ผู้เขียน หัวข้อ: เลขา สปสช.โต้ไม่รู้ขึ้นเงินเดือน ยันจ่ายโบนัสไม่ขัดมติบอร์ด  (อ่าน 1541 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9759
    • ดูรายละเอียด
เลขา สปสช.โต้ไม่รู้เรื่องขึ้นเงินเดือน อ้างรับเงินเท่า ร.ร.มหิดล-รพ.บ้านแพ้ว ยันจ่ายโบนัสไม่ขัดมติบอร์ด...

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยกรณีที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบประเมินผลการดำเนินงานของ สปสช. ที่ใช้งบบริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (งบบริหาร) และงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (งบกองทุน) พบว่า การบริหารจัดการไม่เหมาะสมในหลายประเด็น ส่งผลให้นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เตรียมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ตามที่ สตง.ตรวจสอบว่า กรณีของอัตราเงินเดือนเลขาธิการ ที่เพิ่มเป็นอัตราสูงสุดจาก 171,600 บาท เป็น 200,000 บาท และเงินประจำตำแหน่ง จากเดือนละ 42,900 บาท เป็น 50,000 บาท ภายในปีเดียวว่า เรื่องนี้ต้องสอบถามไปยังบอร์ด สปสช. ชุดที่พิจารณาปรับอัตราเงินเดือนให้กับตน เพราะโดยส่วนตัวไม่รู้เรื่องนี้ และไม่รู้ว่าเป็นการผิดระเบียบหรือไม่อย่างไร แต่ถ้าจะมีการท้วงติง ในประเด็นที่อัตราเงินเดือนเลขาธิการสูงเกินไป หากพิจารณาจากตารางแสดงอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการองค์การมหาชนตาม พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ.2542 จะพบว่าอัตราเงินเดือนเลขาธิการ สปสช.อยู่ในกลุ่มเดียวกับ ผอ.โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ และ ผอ.โรงพยาบาลบ้านแพ้ว เป็นต้น คือ อยู่ในช่วง 1-2 แสนบาท

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ส่วนเรื่องการจ่ายเบี้ยประชุมให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบ ตั้งแต่ ก.ย. 2547 - มี.ค. 2553 สูงเกินกว่าที่ ครม.กำหนด เป็นเงินประมาณ 3.1 ล้านบาทนั้น ขอเรียนว่า เงินที่ สปสช.จ่ายให้กับคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ไม่ใช่เบี้ยประชุม แต่เป็นค่าตอบแทนเหมาจ่าย ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่สมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็น รมว.สาธารณสุข และประธานบอร์ด สปสช.เมื่อปี 2546 ส่วนการจ่ายโบนัสให้แก่เจ้าหน้าที่ พนักงาน และลูกจ้าง ไม่เหมาะสม เพราะไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ด สปสช. นั้น ในปี 2548 บอร์ด สปสช.ได้อนุมัติในหลักการว่า หากผลการประเมิน สปสช.ที่ดำเนินการโดยบริษัทเอกชน ได้คะแนนอยู่ในระดับเอ จะจ่ายโบนัส 12% ในปี 2549 เมื่อผลประเมินอยู่ในระดับเอ จึงมีการจ่ายโบนัส 12% โดยไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด สปสช.ใหม่ เพราะเห็นว่าบอร์ด สปสช.ได้เคยอนุมัติในหลักการแล้ว แต่เมื่อมีการท้วงติง ในปี 2550 เป็นต้น จึงได้มีการเสนอเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ด สปสช.ทุกปี

นพ.วินัย ยังได้ชี้แจงในประเด็นที่มีการนำเงินสนับสนุนกิจกรรมตามภาครัฐ จากการซื้อยาจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) โดยใช้งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปใช้เป็นเงินสวัสดิการเป็นการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม เช่น การจัดทำโครงการศึกษาดูงานต่างประเทศ ว่า เงินที่ได้รับสนับสนุนจาก อภ.มีระเบียบ กำหนดไว้ชัดเจน แต่เมื่อมีการทักท้วงให้นำเงินส่วนนี้ไปสนับสนุนหน่วยบริการก็ยินดี ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้มีการดำเนินการ เช่น การให้ทุนการศึกษา หรือการสนับสนุนการจัดงานวิชาการของกระทรวงสาธารณสุข

“เท่าที่ดู สิ่งที่ สตง.รายงาน ไม่มีเรื่องของการทุจริต นี่คือ สิ่งที่ทำให้ผมสบายใจ สตง.เพียงแต่มีข้อท้วงติง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ สตง. สปสช.พร้อมรับฟังและนำข้อเสนอแนะที่ได้รับกลับมาพิจารณา เพียงแต่บางเรื่องอาจจะเป็นส่วนของการเข้าใจผิด หรือตีความกฎหมายแตกต่างกัน ก็จะต้องมีการชี้แจง” นพ.วินัยกล่าว

ไทยรัฐออนไลน์ 7 ธันวาคม 2554