ผู้เขียน หัวข้อ: "ปิยะสกล"สุดทนแจงด่วนปมเลือกเลขาฯสปสช.  (อ่าน 567 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
"หมอปิยะสกล" สุดทนเรียกประชุมด่วนที่ สปสช. ชี้แจงประเด็นโดนโจมตี กีดกันไม่ให้หมอประทีปนั่งเลขาฯ บัตรทอง เพราะหวังส่งคน สธ.มากำกับควบคุมองค์กรเอง ยันกระบวนการโหวตรับรองโปร่งใส มีการถ่ายทอดสด สามารถตรวจสอบได้ สั่งไม่ได้ว่าต้องเป็นบัตรดี บัตรเสีย ไม่เข้าใจทำไมมีการพูดบิดเบือนข้อมูล เผย "มีชัย" ช่วยยืนยันไม่ล้มระบบบัตรทอง แต่จำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงเพื่อให้ระบบยั่งยืน

จากกระแสโจมตีจากกลุ่มแพทย์ชนบทและนักวิชาการบางคน ว่าการที่คณะกรรมการสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่รับรองให้ นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ ผู้ผ่านการสรรหาการเป็นเลขาธิการ สปสช. เป็นเพราะรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีการกีดกัน และต้องการให้ผู้ที่ สธ.สามารถกำกับควบคุมได้มาบริหารงาน เป็นผลให้ช่วงบ่ายของวันที่ 7 ก.ค. นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการ สธ. ได้ตัดสินใจเดินทางไปยังสำนักงานของ สปสช. ที่ถนนแจ้งวัฒนะ พร้อมกับเชิญผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สปสช.เข้าประชุมด่วน เพื่อรับฟังการชี้แจงปัญหาการเลือกเลขาฯ สปสช. รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ที่รับฟังสามารถถามคำถามประเด็นการเลือกเลขาฯ สปสช.ได้อีกด้วย

นพ.ปิยะสกลกล่าวว่า การประชุมด่วนครั้งนี้ก็เพื่อชี้แจงกรณีข้อคัดแย้ง และตนต้องการหารือกับคณะกรรมการทุกท่านถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ว่าการที่ตนเข้ามารับหน้าที่ รมว.สธ.เป็นระยะเวลาทั้งหมด 10 เดือน และจะอยู่อีกไม่นาน หากรัฐบาลชุดนี้หมดวาระ ตนก็หมดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ การเข้ามาดำรงตำแหน่งเพื่อเข้ามาบริหารระบบสุขภาพของประเทศให้มีความมั่นคง ทั้งพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นคนธรรมดา ไม่ใช่เทวดาที่จะแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นสิบปีได้ ซึ่งจากการเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีโอกาสได้เข้ามารับตำแหน่ง รมว.สธ.และประธานบอร์ด สปสช. จึงทำให้มีโอกาสเดินทางไปทำงานในประเทศต่างๆ รู้สึกปลื้มใจที่องค์กรระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ ธนาคารโลก หรือองค์กรอนามัยโลก ได้แสดงความชื่นชมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ของประเทศไทย และนำประเทศไทยเป็นแบบอย่าง ใจที่คิดจะล้มล้างไม่มีแม้แต่น้อย สิ่งที่คิดคือ เมื่อมีปัญหามีการพูดคุยกับทุกฝ่ายเสมอ ไม่มีการโยนหน้าที่ไปให้ฝ่ายใด นั่นคือสิ่งที่ดำเนินการตลอดมา และการที่ สปสช.ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี ไม่มีการพัฒนาบางอย่าง เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วเราต้องมีทางออก ต้องร่วมใจกันหาทางออกเพื่อให้ระบบบัตรทองสามารถเปลี่ยนแปลง และพัฒนาไปสู่ความมั่งคงและยั่งยืนยิ่งขึ้นได้

