หลายวันมานี้ในเมืองไทยมีข่าวครึกโครมต่อเนื่องเกี่ยวกับคดีอาชญากรรม-คดี ฆาตกรรมหลายศพ โดยผู้ที่ถูกกล่าวหา-ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหามีอาชีพเป็น แพทย์ผู้ช่วยคนเจ็บป่วย-ช่วยชีวิตคน ซึ่งก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้คนในสังคมไทยอีกครั้ง หากแต่บทสรุปของคดีนี้ก็ยังต้องรอดูการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรม
คดีครึกโครมที่เกิดขึ้นจะจบอย่างไร?...ก็รอดูกันไป
แต่คำว่า 2 บุคลิก ที่ปรากฏในข่าว...นี่น่าคิด
ทั้งนี้ ว่ากันในภาพรวมโดยทั่วไป มิได้หมายถึงหรือเฉพาะเจาะจงไปที่ใคร-คดีใด กับการที่ใครสักคนมีชีวิตหรือมีอาชีพที่คนทั่วไปรับรู้ว่าเป็นการ ช่วยคน แต่ในอีกด้านหนึ่งของชีวิตกลับมีนิสัยดุร้าย กระทำการ ฆ่าคน ได้โดยง่าย หรือเป็นคน 2 บุคลิก ในรูปแบบที่ ตรงข้ามกันอย่างสุดโต่ง นั้น กรณีแบบนี้ทาง ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา ที่ปรึกษาศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้สะท้อนผ่าน สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์ ว่า... นี่ถือว่าเป็น โรค ชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันว่า โรค 2 บุคลิก
นี่น่ากลัวกว่าการป่วยทางจิตทั่ว ๆ ไปมาก!!
...เคยมีอยู่เคสหนึ่งที่เมืองนอก ที่เป็นเรื่องจริง และมีการนำมาสร้างเป็นหนังด้วย เป็นเรื่องของหมอคนหนึ่งที่เป็นโรค 2 บุคลิก ซึ่งในตอนกลางวันก็ทำงานรักษาคนไข้ เป็นหมอที่ดีมาก ใจดี ชอบช่วยเหลือคนทุกคน แต่พอกลางคืนกลับเปลี่ยนเป็นอีกคน เป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง ข่มเหงผู้หญิง ซึ่งตรงนี้ผมมองว่า อาชีพหมอนั้นเป็นอาชีพที่เก็บกด และมีความกดดันสูง อาชีพหมอนั้นต้องมีความเนี้ยบทุกอย่าง อยู่ต่อหน้าคนไข้ สังคม ถึงจะเครียดก็ระบายออกไม่ได้ ต้องรักษาภาพลักษณ์ไว้ ก็ทำให้เกิดความเครียดมาก ...ดร.วัลลภ ระบุ
พร้อมทั้งขยายความเกี่ยวกับโรค 2 บุคลิก หรือที่ในทางจิตวิทยาเรียกว่า โรคบุคลิกภาพแปรปรวน ซึ่งเป็นคนละกรณีกับโรคไบโพลาร์ที่อารมณ์แปรปรวน 2 ขั้ว เมื่อมีความสุขก็จะรู้สึกสุขมากเหลือเกินและเมื่อมีความทุกข์ก็จะทุกข์เกินเหตุเกินไป โดยระบุว่า... คนที่เป็นโรค 2 บุคลิก หรือเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนนั้น เป็นบุคคลที่มีความน่ากลัวกว่าคนที่เป็นโรคจิตทั่ว ๆ ไปเป็นอย่างมาก ซึ่งคนที่เป็นโรคจิตจะทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว...
