สนช.มีมติ 177 เสียง รับหลักการกฎหมายอุ้มบุญ
วันที่ 27พ.ย. ที่รัฐสภาที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่1 เป็นประธานการประชุม ได้มีมติด้วยคะแนน 177เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง รับหลักการในวาระที่ 1 ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้วรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ชี้แจงถึงสาระสำคัญของร่างกฎหมายว่า ใช้บังคับการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อบำบัดรักษาภาวะการมีบุตรยากโดยให้มีคณะกรรมการฯ ทำหน้าที่ อาทิ ควบคุมตรวจสอบการให้บริการดังกล่าว กำหนดการตั้งครรภ์แทนโดยหญิงที่รับตั้งครรภ์แทนต้องมีข้อตกลงเป็นหนังสือไว้ให้กับสามีภรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายว่าจะให้ทารกในครรภ์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายห้ามดำเนินการให้ตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า และกำหนดบทลงโทษทั้งจำและปรับผู้ที่ฝ่าฝืนโดยจะเอาผิดทุกคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีประสงค์หลักคุ้มครองเด็กและปราบปรามการค้ามนุษย์และดำเนินการยึดหลักสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสมาชิก สนช. ได้อภิปรายแสดงความเห็นสนับสนุนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว อาทิ นายภิรมย์กมลรัตนกุล สนช. อภิปรายว่า ตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายนี้น่าจะแก้ไขโดยเฉพาะคำนิยามในมาตรา 2 ที่รวมถึงการผสมเทียม ซึ่งไม่น่าจะนำมาเกี่ยวข้องเพราะเรื่องผสมเทียมทำได้ตามปกติ องค์ประกอบของกรรมการในมาตรา 6 ที่ส่วนใหญ่เป็นกรรมการมาจากกรรมการโดยตำแหน่งซึ่งในร่างกฎหมายบางตำแหน่งไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จึงน่าจะเพิ่มสัดส่วนแพทยทยสภา บุคลากรในสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการด้วย ขณะที่นายกิตติวะสีนนท์ สนช. อภิปรายว่ากฎหมายฉบับนี้เรียกง่ายๆ คือ กฎหมายอุ้มบุญตนเห็นด้วยและสนับสนุนให้กฎหมายดังกล่าวออกมาบังคับใช้ เพราะที่ผ่านมาการอุ้มบุญไม่ถูกต้องหากออกกหมายฉบับนี้จะสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศที่ป้องกันการค้ามนุย์และการทารุณ.
เดลินิวส์ออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2557
