เมื่อวันที่ 2 พ.ค. สังคมออนไลน์เเชร์คลิปวงจรปิดในโรงพยาบาลเผยให้เห็นภาพวัยรุ่นพุ่งตรงเข้าเหมือนทำร้ายร่างกายผู้ป่วยที่อยู่บนเตียง
โดยเฟซบุ๊กเพจเสียงจากแผ่นดินแม่ ซึ่งเป็นผู้เผยเเพร่ระบุว่า ห้องER รพ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 เวลาบ่าย 3 โมงกว่าๆ ที่ห้องอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน โรงบาล นราธิวาสฯ ทะเลาะกันในงานกาชาด แค่เจ็บ รักษาตัว มาแทงซ้ำตายคาเตียงในโรงบาล
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนราธิวาสได้ขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว1 คน ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างเตรียมออกหมายจับ จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายเป็นคู่อริกับผู้เสียชีวิต ซึ่งได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในงานกาชาด และงานประจำปีจังหวัดนราธิวาส ประจำปี 2560 ก่อนจะตามมาทำร้ายจนเสียชีวิต
ต่อมาเวลา16.30 น. มีรายงานว่า คนร้ายทั้งสองได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเเล้ว
2 พฤษภาคม 2560
http://www.posttoday.com/social/hot/492882..............................................
บุกฆ่าตายคาห้องฉุกเฉิน!! โจ๋ติดต่อขอมอบตัว-หลังตร.ออกหมายจับ รพ.สั่งป้องกันหวั่นซ้ำรอย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีการแชร์ภาพกล้องวงจรปิดในโลกโซเชียล จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานา โดยเหตุเกิดขึ้นภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยชาย 2 คน บุกใช้ของมีคมแทงคู่อริตายคาห้องฉุกเฉิน จนพยาบาลเวรและผู้ป่วยที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งหลบหนีกันอลหม่าน ก่อนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ประตูทางเข้าของโรงพยาบาลสามารถบันทึกพฤติกรรมของ 2 คนร้ายเอาไว้ได้ ขณะวิ่งหลบหนีออกจากห้องฉุกเฉิน พากันซ้อนท้ายรถ จยย. หลบหนีไป
จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำการสอบถามไปยังนายแพทย์สมหมาย บุญเกลี้ยง นายแพทย์สาธารณสุข จ.นราธิวาส ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ขณะร่วมประชุมกับส่วนราชการของกระทรวงสาธารณสุข ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตนมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก โดยจะซื้อเครื่องสแกนมือติดตั้งไว้ที่บริเวณประตูทางเข้าของโรงพยาบาล และประตูด้านหน้าของอาคารห้องฉุกเฉินจุดเกิดเหตุ โดยจะใช้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการเปิดปิดของประตู
หากมีญาติและบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความประสงค์จะเข้าไปดูแลอาการของผู้ป่วย รวมทั้งจะสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เวรยามในแต่และห้วงเวลา มีความเข้มงวดในการตรวจตราบุคคลที่มีความประสงค์จะเข้าไปภายในโรงพยาบาลทุกกรณี ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้ เพราะถือว่าโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ปลอดอาวุธ และหลังจากนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุร้ายใดๆขึ้นอีก ขอให้ประชาชนมั่นใจได้
2 พฤษภาคม 2560
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_329592