ตึกถล่มดับแล้ว 5 ศพ ด้านหญิงท้องอาการสาหัส “ลุงพาน” ยังติดใต้ซาก

[story]

 ตึก 6 ชั้นถล่มพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 5 ราย ระบุเป็น 2 ใน 7 ชีวิตที่ยังอยู่ใต้ซากอาคาร ขณะที่ “ลุงพาน” และอีก 4 ชีวิตที่เหลือกำลังเจาะซากปรักหักพังเร่งช่วยเหลือเต็มที่ เผยผู้บาดเจ็บ 5 รายที่นอนโรงพยาบาล ยังสาหัสอีก 2 เป็นหญิงท้องกระดูกเชิงกรานแตก 1 ราย และชายชาวเขมรเลือดออกช่องเยื่อหุ้มปอด 1 ราย

       ความคืบหน้าการช่วยเหลือ “ลุงพาน” ผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากอาคารคอนโดมิเนียมขนาด 6 ชั้นที่ถล่มลงมาทั้งหมด ใน จ.ปทุมธานี พร้อมอีก 6 ราย บริเวณใกล้เคียงกับลุงพานนั้น ล่าสุด วันนี้ (12 ส.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ยังคงเร่งให้การช่วยเหลือทั้ง 7 รายอยู่ ทั้งนี้ สามารถยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว 2 ราย อีก 4 รายยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าอยู่จุดใด เพราะไม่มีการส่งสัญญาณโต้ตอบ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือมีหน่วยกู้ภัย ตำรวจ ทหาร จำนวนมากประมาณ 300 คน เข้าเร่งดำเนินการ ส่วน สธ. ได้ตั้งจุดบัญชาการที่จุดอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้สำนักสาธารณสุขฉุกเฉินวางระบบการบริหารจัดการ มี นพ.ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี เป็นผู้อำนวยการภาคสนาม
      
       นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สำหรับหน่วยปฐมพยาบาลในช่วงนี้ ผู้ที่มารับบริการ ส่วนใหญ่จะมีบาดแผลเล็กน้อย มีอาการวิงเวียน เป็นลม เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อน ทั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากกรมแพทย์ทหารบก ส่งรถผ่าตัดและห้องไอ.ซี.ยู. เคลื่อนที่ขนาดใหญ่ พื้นที่ปฏิบัติการขนาด 8 คูณ 50 ฟุต พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทาง จำนวน 2 คันด้วย ส่วนของผู้บาดเจ็บทั้ง 5 ราย ที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 4 แห่ง จากการติดตามอาการล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. พบว่ามี 2 ราย ที่ต้องดูแลใกล้ชิด พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปทุมธานี รายแรกเป็นหญิงไทย กำลังตั้งครรภ์ อายุครรภ์ประมาณ 4 เดือน มีปัญหากระดูกเชิงกรานแตก แพทย์ดามกระดูกและใส่เครื่องช่วยหายใจ ยังอยู่ในห้อง ไอ.ซี.ยู. สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ดี รายที่ 2 เป็นชายกัมพูชา มีปัญหาเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด แพทย์ใส่ท่อระบายเลือดไว้ ผู้ป่วยหายใจได้เอง รู้สึกตัวดี
      
       นพ.ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นพ.สสจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่ามีผู้เสียชีวิต 5 รายแล้ว โดย 2 รายล่าสุดคือ 2 ใน 7 รายที่ติดอยู่ในซากตึก เมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย จึงเป็น 5 ราย ส่วนผู้ที่เหลือในซากตึกยังคงเร่งให้การช่วยเหลือ

 ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 สิงหาคม 2557

[story]

สธ. ยันอีกรอบผู้เสียชีวิตตึกถล่มมีแค่ 3 ราย ระบุอย่าตีขลุมร่างที่พบแต่ยังไม่ตรวจสอบสัญญาณชีพว่าเสียชีวิต ชี้อาจตัดโอกาสการช่วยชีวิต ส่วนแรงงานหนุ่ม “กล้าณรงค์” ยังพบสัญญาณชีพ เร่งให้การช่วยเหลือ
       
       นพ.อนุรักษ์ อมรเพชรสถาพร ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ข่าวตึก 6 ชั้นถล่มย่านรังสิต จนมีผู้เสียชีวิต 4 - 5 ราย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวหลายแห่ง อาจจะเกิดจากการสื่อสารผิดพลาด เนื่องจากมีการให้ข้อมูลหลายทางหลายแหล่ง ทั้งนี้ สธ. ยืนยันว่ายังคงมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยสองรายแรกเป็นหญิงสาวกอดลูกอ่อน ซึ่งพบศพในวันที่เกิดเหตุคือ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ทราบชื่อคือ นางอ้วน ไม่ทราบนามสกุล ส่วนรายสุดท้ายเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งเป็นรายที่พบว่าติดอยู่ในซากอาคารและกำลังเร่งทำการช่วยเหลือ โดยทีมแพทย์อาจจะตัดขาเพื่อนำตัวออกมา แต่สุดท้ายเสียชีวิตก่อน ทราบชื่อคือ นายเชษฐา กัมพูชาติ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถนำร่างออกมาจากซากตึกได้ ส่วนผู้รอดชีวิตเท่าที่ตรวจสอบพบว่ายังมีสัญญาณชีพอยู่ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายกล้าณรงค์ ปราบภัย ขณะนี้ก็ได้เจาะตึกเพื่อลำเลียงท่อเข้าไป เพื่อให้น้ำแก่ผู้รอดชีวิต
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพาน ซึ่งมีการออกข่าวว่ายังมีชีวิตอยู่ และแจ้งว่ายังมีผู้ติดอยู่ใต้ซากตึกอีก 7 ราย นั้น นพ.อนุรักษ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบยังพบผู้มีสัญญาณชีพเพียงรายเดียว ส่วนรายอื่นนั้นอาจเป็นการให้ข่าวจากหน่วยงานอื่น เช่นเดียวกับกรณีที่ข่าวว่าพบร่างแล้วไม่เห็นสัญญาณตอบรับจึงตีความว่าเสียชีวิตแล้วจนมีหลายศพนั้น เราอยากให้โอกาสก่อน อย่าเพิ่งไปตีขลุมว่าเสียชีวิตแล้วโดยที่ยังไม่ได้ตรวจสอบสัญญาณชีพ เพราะเท่ากับว่าจะเป็นการตัดโอกาสในการช่วยชีวิต ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

 ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 สิงหาคม 2557

[story]

สสจ.ปทุมธานี เผยช่วยแรงงานหนุ่มไทย “กล้าณรงค์” หลังติดอยู่ใต้ซากตึกคอนโด 6 ชั้นถล่มนานร่วม 26 ชั่วโมง พบขาหัก นำตัวส่ง รพ.ปทุมธานี แล้ว
       
       นพ.ณรงค์ ตั้งตรงไพโรจน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปทุมธานี กล่าวว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือ นายกล้าณรงค์ ปราบภัย แรงงานไทยอายุ 24 ปี ซึ่งติดอยู่ภายใต้ซากตึก 6 ชั้น ที่ถล่มลงมาได้แล้ว โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า นายกล้าณรงค์ อาการบาดเจ็บไม่รุนแรงมากนัก มีเพียงขาหักและบาดแผลที่เท้า อย่างไรก็ตาม ได้ส่งรักษาตัวที่ รพ.ปทุมธานี แล้ว
       
       ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุคอนโดมิเนียม “ยูเพลส” ถล่ม ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (11 ส.ค.) นับว่าได้ติดอยู่ภายในซากตตึกถล่มเกินกว่า 26 ชั่วโมง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้กำลังคน รวมทั้งเครื่องตัดและเจาะ ค่อยรื้อซากอาคารที่ทับร่าง นายกล้าณรงค์ออก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการพังลงมาทับซ้ำ ก่อนจะนำตัวออกมาได้สำเร็จ โดยคาดว่ายังมีผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารอีก และยังคงเดินหน้าค้นหาต่อไป ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาในช่วงเย็น
       
       ทั้งนี้ ยังมีญาติของ นายธวัชชัย สุขสม และนายดนัย สุขสม 2 พี่น้องที่ยังติดอยู่ภายใต้ซากอาคาร เดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อติดตามความคืบหน้า ซึ่งจากการสอบถามทราบว่า ภรรยาของนายธวัชชัย ขณะนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ดังกล่าว รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นแม่และลูกชายวัย 4 ขวบ ที่ได้รับการนำศพออกมาจากซากอาคาร ทราบว่าเป็นลูกและภรรยาของนายดนัย สุขสม

 ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 สิงหาคม 2557

[story]

ผู้ตรวจฯแรงงาน เผยมีแรงงาน 13 ราย จาก 33 ราย มีสิทธิประกันสังคม ขณะที่ รพ.ธรรมศาสตร์ - รพ.ปทุมธานี ขอรับบริจาคเลือดกรุ๊ป กรุ๊ป O Rh-Negative จำนวนมากช่วยแรงงาน
       
       วันนี้ (12 ส.ค.) นายกรีฑา สพโชค ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีอาคารถล่ม พบว่า ขณะเกิดเหตุมีแรงงานทำงานอยู่ 33 คนโดยในจำนวนนี้เป็นลูกจ้างของบริษัท ปลูกแปลง จำกัด ที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีนายจิระ ขันมั่น เป็นเจ้าของกิจการซึ่งได้ขึ้นทะเบียนประกันสังคมไว้กับสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพพื้นที่ 2 จำนวน 13 คน และมีแรงงานไทยและเด็กเสียชีวิต 3 คน คือ นายเชษฐา กำพูชาติ นางอ้วน ไม่ทราบนามสกุลซึ่งตั้งท้อง 7 เดือน รวมทั้งลูกชายของนางอ้วน วัย 4 ขวบ ไม่ทราบชื่อ ส่วนแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บมี 24 คน โดยในจำนวนนี้บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ต้องส่ง รพ. 5 คนและต้องส่งไปรักษาที่ รพ. 19 คน แยกเป็น รพ.ธัญบุรี 16 คน รพ.คลองหลวง 2 คน และ รพ.ธรรมศาสตร์ 1 คน ขณะนี้ออกจาก รพ. แล้ว 14 คน นายกรีฑา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีแรงงานที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 6 คน โดยเป็นแรงงานไทย 5 คน ได้แก่ นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี นางเพียบ ทับครบุรี นายสิทธิโชค แกมมะณี นายธนากร ตรีเมฆ นายกล้าณรงค์  ปราบภัย และแรงงานกัมพูชา 1 คน คือ นายอิมเครือ
       
       ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งว่าทาง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และรพ.ปทุมธานี ต้องการรับบริจาคเลือดกรุ๊ป O Rh-Negative จำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือแรงงานที่บาดเจ็บ

ASTVผู้จัดการออนไลน์    12 สิงหาคม 2557