เมื่อวันที่ 23 พ.ค. จากกรณีมีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอเป็นภาพหนุ่มส่งพัสดุขี่รถจักรยานยนต์กำลังถีบรถยนต์คันหนึ่งให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า โดยเท้าที่ถีบไม่ได้สวมใส่รองเท้า โดยในภาพมีคำบรรยายไว้ว่า "นับถือน้ำใจของน้อง แดดก็ร้อน" โดยมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นจำนวนมาก และมียอดคนเข้าไปดูคลิปดังกล่าวถึงเกือบ 2 ล้านวิว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบนถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี พบ น.ส.สุพรรณา คล่องใจ อายุ 45 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าว และนายศาสตราวุธ จุทาบุตร อายุ 30 ปี พนักงานส่งพัสดุบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนที่ขี่รถจยย.โดยใช้เท้ายันรถยนต์เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ดังกล่าว
น.ส.สุพรรณา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.66 เวลาประมาณ 13.00-14.00 น. ตนขับรถยนต์มาจากถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าถนนรัตนาธิเบศร์ เพื่อจะกลับเข้าบริษัท ก่อนจะมาถึงช่วงโค้งจะเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ สังเกตเห็นน้องใช้เท้ายันรถยนต์ให้เคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งปกติตนไม่เคยเห็นรถ จยย.ยันรถยนต์ เห็นแต่รถจยย. ยันกับรถจยย. นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นและก็แปลกใจมากว่าน้องเขายันไปได้ยังไงเพราะรถยนต์ค่อนข้างมีน้ำหนัก นอกจากนี้อากาศข้างนอกก็ร้อน ขนาดตนนั่งอยู่ในรถยนต์ยังรู้สึกร้อนเลย และที่ด้านหลังน้องก็มีของที่ต้องไปส่งอีกจำนวนมาก ยังมีน้ำใจมาช่วยยันรถยนต์อีก และขณะที่น้องเขาใช้เท้ายันรถ น้องยังถอดรองเท้า คิดว่าน้องเขาคงกลัวรถยนต์เปื้อน เห็นแบบนี้ก็รู้สึกประทับใจ น้องเขามีน้ำใจมาก
มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าน้องตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ตอนแรกไม่คิดว่าจะลงโซเชียล แค่ส่งให้เพื่อนดู พอว่างจึงได้นำมาโพสต์และนำเพลงมาใส่ ซึ่งฟังดูแล้วก็เข้ากันดี อยากให้คนอื่นได้เห็นว่าคนไทยยังมีมุมดีๆ แบบนี้อยู่ หลังจากลงคลิปวิดีโอไปก็มีคนเข้ามาดูเกือบ 2 ล้านและมีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจน้องเป็นจำนวนมาก ตนก็ดีใจแทนน้องเขาด้วย ก็อยากบอกคนอื่นว่าถ้ามีโอกาสก็ทำความดี ถึงตอนทำจะไม่มีใครเห็นแต่ตัวเรารู้ว่าเราทำอะไร และก็อยากให้น้องเขาทำความดีต่อไป แต่ก็มีบางคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นว่าเป็นการสร้างคอนเทนต์หรือเปล่า ซึ่งที่จริงแล้วตนไม่เคยรู้จักน้องมาก่อน เพิ่งได้เจอตัวจริงวันนี้
ด้านนายศาสตราวุธ กล่าวว่า วันนั้นตนขับรถออกมาจากคลังย่านท่าอิฐกำลังจะไปส่งของ พอดีน้องคนที่ขับรถยนต์เป็นพนักงานส่งของเหมือนกันได้โทรมาบอกว่าน้ำมันหมด จอดอยู่หน้าไทวัสดุ ถนนราชพฤกษ์ ให้ตนช่วยซื้อน้ำมันมาให้หน่อย ตนจึงบอกน้องไปว่าถ้าไปซื้อน้ำมันก็ต้องซื้อแกลอนเปลืองเงินเปล่าๆ ไม่ต้องซื้อเดี๋ยวตนอาสายันรถยนต์ไปปั๊มให้เอง ซึ่งน้องก็ถามว่าทำได้หรือรถยนต์มันหนัก ตนจึงบอกไปว่าตนทำบ่อยมีประสบการณ์ยันได้ไม่ยาก จากนั้นตนก็ขับรถมาที่เกิดเหตุแล้วช่วยยันรถยนต์มาที่ปั๊มน้ำมันบนถนนรัตนาธิเบศร์ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ จากนั้นน้องก็เติมน้ำมันแล้วก็เลี้ยงน้ำตนซึ่งตนก็ไม่ได้คิดจะเรียกร้องอะไร
"ปกติเรื่องยันรถตนเคยยันตั้งแต่สมัยที่เป็นวัยรุ่นเป็นวิชาเด็กแว้น ตอนออกไปขับรถเที่ยว เริ่มจากยันรถจยย.ก่อน จากนั้นก็ยันรถยนต์ รถแท็กซี่ รถกระบะ ทำมามากกว่า 10 คันแล้วก็ค่อยๆ หัดมาจนชำนาญรู้ว่าต้องประคองน้ำหนักรถจยย.ยังไง ไม่อย่างนั้นมันจะล้ม และก็ต้องนั่งให้ถูกตำแหน่งเพื่อให้มีแรงไปยันรถยนต์ด้วย แต่ถ้าคนไม่มีประสบการณ์อาจเจ็บตัวได้ ก็ไม่อยากให้ใครทำตาม ปกติตนยันรถยนต์ก็จะถอดรองเท้า เพราะในรองเท้ามีทรายจะทำให้สีรถเป็นรอย ส่วนคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมตนก็ขอขอบคุณอย่างน้อยก็เป็นกำลังใจในสิ่งที่ตนทำ รู้สึกดีใจมาก ตนก็อยากฝากถึงคนที่จะทำตามว่าอย่าทำเลยถ้าไม่เคยฝึกมาก่อน และการช่วยเหลือกันเล็กๆ น้อยๆ บนท้องถนนก็เป็นเรื่องที่ดี คนเราต้องมีน้ำใจต่อกัน" นายศาสตราวุธ กล่าว
เดลินิวส์
23พค2566
