ผู้เขียน หัวข้อ: ญาติเกาหลีโวย ช่วยเหลือล่าช้า เจ้าท่าเล็งจัดโซนนิ่ง  (อ่าน 833 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
ผู้ว่าฯ เมืองชลฯ รุดเยี่ยมนักเที่ยวเกาหลี หลังประสบเหตุเรือชนกัน จนเสียขา พร้อมมอบเงินเยียวยา ญาติคนเจ็บโวยมาตรการความช่วยเหลือล่าช้า ขณะที่นายกเมืองพัทยา ระบุทุกส่วนทำดีที่สุด ขณะที่สำนักงานเจ้าท่า เล็งจัดโซนนิ่งเขตเล่นน้ำ จอดเรือ ให้ชัดเจนขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว ...

จากกรณีที่เกิดเหตุเรือสปีดโบ๊ตท่องเที่ยวชื่อ ข.เข็มทอง ชนกับเรือ ก.น้องใหม่ 7 บริเวณอ่าวหน้าชุมชนเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีจำนวน 19 คน และไกด์ชาวไทย 1 คนได้รับบาดเจ็บ โดยในจำนวนนี้มี นายกีห์ วา ฮง อายุ 63 ปี ต้องถูกตัดขาซ้ายออกเพื่อรักษาชีวิตนั้น

ล่าสุด นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วยนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมตัวแทนจากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาพัทยา คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเมืองพัทยา เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายที่ยังคงรักษาตัวอยู่ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการติดตามอาการ แสดงความเสียใจ พร้อมกับส่งมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจำนวน 4 หมื่นบาทให้กับนักท่องเที่ยวทั้งสองเพื่อใช้จ่าย โดยพบว่า นายกีห์ วา ฮง ซึ่งถูกตัดขาข้างซ้ายออก ส่วนขาข้างขวาถูกดามเหล็ก เนื่องจากกระดูกแตกนั้น มีสภาวะจิตใจดี และอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย ขณะที่ญาติของผู้บาดเจ็บยังคงรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ พร้อมตัดพ้อถึงมาตรฐานในการกู้ภัยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ถือว่าล่าช้า และยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก ส่วนอีกรายคือ นายมยัง แบ คิม อายุ 51 ปีนั้นพบว่าขาหักทั้งสองข้าง แต่แพทย์ได้ผ่าตัดและดามเหล็กไว้ โดยอาการพ้นขีดอันตรายแล้วเช่นกัน

ด้าน นพ.ปรีดา พุฒศิรยากร ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ เปิดเผยว่าขณะนำส่งนั้นพบว่ามีผู้บาด เจ็บ 5 ราย แต่มี 2 รายคือ นายกีห์ วา ฮง ที่มีอาการสาหัส เนื่องจากขาข้างซ้ายขาด รวมทั้งเส้นเลือดใหญ่ จึงทำให้เสียเลือดมาก แพทย์จึงต้องตัดสินใจตัดขาออกและให้เลือดถึง 6 ขวดเพื่อรักษาชีวิตไว้ ขณะที่ นายมยัง แบ คิม นั้นพบว่าขาหักทั้งสองข้าง แต่ยังคงสามารถประสานและต่อเชื่อมกระดูกได้ จึงได้เร่งดำเนินการจนทั้งสองพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องให้ทำการพักรักษาไปอีกระยะหนึ่ง

ขณะที่นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงได้สอบถามข้อมูลและติดตามเหตุการณ์โดยตลอด ก่อนนำคณะเข้าเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจคนเจ็บและครอบครัว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง แต่ก็คงต้องดำเนินการในเรื่องมาตรการการป้องกันการเดินเรือทางทะเล โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมาตรฐานทุกอย่าง ทั้งเรื่องของการประชุมร่วมผู้ประกอบการ มาตรฐานของเรือ เสื้อชูชีพ นายท้าย รวมทั้งเส้นทางการเดินเรือ รวมไปถึงแนวทางการระวังภัยทางทะเลที่ต้องรัดกุมและรวดเร็วเพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่เรื่องความเป็นห่วงด้านการท่องเที่ยวนั้น ล่าสุดได้ประสานแจ้งเรื่องไปยังสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยแล้ว ซึ่งก็เข้าใจตรงกันว่าเป็นอุบัติเหตุ และทางการไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ดำเนินการในการประสานงานและให้ความช่วยเหลือทุกอย่างอย่างเต็มที่

ด้าน ร.ต.ท.สุพรรณ โสภี ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุก็ได้มี นายอำนวย กลัดเข็มทอง เจ้าของเรือ ข.เข็มทอง คู่กรณีเดินทางมาแสดงตัวแล้ว ซึ่งก็ได้ลงบันทึกไว้ก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากยังไม่ได้มีการสอบสวนและยังไม่ได้ตั้งข้อหา แต่ทางนายอำนวย ก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง ส่วนเรือ ก.น้องใหม่ 7 นั้น ก็มีนายทองหล่อ ซื่อตรง เดินทางเข้าพบแล้วเช่นกัน พร้อมแจ้งความจำนงว่า เรือมีประกันภัยและยินดีรับผิดชอบต่อค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมถึงค่ารักษาพยาบาลของคนเจ็บ แต่ตัวนายท้ายเรือ คือนายรุ่งอรุณ หอมลำดวน นั้น หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปและยังติดต่อไม่ได้ ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งทำการสอบสวนเพื่อออกหมายเรียกและหมายจับมาดำเนินคดีอีกครั้งในเร็ววันนี้

