ผู้เขียน หัวข้อ: อย.ลั่นลุยตรวจคลินิกเสริมงามทั่วประเทศ เตือนหมอทำตาม กม.  (อ่าน 1315 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9784
    • ดูรายละเอียด
 อย. เผยมาตรการลุยตรวจคลินิกเสริมความงามทุกแห่งทุกสาขาทั่วประเทศ มิให้ผู้ใช้บริการได้รับอันตราย เตือนแพทย์ประจำคลินิก ปฏิบัติตามกฎหมาย
   
       นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้บริการ ณ คลินิกเสริมความงามต่างๆ ที่ขณะนี้เปิดให้บริการแพร่หลายในศูนย์การค้าและแหล่งชุมชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ปฏิบัติงานเชิงรุกในการกำกับเฝ้าระวังคลินิกเสริมความงามต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงรอบปี 2554 ได้ดำเนินการตรวจสอบและจับกุมคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง พบว่า ส่วนใหญ่มีการนำยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา หรือยาปลอม เช่น กลูตาไทโอน โบท็อกซ์ คอลลาเจน พลาเซนตา รกแกะ วิตามินซี รวมทั้งเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ได้แจ้งรายการละเอียดต่อ อย. และยาทาภายนอกมาให้บริการ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่ได้รับความปลอดภัย ดังนั้น ในปี 2555 นี้ อย.ได้จัดทำแผนเชิงรุกในการตรวจสอบคลินิกเสริมความงามทั้งรายใหญ่รายเล็กทุกสาขาทุกแห่งทั่วประเทศมิให้กระทำผิดกฎหมาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการปลอดภัยในการได้รับยาที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง
       
       เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า อย.ขอเตือนแพทย์ที่ตรวจรักษาในคลินิก หรือเจ้าของคลินิก ขอให้คัดเลือกยาที่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจาก อย.แล้ว เนื่องจากยาที่จำหน่ายได้จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยา กรณีเป็นยาที่ผลิตในประเทศ ต้องเป็นยาที่ผลิตจากสถานที่ผลิตยาที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นจึงจะถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่สถานที่ผลิตเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่ง อย.เคยตรวจพบมาแล้ว และหากเป็นยานำเข้าก็จะต้องได้รับอนุญาตมีใบรับรองการนำเข้าและขึ้นทะเบียนถูกต้องจาก อย. หรือหากเป็นยาที่ได้รับการยกเว้นการขึ้นทะเบียน เช่น ยาที่ปรุงหรือผลิตขึ้นเฉพาะการรักษาผู้ป่วยบางราย ซึ่งจะได้รับการยกเว้นการขึ้นทะเบียน แต่ตัวยาที่นำมาปรุงเป็นส่วนประกอบ จะต้องผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับยาถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน
       
       สำหรับแพทย์ที่ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบกระทำผิด อย. และ บก.ปคบ. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยผู้เป็นแพทย์กระทำผิดกฎหมาย จะถูกส่งชื่อไปยังแพทยสภาให้ดำเนินการเอาผิดทางจริยธรรมและจรรยาบรรณแพทย์ พร้อมกันนี้ จะส่งเรื่องไปยังสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล และใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาลต่อไป

ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 มกราคม 2555