รมว.สธ.กล่าวอีกว่า ตนไม่เข้าใจว่าทำไมบางกลุ่มถึงพยายามสร้างข้อมูลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง มีการจับผิดการทำงานตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่การประชุมเพื่อรับรองเลาขาธิการ สปสช.คนใหม่ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งผลออกมาว่า
นพ.ประทีปไม่ได้รับการรับรอง ซึ่งในกรณีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือเรื่องความไม่ชอบมาพากลในเรื่องบัตรดี บัตรเสีย ซึ่งการประชุมในวันนั้นมีการถ่ายทอดสด ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส ตนไม่สามารถสั่งได้ว่าบัตรดังกล่าวต้องเป็นบัตรดี มีการถามกรรมการตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่เมื่อกรรมการกฤษฎีกาบอกว่าไม่ได้มีการกำหนดไว้ในระเบียบ จึงต้องมีการโหวตว่าบัตรนั้นเป็นบัตรดีหรือบัตรเสีย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ขององค์ประชุมเห็นว่าเป็นการแสดงความจำนงถือว่าเป็นบัตรดี

"ผมได้ทำงานกับคุณหมอประทีปตั้งแต่ที่ได้รับตำแหน่ง ไม่เคยมีปัญหาหรืออะไรต่อกัน แต่เมื่อมีการสรรหาเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ก็ดำเนินการไปตามกระบวนการ และหมอประทีปเป็นผู้เข้าสมัครคนเดียวที่มีคุณสมบัติสามารถเข้ารับตำแหน่งได้ ก็มีการพูดถึงจากบางฝ่ายว่า หากมีผู้ผ่านคุณสมบัติหลายคนก็สามารถเลือกคนที่ดีที่สุดเข้ามาได้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรนำมาเป็นประเด็น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งต่อกัน ซึ่งในการประชุมบอร์ดที่ผ่านมา ปรากฏว่าหมอประทีปไม่ได้รับการรับรองให้ได้รับตำแหน่ง โดยหมอประทีปซึ่งเป็นผู้ลงสมัครก็อยู่ในที่ประชุมและมีความเป็นสุภาพบุรุษที่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากฝ่ายใดมีความคิดว่าไม่โปร่งใส สามารถมาพูดคุยหรือขอดูเทปบันทึกการประชุมนั้นครั้งนั้นได้ อยากให้ได้รับรู้ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงจับใจความบางช่วงที่ได้รับทราบ แล้วนำไปเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้เกิดข้อมูลที่บิดเบือน" นพ.ปิยะสกลกล่าว และว่า หากมีการสรรหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป ตนก็ไม่อยากให้มีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ทั้งนี้ หากเป็นใครก็ตามที่ได้รับการรับรองให้เข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่ นพ.ประทีป ตนก็สามารถร่วมงานได้ทุกคน หากทุกฝ่ายให้การยอมรับ และเข้ามาเพื่อทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

“ทุกครั้งที่มีข้อขัดแย้งออกมา ประธานคนนี้มีข้องใจ แต่ไม่เคยขัดใจ เพราะทุกฝ่ายตั้งใจทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของระบบสุขภาพของประชาชน ประโยชน์ไม่ได้ตกที่ผมหรือใคร แต่อยู่ที่ประชาชนทั้งหมด หากมีขัดแย้งกันอยู่เช่นนี้ ปัญหาทั้งหมดตกอยู่ที่ประชาชนและระบบ งานข้างหน้ายิ่งใหญ่มาก ในการขับเคลื่อนประเทศ ทุกฝ่ายควรปรับเข้าหากัน ผมจึงต้องออกมาพูดในวันนี้ เพราะไม่อยากทิ้งระยะเวลาไว้นาน เพราะเกรงว่ากระแสขัดแย้งต่างๆ มันจะบานปลาย รวมไปถึงให้กำลังใจการทำงานของทุกฝ่ายต่อไป“

ช่วงเช้าวันเดียวกัน นพ.ปิยะสกลได้ให้สัมภาษณ์ว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ยืนยันว่า ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความชัดเจนว่าไม่มีการล้มระบบบัตรทองแน่นอน

"ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีและผมพูดมาตลอด เราไม่ล้มระบบบัตรทองแน่นอน แต่เพราะเหตุใดจึงมีคนพยายามพูดบิดเบือน ว่าเราจะล้มระบบ ทั้งๆ ที่ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของเราเป็นระบบที่ดีที่สุด หลายประเทศอยากทำแบบเรา เพียงแต่เราต้องมีการปรับปรุง พัฒนาระบบ เพื่อให้ระบบมีความยั่งยืน ไม่ใช่การล้มระบบ" รมว.สธ.กล่าว.

ไทยโพสต์ Friday, July 8, 2016