สาธารณสุข * สธ.เผยคนไทยใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น ปี 53 จังหวัดชลบุรีอันดับหนึ่ง มูลค่า 26 ล้านบาท รองลงมาจังหวัดสุรินทร์ 12 ล้านบาท จากยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 146 ล้านบาท
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยภาคกลางปี 2554 ภายใต้หัวข้อ "สืบสานตำรายาหลวงปู่ศุข" ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมกับ 16 จังหวัดภาคกลาง เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยและสมุนไพรของเครือข่ายในระดับภูมิภาค โดยมีหมอพื้นบ้าน เจ้าหน้าที่สาธารณสุชจาก 16 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สระบุรี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ปทุมธานี ลพบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และประจวบคีรีขันธ์
ปลัด สธ.กล่าวว่า สธ.มีนโยบายส่งเสริมให้มีการบริการแพทย์แผนไทยผสมผสานควบคู่กับการแพทย์ปัจจุบัน โดยใน รพ.ทุกระดับมีบริการแพทย์แผนไทย ปัจจุบันมี 10,516 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนให้ รพ.ทุกระดับใช้ยาสมุนไพรเพื่อรักษาผู้ป่วยทุกกลุ่มโรคทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน ล่าสุดมียาแผนไทยที่บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติแล้ว 71 รายการ สามารถเบิกจ่ายได้ทุกสิทธิการรักษา จากข้อมูลการติดตามรายการในเขตต่างๆ ในปี 2553 พบว่ามีการใช้ยาไทยในสถานบริการทุกระดับของ สธ. 36 จังหวัด มีมูลค่า 146 ล้านบาท จังหวัดที่ใช้สูงสุดคือ ชลบุรีกว่า 26 ล้านบาท รองลงมาสุรินทร์ 12 ล้านบาท ขอนแก่น 10 ล้านบาท
"ในปี 54 นี้ สธ.ได้คัดเลือก รพ.ต้นแบบให้บริการผู้ป่วยด้วยการแพทย์แผนไทยเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ รพ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี, รพ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี, รพ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว, รพ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ, รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่, รพ.เทิง จ.เชียงราย, รพ.ท่าโรงช้าง จ.สุราษฎร์ธานี และสถาบันวิจัยแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทย"
ไทยโพสต์ 6 สิงหาคม 2554