ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2489 ศาลฎีกาได้ตัดสินคดีอาชญากรสงครามในคดีอาชญากรสงครามที่ 1/2489 ยกฟ้องปล่อยตัวจำเลยทั้ง 4 คน จอมพลแปลก พิบูลสงคราม, หลวงวิจิตรวาทการ, พล.ต.ประยูร ภมรมนตรี, และนายสังข์ พัธโนทัย
เพราะพระราชบัญญัติอาชญากรสงครามโลกไม่สามารถลงโทษจำเลยย้อนหลังในการกระทำก่อนวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2489
ต่อมาในวันรุ่งขึ้น วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2489 นายปรีดี พนมยงค์ ได้รับการสนับสนุนจากพรรคสหชีพและพรรคแนวรัฐธรรมนูญให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นเพียง 2 เดือน รัฐบาลนายปรีดี พนมยงค์ ก็ได้กราบบังคมทูลโปรดเกล้ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489 เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 อันเป็นการยุติสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้ เหลือเพียงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งแต่เพียงอย่างเดียว[10]
ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าการยกเลิกบทเฉพาะกาลในเรื่องผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 นั้น ได้ถูกริเริ่มโดยนายปรีดี พนมยงค์ ดังปรากฎในคำปรารภของรัฐธรรมนูญฉบับเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ความตอนหนึ่งว่า
ต่อมานายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในขณะนั้น ได้ปรารภกับนายควง อภัยวงศ์ นายกรัฐมนตรีว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนี้พระมหากษัตริย์ได้พระราชทานแก่ชนชาวไทยมาแล้วเป็นปีที่ 14 ถึงแม้ว่าการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีรัฐธรรมนูญเป็นหลักนี้จะได้ยังความเจริญให้เกิดแก่ประเทศชาตินับอเนกประการ ทั้งประชาชนจะได้ทราบซึ่งถึงคุณประโยชน์ของการปกครองระบอบนี้เป็นไปอย่างดีแล้วก็จริง
แต่เหตุการณ์บ้านเมืองก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก ถึงเวลาแล้วที่ควรจะได้เลิกบทฉะเพาะกาลอันมีอยู่ในรัฐธรรมนูญนั้น และปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นายกรัฐมนรีจึ่งนำความนั้นปรึกษาหารือกับสมาชิกผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 พร้อมกับคณะผู้ก่อการขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ...[10]
ทั้งนี้นายปรีดี พนมยงค์ ได้อธิบายในเรื่องยุบเลิกผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 เอาไว้ว่า
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คณะราษฎรได้ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้แก่ราษฎรเพื่อให้ราษฎรมีสิทธิประชาธิปไตยสมบูรณ์ ดังนั้นผู้แทนราษฎรประเภท 2 ซึ่งส่วนมากเป็นสมาชิกคณะราษฎรจึงได้ร่วมมือกับผู้แทนราษฎรประเภท 1 ซึ่งได้รับการเลือกโดยตรงจากราษฎรจัดร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันท์มหิดลได้ทรงลงพระปรมาภิไธยประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 แทนฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
รัฐธรรมนูญฉบับ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 ให้สิทธิประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ที่สุดแก่ปวงชนชาวไทย คือ
มาตรา 13 ให้มีเสรีภาพบริบูรณ์ในการถือศาสนาหรือลัทธินิยมใดๆ
มาตรา 14 ให้เสรีภาพบริบูรณ์ในร่างกาย เคหสถาน ทรัพย์สิน การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา การศึกษาอบรม การชุมนุมสาธารณะ การตั้งสมาคม การตั้งคณะพรรคการเมือง การอาชีพ
แม้มีข้อกำหนดภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย แต่บทกฎหมายนั้นก็ไม่ล่วงล้ำสิทธิประชาธิปไตย คือ เพียงกำหนดให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของประชาชนดังนั้นหนังสือพิมพ์จึงออกกันแพร่หลาย พรรคการเมืองก็ตั้งกันได้อย่างแพร่หลายโดยไม่จำกัดความนิยมลัทธิการเมืองของพรรคนั้นๆ
รัฐสภาซึ่งประกอบไปด้วยพฤติสภา (SENATE) และสภาผู้แทนสมาชิกของทั้งสองสภาเป็นไปได้โดยการเลือกตั้ง มิใช่โดยการแต่งตั้ง คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนให้ราษฎรลงคะแนนออกเสียงโดยตรงและลับ การเลือกตั้งสมาชิกพฤฒสภาให้ใช้วิธีลงคะแนนออกเสียงโดยทางอ้อมและทางลับซึ่งเป็นหลักที่นิยมกันทั่วไปซึ่งเรียกกันว่าการลงคะแนนสองชั้น คือราษฎรลงคะแนนตั้งตัวแทนของตน (ซึ่งอาจเป็นสมาชิกสภาผู้แทน) มาขั้นหนึ่งก่อน แล้วตัวแทนของราษฎรลงมติเลือกพฤฒสมาชิกอีกขั้นหนึ่ง [11]
สถานการณ์ในเวลานั้นได้ทำให้สถานภาพของนายปรีดี พนมยงค์ นายกรัฐมนตรี ได้รับการยกย่องในหลายมิติรอบด้าน เพราะได้นำพาทำให้ประเทศไทยให้พ้นจากประเทศผู้แพ้สงคราม เป็นผู้นำในการทำให้นิรโทษกรรมทางการเมืองในอดีต นำพาทำให้จอมพล ป. พิบูลสงครามและพวกรอดพ้นจากคดีอาชญากรสงคราม อีกทั้งยังเป็นผู้ให้กำเนิดรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดผู้แทนราษฎรและพฤฒสมาชิกที่มาจากประชาชนโดยตรง และเป็นผู้อธิบายชำระประวัติศาสตร์ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกด้วย
