ผู้เขียน หัวข้อ: เตรียมคุมเข้มอาหารออแกนิก “หมอประดิษฐ” สั่ง อย.ทำเกณฑ์มาตรฐาน  (อ่าน 780 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
 “หมอประดิษฐ” สั่ง อย.ทำเกณฑ์มาตรฐานอาหารออแกนิก คุมเข้มของจริงหรือแค่โฆษณา คาดเสร็จ ม.ค.นี้ ส่งผลผู้ประกอบการต้องขออนุญาต หลังพบวางขายเกลื่อนแบบไร้การควบคุม พร้อมรับข้อเสนอมาตรฐานอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาลจากเครือข่ายตลาดสีเขียว

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
       วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกองทุน สสส.เป็นประธานเปิดนิทรรศการอาหาร “เส้นทางกิน [พอ]ดี สู่ชีวีมีสุข” และงาน Green Consumer Society Fair ซึ่งจัดโดย สสส.และภาคีเครือข่ายด้านอาหาร อาทิ เครือข่ายโภชนาการสมวัย เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่ายคนไทยไร้พุง เป็นต้น พร้อมรับข้อเสนอนโยบายการรับผักไร้สารพิษสู่ครัวโรงพยาบาลสังกัด สธ.จากเครือข่ายตลาดสีเขียว
       
       นางวัลลภา แวน วิลเลียนส์วาร์ด ประธานเครือข่ายตลาดสีเขียว กล่าวว่า ทุกวันนี้อาหารปลอดภัยใช่ว่าจะมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง แต่สถานที่หนึ่งซึ่งควรมีความปลอดภัยอย่างมากที่สุดคืออาหารในโรงพยาบาล ดังนั้น จึงอยากเสนอให้ สธ.ดำเนินนโยบายอาหารปลอดภัยในโรงพยาบาล ประกอบด้วย 1.ให้โรงพยาบาลสังกัด สธ.ทุกแห่ง จัดตลาดนัดสีเขียว เพื่อเอื้อให้เกิดการเชื่อมระหว่างโรงพยาบาลกับผู้ผลิต เกษตรกร และผู้ประกอบการสีเขียว 2.ปรับเงื่อนไขการนำอาหารปลอดภัยและผักไร้สารพิษสู่ครัวโรงพยาบาล อาทิ เกณฑ์มาตรฐานอาหาร เกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง 3.สร้างระบบสมาชิกระหว่างเกษตรกรและโรงพยาบาล (Hospital Supported Agriculture) พัฒนาสายสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วน และ 4.จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การรับและกระจายผลผลิตสีเขียว (Learning and Distribution Center-LDC) เพื่อเอื้อต่อการรวบรวมชนิดและปริมาณพืชผัก การตรวจสอบคุณภาพ และการขนส่ง
       
       นพ.ประดิษฐ กล่าวว่า สธ.สนับสนุนนโยบายเรื่องมาตรฐานอาหารปลอดภัยอยู่แล้ว ไม่เพียงแต่เฉพาะในโรงพยาบาลสังกัด สธ.เท่านั้น ซึ่งการขับเคลื่อนมาตรฐานอาหารปลอดภัย สธ.ได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม วางแนวทางตั้งแต่ระดับต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือตั้งแต่ผู้ผลิตถึงผู้บริโภค โดยในส่วน สธ.ได้กำหนดมาตรฐานอาหารปลอดภัย เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ผลิตทั้งรายใหญ่และรายย่อยในการผลิตอาหารออกสู่ตลาด ทั้งยังกำชับโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งจะต้องเป็นหน่วยงานต้นแบบอาหารปลอดภัย เผยแพร่องค์ความรู้ให้แก่สังคมอีกทางหนึ่งด้วย ขณะที่กระทรวงเกษตรฯจะดูแลในช่วงต้นน้ำคือ ไม่ให้มีสารเคมีหรือสารตกค้างในวัตถุดับ ซึ่งจะมีการตั้งเกณฑ์มาตรฐานขึ้นมา เป็นต้น
       
