ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดลายแทงประวัติศาสตร์ ทัวร์ 5 วัดมงคล ชม "ของดี" หนึ่งเดียวในโลก  (อ่าน 1358 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
ช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านปี ก้าวสู่ปีใหม่ศักราชใหม่ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนที่จะไปทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรม ขอความสิริมงคลแก่ชีวิต

วันหยุดยาวเช่นนี้นับเป็นโอกาสดี โดยเฉพาะใครที่ไม่มีโปรแกรมไปสัมผัสลมหนาวต่างจังหวัด เพราะกรุงเทพฯ ห้วงเวลานี้เหมาะแก่การเที่ยวเล่นเป็นที่สุด

"มติชน" อาสาพาไปทัวร์ 5 วัดมงคล ที่ขอยืนยันว่า "ไม่ธรรมดา"!

ล้วนแล้วแต่เป็นวัดที่มีความน่าสนใจในเชิงประวัติศาสตร์ ความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ที่น้อยคนนักจะรู้

5 วัดที่ว่าประกอบด้วย "วัดเทพธิดารามวรวิหาร - วัดสุทัศนเทพวราราม - วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร - วัดพิชยญาติการามวรวิหาร - วัดทองธรรมชาติ"

เริ่มจาก วัดเทพธิดารามวรวิหาร พระอารามหลวงที่สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชทานกับพระธิดาองค์ใหญ่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าวิลาส หรือ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ

ภายในพระอุโบสถจะพบกับพระพุทธเทววิลาส หรือหลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยเชียงแสนผสมสุโขทัย ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร จำหลักด้วยศิลาสีขาวบริสุทธิ์ ประดิษฐานเหนือเวชยันต์บุษบก หรือ บุษบกท้ายเกริน ซึ่งเป็นไม้จำหลักลายปิดทอง ประดับกระจก ลวดลายประณีตงดงาม

ที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นคือ รูปหล่อหมู่พระอริยสาวิกา (ภิกษุณี) ลงรักปิดทอง จำนวน 52 องค์ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าองค์พระประธาน หนึ่งในนั้นก็คือ พระนางปชาบดีโคตมี พระน้านางของพระพุทธเจ้า ที่ถือเป็นภิกษุณีองค์แรกที่มีส่วนในการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาในหมู่สตรี

นอกจากความงดงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว วัดนี้ยังเป็นที่พำนักในบั้นปลายชีวิตของกวีเอก "สุนทรภู่" แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ อีกด้วย โดยปัจจุบันยังเก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ของท่านไว้ในขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ด้วย โดยจัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์กุฏิสุนทรภู่ ประดิษฐานรูปหล่อครึ่งตัวของสุนทรภู่ขณะยังเป็นพระภิกษุ รวมถึงสมุดข่อย 200 ปี คัมภีร์พระมาลัย ตำรารักษาโรค รวมถึงเครื่องใช้เล่นแร่แปรธาตุหลายอย่าง ซึ่งล้วนเป็นองค์ความรู้เก่าแก่โบราณที่หาชมได้ยากทั้งสิ้น

วัดต่อมา คือ วัดสุทัศนเทพวราราม พระอารามหลวงชั้นเอก 1 ใน 6 แห่งของประเทศไทยซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนี หรือ หลวงพ่อโต พระพุทธรูปสำริดซึ่งอันเชิญมาจากพระวิหารหลวง วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย มีอายุกว่า 600 ปี

สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้ก็คือ แผ่นศิลาสลักศิลปะแบบทวารวดี เป็นรูปสลักปิดทองปางยมกปาฏิหารย์และปางประทานเทศนาในสวรรค์ เป็นของเก่าและหาดูได้ยาก เชื่อว่ามีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น นอกจากนั้น ภายในพระวิหารหลวงยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นภาพพุทธประวัติซึ่งวาดในสมัยรัชกาลที่ 3 และอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์มาก

ไม่เพียงเท่านั้นตัวอาคารพระอุโบสถวัดสุทัศนฯ ยังได้ชื่อว่าเป็นพระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ยาวสวยงามที่สุดในประเทศอีกด้วย ภายในประดิษฐาน "พระพุทธตรีโลกเชษฐ์" ซึ่งหล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เบื้องหน้าองค์พระมีพระอสีติมหาสาวกนั่งพนมมือรับฟังพระบรมโอวาทจากพระพุทธองค์อีก 80 องค์

