หลังจากที่มีข่าวร้านอาหารบริเวณริมชายหาดหัวหินขายอาหารราคาแพงเกินควร อีกทั้งยังบุกรุกพื้นที่ชายหาดซึ่งเป็นหาดสาธารณะ ในวันนี้ได้มีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลเมืองหัวหิน เจ้าหน้าที่ตำรวจ คณะกรรมการพัฒนาชายหาดหัวหิน และผู้ประกอบการบนชายหาดหัวหิน โดยในที่ประชุมสรุปว่า ให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่บุกรุกชายหาด ดำเนินการรื้อถอนให้เสร็จภายในวันที่ 18-22 ส.ค.57 จากนั้นทางคณะกรรมการจะเข้าไปจัดระเบียบตอกหมุดกำหนดพื้นที่การเก็บสิ่งของ การประกอบอาหาร ร่มและเตียงผ้าใบ
นอกจากนั้นที่ประชุมยังตกลงให้ผู้ประกอบการหยุดกิจการทุกวันพุธ เพื่อช่วยกันทำความสะอาดชายหาด อีกทั้งทางสำนักงานการค้าภายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำหนดราคาอาหารให้ยุติธรรม โดยจัดทำเมนูกลาง พร้อมทั้งติดป้ายแสดงราคาอาหารขนาดใหญ่ จำนวน 2 จุด เพื่อแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบด้วย ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ในโลกโซเชียลก็ยังมีการโพสต์ภาพบิลค่าอาหารที่ร้านค้าชายหาดหัวหินร้านอื่นๆ ที่มีราคาแพงแพงเกินควร เช่น ส้มตำปูม้า จานละ 250 บาท หมึกย่างจานละ 350 บาท ทอดมันจานละ 300 บาท เป็นต้น โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นว่ามีราคาแพงเกินไปและเป็นการขูดรีดผู้บริโภคมากเกินไป อย่างให้มีการแก้ไข โดยไม่เฉพาะชายหาดหัวหินเท่านั้น แต่รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทุกๆ แห่ง
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวบางส่วนได้เลือกเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนที่อ่าวมะนาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของกองบิน 5 และอยู่ห่างจากหัวหินไป 90 ก.ม. โดยร้านอาหารบริเวณอ่าวมะนาวนี้เป็นร้านค้าสวัสดิการ มีการควบคุมคุณภาพ และกำหนดราคาชัดเจน ไม่ได้คิดราคาตามน้ำหนัก ส้มตำปูม้าราคาจานละ 80 บาท ส้มตำไทย 30 บาท ปลากะพงนึ่งมะนาว ตัวละ 280 บาท ปูม้านึ่งราคาจานละ 400 บาท ส่วนเตียงผ้าใบราคา 10 บาทต่อคน และผู้ที่มาพักผ่อนสามารถนั่งเตียงผ้าใบโดยไม่ต้องสั่งอาหารก็ได้
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 สิงหาคม 2557
