ดีเอสไอ สอบเครียด 4 ผอ.รพ. 5 ช.ม.รวดคลี่ปมยาแก้หวัดสูตรซูโดฯ ล่องหน
นพ.พิชาติ เฉลิมดลยุทธนา ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมด้วย นพ.สาโรจน์ ใจมุข ผอ.รพ.ทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ นพ.ดนวัต ชุณหวาณิชย์ ผอ.รพ.ฮอด และ นพ.สาธิต กิมศิริ ผอ.รพ.ดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้าพบนายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีนรั่วไหลออกจากโรงพยาบาล ตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน ถึงการมาตรการควบคุมกำกับดูแลการจัดซื้อ การเบิกจ่าย และการเก็บยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีนในคลังยาเวชภัณฑ์ของ รพ.โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้แยกห้องสอบปากคำเป็นรายบุคคลอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 5 ช.ม.
พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ เปิดเผยว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีดีเอสไอ ตั้งประเด็นสอบถาม 4 ผอ.รพ.ถึงแนวทางการอนุมัติจัดซื้อยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีน การควบคุม การเบิกจ่าย การตรวจสอบเรื่องยาแก้หวัดสูตรซูโดว่า มีการจัดซื้อจริงหรือไม่ หากมีการจัดซื้อยาแก้หวัดจริงจะมีการนำเข้าคลังยาของ นพ.หรือไม่ การจัดซื้อเป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานวิชาชีพที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณะสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อ.ย.) ที่ได้เข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอไว้ถึงมาตรฐานวิชาชีพของโรงพยาบาลในการจัดซื้อ ควบคุม เบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีนหรือไม่
"จากนี้ จะนำขอเท็จจริงที่ได้จากการสอบปากคำทั้งหมด ไปตรวจสอบร่วมกับพยานหลักฐานและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป"พ.ต.ท.พงศ์อินทร์กล่าว
ผบ.สำนักคดีความมั่นคง กล่าวว่า รพ.ศูนย์อุดรธานี ที่มียาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดีนหายไปกว่า 7 ล้านเม็ด และมีการจัดซื้อยาแก้หวัดถึง 129 ครั้ง ดีเอสไอจะสอบถาม ผอ.รพ.ดังกล่าวว่า มีการควบคุมอย่างไร ส่วนการจะสรุปว่ามี รพ.ที่ไหนต้องรับผิดชอบหรือไม่ คงต้องปรึกษาหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 20 เม.ย.ดีเอสไอ ได้ออกหมายเรียกอีก 8 ผอ.รพ.ที่มีการรั่วไหลของยาแก้หวัดเข้าให้ปากคำต่อไป จากนั้น ดีเอสไอ จะลงพื้นที่ในหลายจังหวัด เพื่อสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนตั้งแต่ผู้บริหาร รพ. แพทย์ เภสัชกร และเจ้าหน้าที่ห้องยา ทั้งนี้ ยืนยันว่า การสอบสวนมีความคืบหน้ามาก
ด้านนพ.พิชาติ เฉลิมดลยุทธนา ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า ดีเอสไอ ได้เชิญมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับยาแก้หวัด 7.2 ล้านเม็ด ที่เภสัชกร ใน รพ.ศูนย์อุดรธานี ที่ได้ยักยอกขโมยออกไป ทั้งนี้ได้นำเอกสารขั้นตอนการเบิกจ่าย การจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 2535 มาให้ดีเอสไอ สำหรับกรณีดังกล่าว เภสัชกร ได้ทำหนังสือยอมรับว่า ทำผิดไว้เป็นหลักฐานโดยเป็นการทำเอกสารจัดซื้อเท็จและนำยาแก้หวัดออกไปจากโรงพยาบาลจริง แต่ในฐานะผอ.รพ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เนื่องจากได้เซ็นชื่อในเอกสารเบิกจ่ายยาตามขั้นตอนทั้งหมด
โพสต์ทูเดย์ 19 เมษายน 2555