จากนั้น ข้ามกลับมายังฝั่งธนบุรี เพื่อมาเยี่ยมชมวัดเชื้อสายตระกูลบุนนาค ได้แก่ วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร และ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร สร้างราว พ.ศ.2371 และได้ถวายเป็นพระอารามหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดนี้ก็คือ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธนาค หรือ "หลวงพ่อนาค" พระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย อายุกว่า 700 ปี นับเป็นพระพุทธรูปโบราณคู่กับพระศรีศากยมุนี ถึงกับมีการเรียกเปรียบพระพุทธนาคศักดิ์สิทธิ์ ว่า พระพุทธนาคน้อย และ พระศรีศากยมุนี คือ พระพุทธนาคใหญ่ ซึ่งชาวไทยและชาวจีนให้ความเคารพบูชาในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาก ขอพรแล้วพบกับสิ่งอัศจรรย์หลายประการ

ที่วัดนี้ยังมีเรื่องเล่าที่บันทึกไว้โดยหมอบรัดเลย์ว่า ครั้งที่มีงานฉลองวัดนั้น มีการทำไฟพะเนียงด้วยปืนใหญ่และเกิดระเบิดแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก หมอบรัดเลย์ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกลจึงถูกตามตัวให้ไปรักษาผู้บาดเจ็บ ทำให้เกิดเหตุการณ์สำคัญทางการแพทย์ขึ้น คือ การผ่าตัดครั้งครั้งแรกในประเทศไทย

ส่วน วัดพิชยญาติการาม หรือ วัดพระยาญาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพิชัยญาติ เป็นวัดที่มีความโดดเด่นในเชิงแบบแปลนมาก มองจากด้านหน้าวัดจะเห็นเจดีย์คู่อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ และมีพระปรางค์ 3 องค์ อยู่ด้านหลังหน้าบันของพระอุโบสถอยู่ในระดับตำแหน่งที่ต่ำกว่าหน้าบันมุขของพระปรางค์องค์ใหญ่ดูสอดคล้องรับกันอย่างพอเหมาะพอดี เห็นแล้วสวยงามเป็นที่น่าอัศจรรย์มาก อีกอย่างที่ไม่น่าจะพลาดชมเมื่อได้มาเยี่ยมวัดนี้ก็คือ ภาพแกะสลัก "สามก๊ก" หินอ่อน ที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย

วัดสุดท้ายที่เป็นจุดมุ่งหลายของทริปไหว้พระ 5 วัดครั้งนี้ก็คือ วัดทองธรรมชาติ เป็นวัดโบราณที่ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งวัดนี้มีความน่าสนใจคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถที่มีเทคนิคการเขียนภาพที่น่าสนใจ ทั้งเทคนิคการเขียนภาพเป็นแบบศิลปะตกแต่ง (Decorative art) การใช้คู่สีเขียวกับสีแดง การเขียนภูเขาแบบจีนที่มีลักษณะเป็นคลื่นระบายด้วยสีอ่อนและตัดขอบสันเหลี่ยมด้วยสีดำ

ไม่เพียงแต่ภาพเขียนที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธประวัติ ไตรภูมิพระร่วง เทพชุมนุม ฤๅษี และวิทยาธร เท่านั้น แต่ยังมีภาพวิถีชีวิตของประชาชนในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นให้เห็นด้วย ผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะไม่ควรพลาด

หลังปีใหม่ไปแล้ว ใครที่ว่าง วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2555 ศูนย์อาชีพและธุรกิจมติชน หรือ มติชน อคาเดมี ในเครือ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เชิญชวนมาร่วมทริป "ไหว้พระ 5 วัดมงคล ชมงานช่างหลวง" โดยมีนักเขียนนักประวัติศาสตร์ศึกษา ผศ.ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เรื่องของประวัติศาสตร์และความสำคัญของวัดแต่ละวัดตลอดการเดินทาง

รายละเอียดติดต่อได้ที่ 0-2954-3977-84 ต่อ 2115, 2116, 2123 และ 2124 หรือ 08-2993-9097, 08-2993-9015 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.matichonacademy.com

ลมเย็นๆ อากาศโปร่งๆ แบบนี้ ไปศึกษาประวัติศาสตร์นอกห้องเรียนกัน

 มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 28 ธันวาคม 2554