คนที่เป็นโรค 2 บุคลิก โรคบุคลิกภาพแปรปรวน เป็นคนที่รู้ตัวทุกอย่างว่าทำอะไรไป รู้ว่าที่ทำนั้นไม่ดีแต่ก็ยังทำ และจะมีการวางแผนที่จะกระทำการต่าง ๆ ด้วย จึงถือว่าเป็นบุคคลที่น่ากลัว
นักจิตวิทยาคนเดิม ระบุต่อไปว่า... โรค 2 บุคลิกนั้น ทั่วโลกมีคนที่เป็นกันมาก และ ในประเทศไทยมีคนที่เป็นโรค 2 บุคลิกกันเยอะ เช่นกัน อันสืบเนื่องจากสภาพสังคมไทยในปัจจุบันที่ก็แปรปรวน จนทำให้ผู้คนมีความเครียดกันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันสังคมเมืองไทยเป็นสังคมที่โกหกตลบตะแลงใส่กันมาก นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง มีคนจำนวนมากที่ต่อหน้าผู้คนหมู่มากก็จะทำตัวเป็นคนดี เพื่อเป็นการรักษาภาพ รักษาหน้าตาในสังคม
ทั้งที่ในใจมีความเครียด...มีความตรงกันข้าม!!
สภาพสังคมที่แปรปรวนแบบนี้ สำหรับในทางจิตวิทยานั้น การที่คนเราพยายามทำดีกับคนอื่น ๆ มาก ๆ ก็อาจจะเอาอารมณ์ร้าย ๆ มาลงกับคนในครอบครัว มาลงกับคนใกล้ตัวได้
ดร.วัลลภ ยังได้แจกแจงอีกว่า... ลักษณะของโรค 2 บุคลิก คือเป็นคนที่ มี 2 ลักษณะนิสัยอยู่ในคนเดียว ในด้านหนึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าสังคมจะเป็นคนที่ดูใจดี อารมณ์เย็น ทำตัวดี แต่ในทางกลับกันอีกด้านหนึ่งจะเป็นคนที่มีอารมณ์ร้ายอย่างน่ากลัว สามารถจะฆ่าคนได้ง่าย ๆ ซึ่งก็มักจะชอบระบายอารมณ์ร้าย ๆ กับคนรอบข้างหรือคนใกล้ชิด ดังนั้น คนที่เป็นโรค 2 บุคลิกจะ ส่งผลกระทบกับครอบครัวและสังคมเป็นอย่างมาก
...เราควรพยายามอยู่ห่างจากภาวะเครียดและกดดันมาก ๆ ซึ่งถ้าเราอยู่ในภาวะเหล่านี้มาก ๆ เราก็จะต้องพยายามรู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์อย่างไร ยอมรับมัน เมื่อเครียดก็ต้องมีทางระบายออกอย่างถูกวิธี โดยการระบายความเครียดออกจากจิตใจเรานั้น การใช้เสียงก็เป็นวิธีที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการ โวยวายบำบัด หรือ หัวเราะบำบัด นี่เป็นวิธีที่ระบายความเครียดได้ดี...นักจิตวิทยาที่ปรึกษาศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ โรค 2 บุคลิก พร้อมแนะนำทิ้งท้ายถึงวิธีป้องกันมิให้เป็นโรคนี้
ป้องกันมิให้เป็นโรค 2 บุคลิก เรื่องนี้ควรต้องสน
ทั้งนี้ เมืองไทยในปัจจุบันนั้น แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จะมีการสำรวจ มีการระบุ ประมาณว่า... คนไทยโดยรวมมีความเครียดลดลงต่อเนื่อง แต่ความเครียดนั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอกับคนทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพ ซึ่งสาเหตุก็มีมากมาย เช่น ปัญหาการเรียน การงาน การเงิน ความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัว ฯลฯ รวมถึงจากปัญหาความขัดแย้งที่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ซึ่งในไทยปัญหานี้ก็ยังคงคุกรุ่นอยู่มาก
คนไทยรู้เท่าทัน โรค 2 บุคลิก กันไว้บ้างก็น่าจะดี
ดีต่อการป้องกันทั้งคนใกล้ตัว และป้องกันตัวเอง
เพื่อมิให้เป็นเหยื่อถูกฆ่า หรือไปฆ่าคนอื่น!!!!!.