นายเรวัต โพธิ์เรียง ผอ.การสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเรือ ก.น้องใหม่ 7 กับเรือ ข.เข็มทอง ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการอายัดเรือทั้ง 2 ลำไว้ โดยจากการตรวจ สอบนายท้ายเรือทั้ง 2 ลำ พบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องและยังไม่หมดอายุ จึงได้ออกคำสั่งงดใช้ใบอนุญาตนายท้ายเรือไปแล้ว หลังจากนี้จะมีการติดตามตัวนายท้ายเรือในเรือเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป

ส่วนมาตรการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้จะมีการจัดประชุมกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการจัดโซนนิ่งเขตเล่นน้ำ เขตจอดเรือ และเขตสันทนาการต่างๆ ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อาจจะมีการจัดทำช่องเรือเข้า-ออกให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่วนเรือที่มีการจอดตามชายหาดเพื่อรับนักท่องเที่ยว อาจจะมีการกำหนดจุดขึ้นลงจุดเดียว บริเวณท่าเรือพัทยาใต้ และจะมีการแบ่งช่องเรือเข้าออกให้ชัดเจน ทั้งชายหาดพัทยาและเกาะล้าน ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาในระยะยาว สำหรับเรื่องของการจำกัดความเร็วนั้นทางเมืองพัทยาได้มีโครงการวิทยุติดตามเรือ โดยจะมีติดตั้งวิทยุดังกล่าวไปกับเรือโดยสาร ซึ่งทางศูนย์ควบคุมของเมืองพัทยาจะเป็นผู้ควบคุ้มและติดตามตำแหน่งเรือ ส่วนเรือที่เกิดอุบัติเหตุทั้ง 2 ลำนั้นยังไม่มีการติดตั้ง GPS แต่อย่างใด จึงไม่สามรถตรวจสอบในเรื่องของการใช้ความเร็วได้.

ไทยรัฐออนไลน์ 24 เมย 2556

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9782
    • ดูรายละเอียด
เรือสปีดโบ๊ตซิ่งชนสนั่นกลางทะเลนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ขาขาดสยอง 2 คน เจ็บอีก 16 คน นั่งเรือจากแหลมบาลีฮายมุ่งหน้าเกาะล้าน เจอคลื่นซัดโถมเสียหลักพุ่งชนกับเรือสปีดโบ๊ตอีกลำที่จอดลอยลำกลางทะเลเสียงดังสนั่น นักท่องเที่ยวถูกแรงกระแทกกระเด็นไปคนละทิศละทางต้องระดมกำลังช่วยลำเลียงส่งโรงพยาบาล

เรือสปีดโบ๊ตซิ่งชนกันกลางทะเลมีนักท่องเที่ยวขาขาดสยองรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 21 เม.ย. พ.ต.อ.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยา คณะแพทย์และรถพยาบาลพัทยาเมโมเรียล โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเดินทางไปที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเรือชนกันที่เกาะล้านพบเรือเร็วลำเลียงผู้บาดเจ็บจำนวน 18 รายมาขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่รีบนำส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล 8 ราย กับ รพ.กรุงเทพฯ 10 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 2 รายคือนายเมียง บี คิน อายุ 51 ปี ขาเกือบขาดทั้ง 2 ข้าง และนายจี วา ซอง อายุ 63 ปี ขาขาด 1 ข้าง นอกจากนั้นบาดเจ็บเล็กน้อยจากการสำลักน้ำทะเลและอาการตกใจ สอบสวนทราบว่าทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้นั่งเรือสปีดโบ๊ตแบบ 2 เครื่องยนต์ ชื่อ ก.น้องใหม่รวมทั้งหมด 28 คน จากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายไปเกาะล้าน กระทั่งเรือแล่นไปก่อนถึงหาดตาแหวน เกาะล้านประมาณ 800 เมตร ปรากฏว่าเกิดคลื่นลมแรงถาโถมใส่เรืออย่างรุนแรงทำให้เรือที่วิ่งมาด้วยความเร็วเสียหลักพุ่งไปชนเรือสปีดโบ๊ตอีกลำชื่อ “เข็มทอง” ที่จอดลอยลำอยู่เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวกระเด็นตกน้ำคนละทิศละทาง ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสถูกเศษซากเรือตัดขาขาด หลังเกิดเหตุคนขับเรืออาศัยช่วงชุลมุนว่ายเข้าฝั่งหลบหนีไป

ภายหลังทราบคนขับเรือ ก.น้องใหม่ชื่อนายอรุณ หอมลำดวน อายุ 35 ปี หลังหลบหนีได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สุวรรณ์  เชี่ยวนาวินธวัช ผกก.สภ.เมืองพัทยาแล้วแต่ยังไม่แจ้งวันเวลา ส่วนเรือเข็มทองมีนายอำนาจ เจริญทับ อายุ 42 ปี เป็นคนขับ และช่วงเกิดเหตุนายอำนาจไม่ได้อยู่บนเรือ เนื่องจากเรือจอดลอยลำเพื่อรอนักท่องเที่ยวดำน้ำยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์ 22เมย 2556