8851
ข่าวเกี่ยวกับวงการแพทย์ / กรรม! หมอ รพ.เซี่ยงไฮ้ หนีเพลิงไหม้ ทิ้งผู้ป่วยดับคาห้องผ่าตัด
« เมื่อ: 26 สิงหาคม 2011, 21:46:01 »
เอเอฟพี/เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สื่อทางการจีนรายงาน (26 ส.ค.) ว่า เกิดเหตุผู้ป่วยเสียชีวิตคาห้องผ่าตัด เนื่องจากแพทย์และนางพยาบาลได้วิ่งออกจากห้อง เพื่อหนีเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลในเซี่ยงไฮ้
สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24 ส.ค.) แพทย์โรงพยาบาลในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ได้ฉีดยาสลบให้ผู้ป่วยชาวเซี่ยงไฮ้ แซ่จู วัย 49 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เพื่อทำการผ่าตัดขา แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ข้างๆ ห้องผ่าตัด บรรดาแพทย์และนางพยาบาลจึงวิ่งหนีออกไป ทิ้งให้คนไข้นอนไร้สติอยู่คนเดียว
โฆษกโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า “ก่อนเข้ารับการผ่าตัด คนไข้ชาวเซี่ยงไฮ้ดังกล่าวอยู่ในสภาพร่อแร่ เนื่องจากเสียเลือดไปเยอะ และก่อนเกิดไฟไหม้ 2 ชั่วโมง เขาได้รับการถ่ายเลือดและมีอาการคงที่ขึ้นแล้ว สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสืบสวน”
พร้อมกล่าวว่า “คนไข้ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในบางช่วงเวลา แต่แพทย์และนางพยาบาลไม่ได้หนีเพื่อเอาตัวรอด เราเข้าใจว่า พนักงานของโรงพยาบาลได้พยายามไปดับไฟ และมีการเรียกร้องความช่วยเหลือกัน”
ญาติของผู้ป่วยซึ่งรออยู่นอกห้องผ่าตัด เห็นวิสัญญีแพทย์ แพทย์ และพยาบาล รวมทั้งสิ้น 6 คน วิ่งหนีออกมาและทิ้งผู้ป่วยไว้บนเตียงผ่าตัดคนเดียว
สำนักข่าวซินหวา อ้างคำกล่าวของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า “เราเห็นควันโขมงออกมาจากหน้าต่างห้องผ่าตัด จากนั้นบรรดาแพทย์และนางพยาบาล ได้รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเราถามถึงผู้ป่วย พวกเขาก็บอกว่ายังอยู่ข้างในห้อง”
ญาติคนหนึ่งของผู้ป่วยเคราะห์ร้ายดังกล่าว ได้เผยว่า “ต่อมาผมเห็นร่างของนายจู นอนอยู่บนพื้นห้องผ่าตัด แต่ไม่เห็นรอยไหม้ใดๆ”
ชายแซ่จิน เผยว่า “เพลิงไหม้ไม่ได้ลามไปยังห้องผ่าตัดของผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่า เขาสำลักควันจนเสียชีวิต”
ฟัง หยง ประธานโรงพยาบาลดังกล่าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวซินหวา ว่า “เรายอมรับว่า แพทย์และพยาบาลของเราตัดสินใจผิดพลาด และไม่มีความเป็นมืออาชีพในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องรับผิดชอบที่ปล่อยให้ผู้ป่วยเสียชีวิต”
ฟัง กล่าวเสริมว่า “แม้ผู้ป่วยแซ่จูจะใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ แต่แพทย์กลับไม่คิดว่าควันไฟอาจทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออกได้”
ฟัง และโฆษกโรงพยาบาล เผยว่า “เหตุเพลิงไหม้อาจเกิดจากเครื่องโอโซนฆ่าเชื้อโรคข้างห้องผ่าตัดไหม้”
บรรดานางพยาบาลได้พยายามดับไฟ แต่เปลวเพลิงลุกไหม้และลามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ควันหนาทึบก็ได้ปกคลุมห้องผ่าตัดดังกล่าว
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2554
สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24 ส.ค.) แพทย์โรงพยาบาลในเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ได้ฉีดยาสลบให้ผู้ป่วยชาวเซี่ยงไฮ้ แซ่จู วัย 49 ปี ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เพื่อทำการผ่าตัดขา แต่เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ข้างๆ ห้องผ่าตัด บรรดาแพทย์และนางพยาบาลจึงวิ่งหนีออกไป ทิ้งให้คนไข้นอนไร้สติอยู่คนเดียว
โฆษกโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า “ก่อนเข้ารับการผ่าตัด คนไข้ชาวเซี่ยงไฮ้ดังกล่าวอยู่ในสภาพร่อแร่ เนื่องจากเสียเลือดไปเยอะ และก่อนเกิดไฟไหม้ 2 ชั่วโมง เขาได้รับการถ่ายเลือดและมีอาการคงที่ขึ้นแล้ว สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสืบสวน”
พร้อมกล่าวว่า “คนไข้ถูกทิ้งให้อยู่ลำพังในบางช่วงเวลา แต่แพทย์และนางพยาบาลไม่ได้หนีเพื่อเอาตัวรอด เราเข้าใจว่า พนักงานของโรงพยาบาลได้พยายามไปดับไฟ และมีการเรียกร้องความช่วยเหลือกัน”
ญาติของผู้ป่วยซึ่งรออยู่นอกห้องผ่าตัด เห็นวิสัญญีแพทย์ แพทย์ และพยาบาล รวมทั้งสิ้น 6 คน วิ่งหนีออกมาและทิ้งผู้ป่วยไว้บนเตียงผ่าตัดคนเดียว
สำนักข่าวซินหวา อ้างคำกล่าวของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า “เราเห็นควันโขมงออกมาจากหน้าต่างห้องผ่าตัด จากนั้นบรรดาแพทย์และนางพยาบาล ได้รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว เมื่อเราถามถึงผู้ป่วย พวกเขาก็บอกว่ายังอยู่ข้างในห้อง”
ญาติคนหนึ่งของผู้ป่วยเคราะห์ร้ายดังกล่าว ได้เผยว่า “ต่อมาผมเห็นร่างของนายจู นอนอยู่บนพื้นห้องผ่าตัด แต่ไม่เห็นรอยไหม้ใดๆ”
ชายแซ่จิน เผยว่า “เพลิงไหม้ไม่ได้ลามไปยังห้องผ่าตัดของผู้ป่วย เห็นได้ชัดว่า เขาสำลักควันจนเสียชีวิต”
ฟัง หยง ประธานโรงพยาบาลดังกล่าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวซินหวา ว่า “เรายอมรับว่า แพทย์และพยาบาลของเราตัดสินใจผิดพลาด และไม่มีความเป็นมืออาชีพในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งจะต้องรับผิดชอบที่ปล่อยให้ผู้ป่วยเสียชีวิต”
ฟัง กล่าวเสริมว่า “แม้ผู้ป่วยแซ่จูจะใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ แต่แพทย์กลับไม่คิดว่าควันไฟอาจทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออกได้”
ฟัง และโฆษกโรงพยาบาล เผยว่า “เหตุเพลิงไหม้อาจเกิดจากเครื่องโอโซนฆ่าเชื้อโรคข้างห้องผ่าตัดไหม้”
บรรดานางพยาบาลได้พยายามดับไฟ แต่เปลวเพลิงลุกไหม้และลามอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ควันหนาทึบก็ได้ปกคลุมห้องผ่าตัดดังกล่าว
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 สิงหาคม 2554