ช่วงเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม 2554 นี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง นำโดย นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง ได้ออกปฏิบัติการ โครงการเฝ้าระวังสุขภาพประจำปี ปีนี้ย่างเข้าปีที่ 8 แล้ว ในปี 2554 ใช้ตั้งงบ 12 ล้านบาท มีการประมูลได้ผู้รับจ้างจากกรุงเทพฯ ประกวดราคาแบบ อี-ออคชั่น ต่ำสุดแค่ 8 ล้านบาทเศษ
โดยในปีนี้มีการตรวจสุขภาพ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง 20,000 คน ครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอ ปีที่ผ่านมาแต่ละคนจะมีการตรวจสุขภาพ 13 อย่าง ในปีนี้เพิ่มอีก 2 อย่างเป็น 15 อย่าง โดยการวัดความดันการเต้นของหัวใจ ตรวจเลือด และปัสสาวะ กลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 35 ปีขึ้นไป จำนวน 15 รายการ เช่น เบาหวาน ตับ ไต ภาวะอ้วนลงพุง และมีการตรวจหามะเร็งจำนวน 2,000 คนหรือร้อยละ 10 จากกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังเป็นห่วงในสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านในต่างอำเภอ และผู้มีรายได้น้อยในเขตเทศบาล คนกลุ่มนี้มุ่งแต่ทำงาน ใช้ชีวิตประจำวัน และไม่เคยเข้าตรวจสุขภาพประจำปีกับ รพ.รัฐ และ รพ.เอกชนมาก่อน ประกอบกับมีรายได้น้อย ทั้งนี้หวังว่าหากได้รับการตรวจสุขภาพจะช่วยลดโรค ลดป่วย ประหยัดค่าใช้จ่าย
ผู้ที่เข้าโครงการเฝ้าระวังสุขภาพประจำปี กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นโครงการที่ดี ที่ อบจ.ตรัง ที่นำโดยนายกิจ หลีกภัย เป็นห่วงชีวิตคนตรัง อยากให้ทำโครงการนี้ตลอดไป ซึ่งนางสุณีย์ รายารักษ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/1 หมู่ 3 ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง มีอาชีพทำสวนยาง กล่าวว่า ตนมีลูก 4 คน ไม่เคยได้ตรวจสุขภาพ โดยการเจาะเลือดครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้รับโอกาสมารับการตรวจเลือดเพื่อดูแลสุขภาพตนเอง จากการตรวจดูผลเลือด สุขภาพของตนยังแข็งแรงไม่มีโรคภัยมาเบียดเบียน อยากให้นายก อบจ.ตรัง ทำโครงการดีๆ เช่นนี้ต่อไปอีก
ทางด้านผู้ที่เข้าโครงการตรวจสุขภาพอีกท่านหนึ่งคือ นางซ้วน ศรีประสิทธิ์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/1 หมู่ 7 ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง มีอาชีพทำสวนยาง กล่าวว่า ได้เข้าโครงการตรวจสุขภาพกับ อบจ.เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว ตนเองนั้นเป็นกลุ่มตัวอย่างที่ทาง อบจ.ตรังอยากจะให้ตรวจสุขภาพติดต่อกัน เมื่อตรวจเลือดพบว่าร่างกายมีไขมัน หรือน้ำตาลเพิ่ม ก็หันมาออกกำลังกาย ดูแลอาหารที่ทาน ทำตามที่คุณหมอแนะนำ ซึ่งสุขภาพของตนก็ดีขึ้น โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เข้าถึงประชาชนจริงๆ อยากให้ทำโครงการนี้ต่อๆ ไป
งานประชาสัมพันธ์ อบจ.ตรัง ประสบความสำเร็จได้เพราะมีนักประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ ทุ่มเทงานแบบสุดชีวิต งานนี้หัวเรือใหญ่ที่รับผิดชอบ คือ นางมนพร ชาคริตยานนท์ นักวิชาการประชาสัมพันธ์ 7 ว พร้อมด้วย น.ส.สุจิตรา จิตรมนต์ เจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ ที่ทำงานประชาสัมพันธ์แบบหามรุ่งหามค่ำเพียง 2 คน แต่งานออกมาแบบคุณภาพคับแก้ว
นางมนพร ชาคริตยานนท์ หรือเจ๊หน่อย เล่าประสบการณ์ว่า มีผู้ป่วยคนหนึ่งเป็นผู้หญิงชื่อ น.ส.พิมพ์ปัญญา แป้นไทย อาศัยอยู่ที่ 18/42 ถ.เพลินพิทักษ์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง มาเล่าอาการป่วยให้ตนทราบ ว่าปวดท้องเมื่อมีประจำเดือนมาทุกครั้ง มาขอความช่วยเหลือเข้าร่วมโครงการตรวจสุขภาพกับ อบจ.ตรัง ตนรีบดำเนินการให้ เมื่อเจาะเลือดและฟังผลการตรวจสุขภาพพบว่าเป็นมะเร็งระยะแรก รีบไปพบแพทย์และแพทย์รีบทำการรักษาผ่าตัดมะเร็งจนหายดีแล้ว เป็นหนึ่งชีวิตที่เข้าร่วมโครงการกับเรา ที่ทำการตรวจและรักษาได้ทันท่วงที จนมีชีวิตรอดและได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติ ตนภูมิใจมาก ท่านนายกก็ภูมิใจมาก
