธานสอบคนใหม่เป็น “พญ.อัมพร เบ็ญจพลพิทักษ์” ผู้ตรวจราชการกระทรวง
แต่ที่ผมบอกหมอชาญชัย “สุขุมคัมภีรแผน” ซ่อนอยู่ในคำตอบนักข่าว จะยกมาให้ดู

นักข่าวถาม “พญ.อัมพร มาเป็นประธานสอบแล้ว จะดำเนินการอะไรต่อไปไหม?”

หมอชาญชัยตอบว่า…….
“ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลายื่นเรื่องไปถึงศาลปกครอง เพราะมีเงื่อนเวลา
ตอนนี้ ยื่นไปแค่ที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.)เกี่ยวกับเรื่องการร้องทุกข์ที่โดนย้ายมา แต่ก็ร้องไปที่ปลัดฯด้วย”

สำหรับการเรียกร้องถึงเรื่องการสอบวินัยเขามีขั้นตอนอยู่แล้ว อย่างศาลจะเป็นแบบนี้, อัยการจะเป็นแบบนี้
แม้แต่ ก.พ.ค.เขาก็มีว่าเรื่องที่ ๑ คณะไหน เรื่องที่ ๒ คณะไหน แม้แต่ข้อมูลข่าวสารที่ผมไปขอ ไปยื่นเรื่อง เขาก็จะเรียงไว้แล้ว เหมือน Double Blind
เราไม่รู้จักกัน ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ เลือกคนนี้มาพิจารณา กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องเป็นกระบวนการยุติธรรม”

ผมถอดรหัสพันธุกรรมคำพูดหมอชาญชัยแล้ว ต้องชะเง้อหาปลัดฯ สุขุม ด้วยสิเหน่หาและห่วงใย

บั้นปลาย “หลังเกษียณ” งานหลัก น่าจะเป็นการเวียนขึ้นศาลนะท่าน!

เพราะดูที่หมอชาญชัยตอบนักข่าว แสดงว่าได้ร่ำเรียนวิชาแก้อาถรรพณ์ครบจบพระเวทย์แล้ว ถึงได้ร่ายขั้นตอนตามระเบียบ ก.พ.ค.เป็นฉากๆ

นี่เรียก “เป็นมวย” ศึกษากติกามาแล้วอย่างดี แบบนี้ ไม่มีฟาวล์
คือ คิดอย่างเราๆ เมื่อถูกกลั่นแกล้ง ก็ฟ้องศาลปกครองเลย เอาอย่างคุณถวิลฟ้องยิ่งลักษณ์

ก็ใช่……..
แต่มันไม่ใช่!

อย่างหมอชาญชัยจาระไนนั่น “มาถูกทางแล้ว” กฎกติกามารยาทของข้าราชการเขามี เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม จะปุบปับฟ้องศาลเลย
ไม่ได้ ….

มันข้ามขั้นตอนระบบราชการเขา เพราะข้าราชการเขามีพรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เป็นถนนให้เดิน
มี “คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม” (ก.พ.ค.) ทำหน้าที่ตุลาการของข้าราชการ พิจารณาด้านจรรยาบรรณ วินัย การอุทธรณ์ การร้องทุกข์

เนี่ย…
ที่สงสัยทำไมหมอชาญชัยไม่ฟ้องซักที ก็เป็นอย่างหมอชาญชัยบอก คือ “ยังไม่ถึงเวลายื่นเรื่องไปที่ศาลปกครอง”
ต้องตั้งหลัก เดินตามกติกาไปแต่ละสเต็ป
ไปร้องขอความเป็นธรรมกับปลัดฯ เป็นหลักฐานไว้ก่อน แล้วไปยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.

ก.พ.ค.พิจารณาวินิจฉัยได้เรื่องอย่างใดแล้ว ก็จะแจ้งไปตามสายงานบังคับบัญชา จนถึงนายกฯ
ว่าเรื่องนี้ ได้ความอย่างนี้ ผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามวินิจฉัยอย่างนี้..อย่างนี้

ถึงตอนนี้แหละ เราพอใจ-ไม่พอใจ อย่างไร ฟ้องศาลปกครองได้ทันที!
ถ้าข้ามหัว ก.พ.ค.ไปฟ้องศาลปกครองเลย อาจซวยทีหลัง คือจะย้อนเอาไปร้องก.พ.ค.ไม่ได้

อย่างกรณีคุณถวิล
เขาไปร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ก่อน .ก.พ.ค.ใช้เวลาร่วมปี ถึงได้มีคำวินิจฉัยออกมา “ยกคำร้อง” คุณถวิล

จากนั้น คุณถวิลถึงได้ฟ้องศาลปกครอง และศาลตัดสินว่า

“………….การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 152/2554 ลงวันที่ 7 ก.ย.54 ให้ผู้ฟ้องคดีไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เกิดจากกระบวนการโอนที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการโอนข้าราชการ
และเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่สมเหตุสมผลซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ย่อมมีผลให้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 ก.ย.54 ที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย”

วันนี้ เอาเท่านี้ละมัง ……….
คุยแล้วมันยาว ฉะนั้น พักไว้ก่อน แต่คิดว่า คุณปลัดฯ ฟังที่หมอชาญชัย “เผยแต้ม-แย้มไต๋” ตรงนี้แล้ว อาจหนาวไข้หวัดหมูก็ได้นะ
ส่วนท่าน “เจ้ากระทรวง” น่ะ….
ผมก็ห่วงนะ!

July 2, 2020
เปลว สีเงิน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version