       “คนไทยให้ความสำคัญกับอาหารที่บริโภคลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้ปัจจุบันมีคนไทยมากกว่า 400,000 คน/ปี เสียชีวิตด้วยโรคที่มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการบริโภค อาทิ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน มะเร็ง ซึ่ง สธ.ที่สำคัญปัจจุบันคนเมืองกว่า 80% นิยมบริโภคอาหารนอกบ้าน ดังนั้น ความสะอาด ความปลอดภัยของร้านอาหาร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ รวมทั้งในส่วนบุคคลเองจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตนเอง เลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัยตามหลัก 4 เลือกได้ คือ 1.เลือกอาหารเหมาะสมกับปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ละวัน 2.เลือกอาหารจากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือ 3.เลือกอาหารสะอาดและปลอดภัย และ 4.เลือกอาหารที่มีผลดีต่อสุขภาพ” รมว.สาธารณสุข กล่าว
       
       นพ.ประดิษฐ กล่าวด้วยว่า สำหรับอาหารสุขภาพอย่าง อาหารออแกนิก ยังไม่มีมาตรฐานออกมาควบคุม ทำให้ผู้บริโภคไม่มีความมั่นใจว่าอาหารออแกนิกที่ซื้อในราคาสูงกว่าอาหารทั่วไปราว 3 เท่านั้น จะเป็นอาหารออแกนิกจริงหรือไม่ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดทำเกณฑ์มาตรฐานอาหารออแกนิก คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่ง สธ.จะพิจารณาก่อนออกเป็นประกาศบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารออแกนิกต้องยื่นอนุญาตกับ อย.หากผ่านเกณฑ์จึงจะได้รับรองจาก อย.สำหรับติดแสดงไว้ที่ผลิตภัณฑ์ โดยเบื้องต้นจะเริ่มจากความสมัครใจของผู้ประกอบการก่อน ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ยื่นขออนุญาตจาก อย.จะทำการสุ่มตรวจด้วยเช่นกันว่าเป็นการอาหารออแกนิกจริง หรือเป็นการโฆษณาเกินจริงหลอกลวงผู้บริโภค
       
       ด้าน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า จากข้อมูลจากรายงานสุขภาพประชาชนไทย ในปี 2551-2552 พบว่า สถานการณ์การบริโภคผักและผลไม้คนไทยอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง โดยรับประทานผักและผลไม้เพียงพอไม่ถึงครึ่ง หรือเพียง 17.7% ลดลงจาก 21.9% ในปี 2546-2547 และภาคกลางบริโภคผักผลไม้น้อยที่สุด 14.45% อีกทั้งในจำนวนผู้บริโภคก็ยังไม่เข้าถึงผักผลไม้ที่ปลอดภัยเพราะจากการสำรวจพบ ผักผลไม้ตามท้องตลาดมีสารเคมีตกค้างถึง 40% และเป็นที่น่าตกใจว่า ไทยเป็นประเทศที่มีปริมาณการใช้สารเคมีทางการเกษตรมากเกิน เป็นอันดับ 4 ของโลก คิดเป็น 87 ล้านกิโลกรัม/ปีเป็นเงินถึง 2.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นอาหารจึงเป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่หากเราไม่รู้เท่าทัน ก็จะกลายเป็นการทำร้ายตนเองโดยไม่รู้ตัว สสส.พร้อมที่จะทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายกว่า 20 องค์กร เพื่อสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและปลอดภัย
       
       สำหรับ นิทรรศการอาหาร “เส้นทางกิน [พอ]ดี สู่ชีวีมีสุข” และงาน Green Consumer Society Fair เป็นการรวมรวบและสังเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงานของแผนงานอาหารเพื่อสุขภาวะ ของ สสส.และภาคีเครือข่าย เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ อาทิ “โซนอันตราย รายทาง” คู่มือในการปฏิเสธอาหารให้โทษ “เมนูท้าลอง” “กิจกรรมพิสูจน์สารพิษตกค้าง (Food Lab)” วิธีง่ายๆ ที่จะตรวจสอบสารตกค้างในผักสด ผลไม้ได้ด้วยตนเอง โดยจัดแสดงที่บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ซ.งามดูพลี เปิดให้ชมวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 10.00-18.00 น.เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 27 เม.ย.นี้

ASTVผู้จัดการออนไลน์    15 กุมภาพันธ์ 2556