ถ้าอย่างนั้น เรามีสิทธิ์ ที่จะปฎิเสธ การรักษา หรือเลือกที่จะรักษา ในกรณี case ง่ายๆ ได้หรือเปล่าครับ

ประเมินดู ถ้าคนไข้ หรือญาติคนไข้ หัวหมอ มา ก็ปฎิเสธไปเลย จะได้ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

   ค่าตอบแทนปีนี้ 2554 ยังไม่ได้เลย มันหายไปไหน ใครอมเอาไป ขอสาปแช่ง

   

  นี่ไง ตัวอย่าง ของคนที่ดีแต่พูด พูดๆๆๆเอาหน้าไว้ก่อน ไม่ได้วางแผนอะไร พูดเพื่อสร้างภาพ เสร็จแล้วก็มา

กำหนดอะไรกันทีหลัง ทุเรศดี คนโตๆ เขาทำกันอย่างนี้ น่านับถือมากเลยเน๊อะ

 แล้วคิดว่า สิ่งที่คุณพูด หรือเสนอมา จะเป็นไปได้ไหม คุณหรือคนอื่นๆจะอยู่นานมั้ยเนี่ย 

เออ ....ก็แปลกดี

 วันก่อนมาบอกว่า เก็บ 30 บาท เพื่อคืนศักดิ์ศรี ให้ประชาชน

แล้วมาวันนี้ กลับกลอกมาบอกว่าจะยกเว้นให้บางกลุ่ม ตกลงว่า กลุ่มที่ได้รับยกเว้นนี่ ไม่คืนศักดิ์ศรี ให้พวกเขาหรือยังไงกัน หรือว่าพวกเขาไม่มีศักดิ์ศรีกันเหรอ

ทุเรศดี นี่หรือสตรีหมายเลขหนึ่งของประเทศไทยตอนนี้ พูดกลับกลอกปลิ้นปล้อน
   300 บาท/คน/วัน ของผู้ใช้แรงงาน ก็ยังไม่เห็นได้ทั่วทั้งประเทศเลย แถมยังได้เฉพาะบางพิ้นที่อีก
   ปริญญาตรี 15000 บาท ตอนแรกก็ว่าได้หมด ไฉนถึงให้แค่ ข้าราชการ เท่านั้น
   แล้วนี่ยังมา 30 บาท รักษาทุกโรค อีกนะ


ถ้าแน่จริง อย่างที่ปากพูดไว้ ก็ผลักดันสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ก่อนหน้านี้ ให้มันสำเร็จสิ สร้างเงื่อนไขหลบหลีก เอาหน้าไปเรื่อยๆ
กลับไป อยู่บ้าน นอนกอดลูกกอดปั๋ว ดีกว่ามั้ย

เออ ....ก็แปลกดี

 วันก่อนมาบอกว่า เก็บ 30 บาท เพื่อคืนศักดิ์ศรี ให้ประชาชน

แล้วมาวันนี้ กลับกลอกมาบอกว่าจะยกเว้นให้บางกลุ่ม ตกลงว่า กลุ่มที่ได้รับยกเว้นนี่ ไม่คืนศักดิ์ศรี ให้พวกเขาหรือยังไงกัน หรือว่าพวกเขาไม่มีศักดิ์ศรีกันเหรอ

ทุเรศ คนโตๆ แก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว ยังพลิกลิ้นได้อยู่อีกนะ

ถ้าแน่จริง อย่างที่ปากพูดไว้ ก็ผลักดันสิ่งที่ตัวเองพูดไว้ก่อนหน้านี้ หรือที่คนบงการคุณเขาสั่งให้คุณทำ ให้ตลอดรอดฝั่งเสียสิ มาพลิกลิ้นทำไม น่าละอายใจจริงๆ

คนโตๆ ที่น่าเลือ่มใส ศรัทธา เขาต้องรอบคอบ คิดก่อนพูด ไม่ใช่พูดไปแล้ว มากลับกลอก ตลบแตลง แบบนี้

เงิน 30 บาทกับชาวบ้านโดยเฉพาะ คนบ้านนอกที่ตัวเองทำงานอยู่ ก็มีค่ามากพอจะซื้อ ข้าวเหนียว มากินกันทั้งครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก ได้ตั้ง 2--3 มื้อแน่ะครับ
จริงๆแล้วเรื่องการศึกษา และการสาธารณสุข ต้องเป็นเรื่องสวัสดิการที่รัฐพึงจะมีให้กับประชาชนของตนเอง ไม่ใช่หรือครับ
ที่ว่า เก็บ 30 บาทเพื่อศักดิ์ศรีของผู้รับบริการ และเพื่อได้รับบริการที่มีคุณภาพมากขึ้น
มองได้หลายแง่ -แสดงว่า ศักดิ์ศรีของผู้มารับบริการจากโรงพยาบาลของรัฐพวกเรา มีค่าแค่ 30 บาท ในขณะที่ศักดิ์ศรีของผู้ป่วยอีกเกรดที่ไปรับบริการภาค เอกชน มีค่ามากกว่าหลายเท่าตัวนัก
                    -แสดงว่า ที่ผ่ามาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่ด้อยคุณภาพ การพัฒนาบริการให้มีคุณภาพมากขึ้นเป็นเรื่องที่สมควรจะต้องทำต่อเนื่องไปข้างหน้าอยู่แล้วมิใช่หรือครับ ไม่ใช่ว่าจะต้องมารอเงิน 30 บาทตรงนี้เสียหน่อย อ่านแล้วทะแม่งๆ เหมือนบอกชาวบ้านว่าพวกเราที่เป็นผู้ปฎิบัติงานด้านบริการสาธารณสุข รอเงินตรงนี้จากชาวบ้านก่อนแล้วจะพัฒนาบริการให้ดีขึ้น

สรุปแล้ว อำนาจอยู่ในมือ จะคิดจะทำอะไรก็ย่อมได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ก็รอรับคำอวยพร ทางลบ(สาปแช่ง)จากคนเดือดร้อนไปละกันนะครับ