ทนายความพาสาวร้อง สธ.ขอความเป็นธรรม หลังคลอดลูกคนที่ 4 และ 5 ที่ รพ.ทุ่งสง หมอบอกพบเชื้อเอชไอวี จนต้องกินยาต้าน ถูกสังคมตีตรา จนต้องย้ายครอบครัวไปพิษณุโลก แต่พอมีลูกคนที่ 6 กลับตรวจไม่พบเชื้อทั้งตัวเองและลูก จี้ตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย สธ.เตรียมสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ คงหอม อายุ 31 ปี ผู้เสียหายจากการตรวจเชื้อเอชไอวีผิดพลาดที่ รพ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนเข้าใจผิดว่า ติดเชื้อเอชไอวีมานานกว่า 5 ปี เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยมี นพ.พิทักษ์พล บุญยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขต 11 เป็นตัวแทนปลัด สธ. รับมอบหนังสือ
นางมณีรัตน์ กล่าวว่า ตนมีลูกกับสามีคนแรก 5 คน โดยไปคลอดลูกคนที่ 4 และ 5 ที่ รพ.ทุ่งส่ง เมื่อปี 2557 และ 2558 ซึ่งแพทย์ระบุว่า ตรวจพบเชื้อเอชไอวีในเลือด ตนและลูกจึงต้องรับยาต้านไวรัส แต่ตนไม่ได้กิน ให้แค่ลูกคนที่ 4 และ 5 กินยาอย่างต่อเนื่องมา 5 ปี ซึ่งลูกก็แข็งแรงดี อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับความทุกข์ทรมาน จากการถูกสังคมตีตรา ลูกถูกเพื่อนล้อว่าแม่เป็นเอดส์มารับ ทำให้ไม่กล้าไปรับลูกที่โรงเรียน พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาก็รังเกียจลูกทั้ง 2 คน ข้างบ้านไม่มีเด็กเล่นด้วย จนต้องย้ายครอบครัวไปพิษณุโลก จึงได้พบสามีคนที่ 2 และมีลูกคนที่ 6 แต่เมื่อไปคลอดที่ รพ.ชาติตระการ พิษณุโลก โดยไม่ได้มีการฝากครรภ์ จึงรู้ว่าลูกไม่ติดเชื้อเอชไอวี ตนก็ไม่พบเชื้อ โดย รพ.ได้ตรวจยืนยันอีก 3 ครั้งก็ไม่พบเชื้อ จึงนำลูกคนที่ 4 และ 5 ไปตรวจก็ไม่พบเชื้อเอชไอวี
นางมณีรัตน์ กล่าวว่า ตนต้องการมาขอความเป็นธรรม อยากให้คนรอบข้างรู้ว่า ตนและครอบครัวไม่มีใครป่วยหรือติดเชื้อเอชไอวี และอยากให้ สธ.ถอดชื่อตนและลูกออกจากบัญชีผู้ติดเชื้อ และให้ รพ.ทุ่งสงแสดงความรับผิดชอบ เพราะ รพ.ระบุว่า จะจ่ายเงินเยียวยา 50,000 บาท ก็ยังไม่ดำเนินการ กระทั่งมาร้องศูนย์ดำรงธรรมก็ยังเงียบ จึงมาร้องต่อสภาทนายความ ขณะที่คำชี้แจงของ รพ.ระบุแค่ว่า เป็นความผิดพลาดของเครื่องมือในการตรวจ ไม่ใช่แพทย์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คิดว่าน่าจะมีคนที่เป็นลักษณะคล้ายตนอีกในพื้นที่
นพ.พิทักษ์พล กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบ สธ.จะดำเนินการตามระบวนการ โดยจะประสานให้ รพ.ทุ่งสง ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มายัง สธ. คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนการเยียวยาผู้เสียหายจะรับผิดชอบชดเชยโดยไม่ดูว่าใครถูกหรือผิด โดยใช้การเยียวยาตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณา
3 ก.ค. 2562 13:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์