อย่างไรก็ตามยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่นายปรีดี พนมยงค์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้มีความพยายามเสนอสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี และพระยามานนวราชเสวี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8มีพระราชประสงค์จะแต่งตั้งกรมขุนชัยนาทนเรนทร และพระองค์เจ้าธานีนิวัติ (กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร)เป็นผู้สำเร็จราชการ [12]
แต่ในที่สุดเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่8 ก็ได้ตามมาในเวลาเพียง 1 เดือนนับแต่วันที่ประกาศรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2489 ได้เป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์ของนายปรีดี พนมยงค์ และได้ถูกระบอบอนาธิปไตย เข้ามาทำลาย จนถึงขั้นไม่สามารถรักษารัฐธรรมนูญเอาไว้ได้ และถูกฉีกไปในท้ายที่สุด
อ้างอิง
[1] ปรีดี พนมยงค์, บางเรื่องเกี่ยวกับการก่อตั้งคณะราษฎรและระบบประชาธิปไตย, อนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพ ร.ท.อู๊ด นิตยสุทธิ ต.ช.ต.ม., อดีตผู้แทนราษฎร จังหวัดนคราราชสีมา ณ ฌาปนสถาน วัดใหม่อัมพร อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาพ.ศ. 2517, เผยแพร่เว็บไซต์สถาบันปรีดี, หน้า 123-127
https://pridi.or.th/sites/default/files/pdf/2515-66.pdf[2] พระราชบันทึกทรงเล่าของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี, เบื้องแรกประชาธิปตัยเล่ม 1, สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, โรงพิมพ์มติชนปากเกร็ด, พิมพ์ครั้งที่ 3 มิถุนายน 2560, ISBN: 978-616-91915-8-2, หน้า 32
[3] ราชกิจจานุเบกษา,ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องนายทหารออกจากประจำการ, เล่ม 62 ตอนที่ 9, วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 หน้า 148-149
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2488/D/009/148.PDF[4] ราชกิจจานุเบกษา, พระราชกำหนดนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดฐานกบฏและจราจล พุทธศักราช 2488, เล่ม 62 ตอนที่ 27, วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 หน้า 337-341
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2488/A/027/337.PDF[5] รายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญ สมัยที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พุทธศักราช 2478, หน้า 488-489
https://dl.parliament.go.th/bitstream/handle/lirt/383561/16_24770131_wb.pdf?sequence=1[6] สุพจน์ แจ้งเร็ว, คดียึดพระราชทรัพย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ,ศิลปวัฒนธรรมลำดับที่ 272 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8 มิถุนายน 2545, หน้า 62-80
[7] ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสันติภาพ, เล่มที่ 62 ตอนที่ 44 วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2488 หน้า 503-506
https://dl.parliament.go.th/bitstream/handle/lirt/235501/SOP-DIP_P_419966_0001.pdf?sequence=1[8] ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติ อาชญากรสงคราม พุทธศักราช 2488,เล่มที่ 62 ตอนที่ 591 วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2488, หน้า 591-596
https://dl.parliament.go.th/bitstream/handle/lirt/13367/SOP-DIP_P_401936_0001.pdf?sequence=1[9] พล.อ.จิร วิชิตสงคราม, การเลิกระดมพลภายหลังสงครามมหาเอเชียบูรพา, หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ พลเอกจิร วิชิตสงคราม ม.ป.ช., ม.ว.ม., ท.จ.ว. ณ เมรุหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2522 หน้า 243-253
[10] ราชกิจจานุเบกษา, รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2489,เล่มที่ 63 ตอนที่ 30 วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2489, หน้า 318-324
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2489/A/030/318.PDF[11] ปรีดี พนมยงค์, บางเรื่องเกี่ยวกับการก่อตั้งคณะราษฎรและระบบประชาธิปไตย, อนุสรณ์ ในงานพระราชทานเพลิงศพ ร.ท.อู๊ด นิตยสุทธิ ต.ช.ต.ม., อดีตผู้แทนราษฎร จังหวัดนคราราชสีมา ณ ฌาปนสถาน วัดใหม่อัมพร อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาพ.ศ. 2517, เผยแพร่เว็บไซต์สถาบันปรีดี, หน้า 128
https://pridi.or.th/sites/default/files/pdf/2515-66.pdf[12] สรรใจ แสงวิเชียร และวิมลพรรณ ปีตธวัชชัย, กรณีสวรรคต 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489, พิมพ์โดยแหล่งพิมพ์เรือใบ, ศิริราชมูลนิธิสงวนลิขสิทธิ์, พิมพ์ครั้งที่ 3, 17 มิถุนายน พ.ศ. 2517 หน้า 163
19 มี.ค. 2564 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/daily/detail/9640000026572