My Community
หมวดหมู่ทั่วไป => ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ => ข้อความที่เริ่มโดย: ABBA ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2013, 21:34:21
-
หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พุธที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 00:00:11 น.
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวภายหลังร่วมลงนามกับ น.พ.วินัย สวัสดิวรเลขาธิการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในบันทึกความร่วมมือเรื่อง "การพัฒนาหน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายและระบบข้อมูลบริการสาธารณสุขผู้มีสิทธิข้าราชการ ระหว่างกรมบัญชีกลาง และ สปสช." ว่า การลงนามดังกล่าวเพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของประเทศให้ไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาลให้มีการบูรณาการระบบการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ทั้ง 3 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนสวัสดิการข้าราชการ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกองทุนประกันสังคม เพื่อให้โรงพยาบาลบริการจัดการข้อมูลการเบิกจ่ายได้สะดวก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการให้บริการผู้ป่วย รวมทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุนทั้ง 3 กองทุน เนื่องจากจะทำให้เกิดการบูรณาการการับส่งข้อมูลเพื่อการเบิกจ่าย สามารถวิเคราะห์ข้อมูลระบบสุขภาพของประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียว และเกิดระบบข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ที่สอดคล้องกันทั้ง 3 กองทุน
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจึงได้จัดทำบันทึกความร่วมมือดังกล่าว โดยได้มอบให้สปสช.ทำหน้าที่ในการเป็นเคลียริ่งเฮาส์ หรือเป็นศูนย์รับข้อมูลการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลในโครงการของผู้มีสิทธิสวัสดิการข้าราชการทุกแห่ง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.56 เป็นต้นไป
"ในส่วนของการกำหนดสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลของสิทธิข้าราชการ ยังเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลางทั้งหมด และข้าราชการที่อยู่ในกองทุนสวัสดิการข้าราชการนั้นยังคงได้รับการรักษาเช่นเดิมตามสิทธิที่พึงจะได้รับ โดยกรมฯ ได้ตั้ง สปสช.เพื่อทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลการให้บริการทางการแพทย์ให้กับกรมฯ เพื่อพัฒนาสิทธิประโยชน์ของสิทธิข้าราชการ โดยคาดว่าการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยทำให้รายจ่ายค่ารักษาพยาบาลในแต่ละปีปรับลดลงได้ คาดว่าจะเห็นชัดเจนได้ในปีที่ 3 เป็นต้นไป" นายมนัส กล่าว