วันนี้ (16ก.พ.2555) ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า จากการประชุมนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก (Global Alcohol Policy Conference : GAPC) ภายใต้หัวข้อ "จากแผนยุทธศาสตร์ระดับโลกสู่การปฏิบัติระดับชาติและท้องถิ่น"โดยมีนักวิชาการ สาธารณสุขเข้าร่วมกว่า 59 ประเทศ ต่างเห็นตรงกันว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นภัยคุกคามคนทั่วโลกทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และเครือข่ายงดเหล้าทั่วประเทศที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ต่างสะท้อนข้อมูล มีมติร่วมกันว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่สินค้าธรรมดา เพราะพิษของแอลกอฮอล์เป็นตัวการให้เกิดการเสพติด และเป็นต้นทางของสิ่งเสพติดอื่นๆ ทำให้ผู้ดื่มขาดสติไปก่อปัญหาตามมาได้อีกมากมาย ซึ่งมีงานวิจัยกว่า 100 ชิ้น ที่ยืนยันความไม่ธรรมดาของสินค้าชนิดนี้ ว่าทำให้เกิดความสูญเสียมากเพียงใด
ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า การมียุทธศาสตร์ควบคุมปัญหาจากการดื่มแอลกอฮอล์ระดับโลก จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะไม่ได้ทำเฉพาะประเทศไทย แต่เป็นความร่วมมือของประเทศอื่นๆทั่วโลก ต่างก็ให้ความสำคัญ และหาทางป้องกัน เพื่อไม่ให้สร้างผลกระทบต่อ สุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ และเร็วๆนี้ทางเครือข่ายงดเหล้าทั่วประเทศ จะรวมตัวกัน เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อองค์การอนามัยโลกหรือ WHO อย่างเป็นทางการเพื่อขอให้มี “วันงดดื่มสุราโลก” ในหลักการเดียวกับวันงดสูบบุหรี่โลก และจะยื่นข้อเรียกร้องให้มีการถอดบัญชีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกจากการเจรจาการค้าเสรี (FTA) เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่สินค้าธรรมดา ทำร้ายมนุษยชาติในทุกมิติ ยิ่งมีการค้าเสรีเท่ากับว่าส่งเสริมให้น้ำเมาทำลายมนุษยชาติได้อย่างเสรี เหตุผลชัดเจน ที่ไม่นำยาเสพติด อาวุธ ในการเจรจาการค้าเสรี เพราะเป็นตัวการฆ่ามนุษย์ แต่มีงานวิจัยชัดเจนว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฆ่าชีวิตคนทั่วโลกมากกว่าทั้งยาเสพติด และอาวุธ ดังนั้นจึงไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้มีการค้าเสรีเกิดขึ้น
ด้าน นพ.พรชัย พิญญพงษ์ ประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (ย.พ.ส.ล.) กล่าวว่า จากมติสมาชิกในที่ประชุมองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก กว่า 20 ประเทศ ทั้งหมด 40 องค์กร อาทิ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ศรีลังกา สหรัฐอเมริกา ฯลฯ ต่างเสนอให้ มีวันงดดื่มสุราโลก หรืออาจจะใช้วันเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากประชาชนต้องการทำความดี ถือศีล เริ่มต้น ตั้งใจ ตัดใจ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น จึงอยากให้องค์การอนามัยโลกรับรองและประกาศให้มีวันงดดื่มสุราโลกอย่างชัดเจน เชื่อว่าคนไทยทั่วปะเทศและองค์กรด้านสุขภาพเห็นด้วยและสนับสนุนให้มีประกาศวันงดดื่มสุราโลกอย่างแน่นอน เพราะหากดูจากสถิติ ข้อมูลความสูญเสียที่ผ่านมาถือว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวอันตรายมากกว่าบุหรี่ด้วยซ้ำ และการประกาศครั้งนี้จะสามารถ สร้างแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นจุดเริ่มต้นในการลด ละ เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
แนวหน้า 17 กุมภาพันธ์ 2555