น.พ.ตุลกานต์ มักคุ้น รพ.ศูนย์ตรัง เป็นแพทย์คนหนึ่งที่ทุ่มเทงานชิ้นนี้ร่วมกับ อบจ.ตรัง อ่านผลการตรวจเลือดให้ผู้ที่มาฟังได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ ปราศจากข้อสงสัย คุณหมอตุลกานต์ เป็นแพทย์ที่มีองค์ความรู้ ทำการบ้านมาดี พูดและอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจได้ง่าย บอกกับผู้ที่มาฟังผลเลือดว่า คนตรังเราเสียชีวิตจาก 3 โรค 1.โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง 2.โรคมะเร็ง และ 3.อุบัติเหตุ อาหารเช้าเมืองตรัง ประเภทมันๆ อาทิ หมูย่างเมืองตรัง คืออาหารขึ้นโต๊ะของคนเมืองตรัง ติ่มซำ ของทอด เค้ก ขนมจีน และอื่นๆ เป็นที่มาของโรคอ้วน ไขมัน ความดัน เบาหวาน ทั้งนั้น การตรวจเลือดจะได้รู้ทันโรค
คนตรังกินเก่ง อ้วนกันมาก สูตรการลดน้ำหนัก ลดอาหารแต่ละมื้อ ออกกำลังกายสูตรวันเว้นวัน ออกติดต่ออย่างน้อย 30 นาที กินอาหารทุกมื้อ แค่ลดปริมาณ อย่าทานของมัน เน้นกินผักมากๆ แต่ต้องปลอดสารพิษ ทานผักพื้นเมือง
นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง เผยว่า การทำโครงการเฝ้าระวังสุขภาพ ดูแลชีวิตคนตรัง ในครั้งนี้ย่างเข้าเป็นปีที่ 8 ประสบความสำเร็จ ปี 2554 เฝ้าระวัง 20,000 คน ทั้งจังหวัด ในปี 2555 คาดตั้งงบดูแลชีวิตคนตรัง เพิ่มเป็นร้อยละ 25 คือ 25,000 คน ซึ่งในแต่ละปี 100% จะแบ่งออกตรวจกลุ่มใหม่ ร้อยละ 70 จะตรวจกลุ่มเดิมที่ต้องเฝ้าระวังสุขภาพ ร้อยละ 30 จะหมุนเวียนตรวจไปให้ครบตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้คือผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จากการสอบถามผู้ที่เข้าร่วมโครงการทุกคนพึงพอใจอยากให้ อบจ.ตรัง ทำโครงการนี้ต่อไป
ในปี 2555 ที่จะถึง อบจ.ตั้งงบซื้อเครื่องตรวจการได้ยินในทารกตั้งแต่แรกเกิด ปัญหาที่พบเด็กหูหนวก เป็นใบ้ ไม่สามารถรู้ได้ว่าเด็กหูหนวกหรือไม่ได้ยิน ต้องสังเกตหรือรอจนเด็กโต ทำไมเด็กยังไม่พูด เมื่อถึงเวลานั้นเด็กอาจจะหูหนวก และพูดไม่ได้ตามมา หากมีเครื่องตรวจการได้ยิน ก็สามารถตรวจทารกหรือเด็กให้รู้ก่อนได้ หมอก็สามารถที่จะทำการผ่าตัด หรือทำการรักษาได้เลย เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กหูหนวกและเป็นใบ้ เครื่องตรวจการได้ยินซื้อมาไว้ที่ รพ.ศูนย์ตรัง ซึ่งเครื่องดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการตรวจการได้ยินของทารกและเด็กเท่านั้น ซึ่งโครงการนี้ น.พ.ตุลกานต์ มักคุ้น รพ.ตรัง เป็นผู้ดูแล
การดูแลสุขภาพประชาชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระทรวงสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว ณ บัดนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ อบจ.ตรัง ที่นำโดย นายกิจ หลีกภัย เข้ามาเสริมอีกแรง เพื่อให้การเฝ้าระวังสุขภาพคนตรังอย่างมีประสิทธิภาพ หลีกหนีภาพลักษณ์เก่าๆ ที่มีประชาชนขนานนามว่า ส.จ.คือ สภาผู้รับเหมาก่อสร้าง วันนี้ อบจ.ตรัง ก้าวข้ามพ้นการสร้างถนน ทำคูระบายน้ำ และสร้างอาคารวัตถุ แต่หันมาดูแลและเฝ้าระวังชีวิตคนตรังอย่างจริงจังต่อเนื่องเข้ามาปีที่ 8 เสียงตอบรับจากประชาชนดีมากๆ ใช้งบประมาณเพียงน้อยนิดแต่ดูแลชีวิตคนทั้งจังหวัด
นายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรัง คนขยัน คนสู้งาน ทำงานด้วยความโปร่งใสและประหยัดงบประมาณที่สุด มีข่าวออกมาว่าจะวางมือทางการเมืองในปี 2555 จะตัดช่องน้อยแต่พอตัวหรือครับท่านนายก ถามคนตรังก่อนซิครับว่าจะให้รีบวางมือหรือเปล่า เพราะภารกิจงานยังไม่เสร็จเลย
บ้านเมือง 14 สิงหาคม 2554