ผู้เขียน หัวข้อ: “พญ.พรจิต ประพิณวนิชย์” แพทย์ดีเด่นผู้พัฒนา รพ.ปัตตานี  (อ่าน 500 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9760
    • ดูรายละเอียด
 แพทย์หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เดินทางมาบรรจุข้าราชการเป็นแพทย์ประจำ รพ.ปัตตานี เมื่อปี 2525 ท่ามกลางความเจริญที่ยังมาไม่ถึง และมีแพทย์ประจำอยู่เพียง 9 คนเท่านั้น กว่า 31 ปีที่ผ่านไปจนล่วงเข้าสู่วัยเกษียณ “พญ.พรจิต ประพิณวนิชย์” ได้ฝากผลงานที่สะท้อนถึงความทุ่มเททั้งกายใจ พัฒนา รพ.ปัตตานี ให้กลายเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดที่มีศักยภาพสูงขึ้นมาได้ จนขณะนี้มีแพทย์ประจำมากถึง 70 คน และขยายการรองรับบริการคนไข้จาก 200 กว่าเตียงเป็น 500 กว่าเตียง
       
       ชีวิตหมอของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง นี่คือคำเล่าขานจากอาจารย์ พญ.พรจิต สาวจากเมืองกรุง ที่เมื่อเรียนจบผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลแล้ว ก็ย้ายตามสามี นพ.ศิริพงษ์ จันทรัศมี มาประจำอยู่ที่ รพ.ปัตตานี โดย พญ.พรจิต ยอมรับว่า ยุคนั้นในที่แห่งนี้มีแต่ความสงบ แต่ศักยภาพของโรงพยาบาลกลับยังไม่สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มที่ จึงต้องพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะพัฒนาให้ รพ.ปัตตานี สามารถให้บริการประชาชนอย่างครบวงจรได้ ซึ่งเมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผอ.รพ.ปัตตานี ภายใต้การทำงานของ พญ.พรจิต ซึ่งผู้คนทั่วไปให้การยอมรับ เธอได้พา รพ.ปัตตานี ติดปีกไปสู่ความก้าวหน้าอย่างถึงที่สุด
       
       “เมื่อก่อนโรงพยาบาลเราส่งต่อผู้ป่วยเยอะมาก เนื่องจากศักยภาพของเราน้อย เมื่อผู้ป่วยเป็นโรครุนแรงมาก็เกินความสามารถที่เราจะช่วยได้ ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ที่มีศักยภาพมากกว่านี้ เราจึงต้องพัฒนาให้ รพ.ปัตตานี สามารถดูแลประชากรที่มีอยู่ราวกว่า 6-7 แสนคน ให้ได้ พยายามส่งแพทย์ที่มีเรียนต่อสาขาเฉพาะทางทุกสาขา จนขณะนี้ รพ.ปัตตานีเรามีแพทย์เฉพาะทางเกือบครบทุกสาขาแล้ว เท่าที่ทราบปี 2558 ก็จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดสมองสำเร็จการศึกษากลับมายังโรงพยาบาล”
       
       ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาล ทำให้ช่วยลดการส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่สูงกว่าได้เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนการรับการรักษาจากโรงพยาบาลขนาดเล็กมารักษาต่อที่ รพ.ปัตตานี นอกจากนี้ ยังสร้างหอผู้ป่วยวิกฤตมากขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วย จัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์โดยเงินงบประมาณ เงินบำรุงและที่ได้จากการบริจาค รวมทั้งการจัดหาเครื่องมือราคาแพงโดยการเช่าใช้ เช่น CT scan เครื่องสลายนิ่ว โดยเป็นโรงพยาบาลแรกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีเครื่อง Arthroscope รวมถึงบริหารให้สถานะการเงินของโรงพยาบาลเป็นบวก มั่นคง จนสร้างความเชื่อถือแก่ประชาชนและคนในชุมชนอย่างมาก
       
       แม้ พญ.พรจิต จะไปจาก รพ.ปัตตานี เป็นช่วงสั้นๆ 4 ปี ระหว่างปี 2542 - 2546 เพื่อไปรับตำแหน่ง ผอ.รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ แต่สุดท้ายก็กลับมาบริหารงานต่อที่ รพ.ปัตตานี เช่นเดิม
       
       แต่แล้วความท้าทายต่อการทำงานก็มาเยือนคุณหมออีกครั้ง เมื่อดินแดนปลายด้านขวานเกิดความไม่สงบขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2547 พญ.พรจิต เป็นคนหนึ่งที่ยืนหยัดอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยอันตราย ด้วยความแน่วแน่ในจิตใจของเธอ จึงกลายเป็นศูนย์รวมของบุคลากรทุกคนในโรงพยาบาลให้ร่วมกันยืนหยัดดูแลประชาชนอย่างแข็งขัน
       
       “แม้จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น แต่ก็จะยังคงอยู่ในพื้นที่ เพราะเราเลือกมาเป็นข้าราชการในสายวิชาชีพแพทย์นี้แล้ว เราต้องรักษาพยาบาลให้แก่ประชาชนทุกคน เพราะเรามีสถานะเป็นกลาง รักษาไม่เลือกข้าง ไม่เลือกฝ่าย อยู่เป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน ซึ่งในการดูแลผู้ป่วยคนเจ็บจากสถานการณ์ความรุนแรงจากอาวุธสงคราม ก็จะเตรียมดูแลให้พร้อมรับสถานการณ์เสมอ หากเป็นเคสที่เกินความสามารถของโรงพยาบาลก็จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า ซึ่งก็คือ รพ.สงขลานครินทร์ โดยพัฒนาศักยภาพการส่งต่อให้สูงขึ้น เพราะหากขนส่งทางรถยนต์ต้องใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า แต่ผู้ป่วยอาการหนักมากไม่สามารถรอได้ ก็ประสานให้มีการขนส่งทางเฮลิคอปเตอร์ ด้วยความสนับสนุนจากกรมการแพทย์ทหารบก โดยเราเองก็ต้องพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้สามารถขนส่งผู้ป่วยทางอากาศได้ด้วยเช่นกัน”
       
       ส่วนการดูแลบุคลากรในโรงพยาบาลท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต พญ.พรจิต เปิดเผยว่า ต้องเซ็ตระบบความปลอดภัยให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้ทำงานที่เสี่ยงภัยมากเกินไป มีที่พักที่ปลอดภัย และตัวเราก็ต้องเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ทุกคน ก็พยายามขอให้เขาเห็นแก่แผ่นดิน ถ้าพวกเราไม่อยู่ใครจะดูแลประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะยังปฏิบัติงานกันอยู่ จวบจนทุกวันนี้ที่ความไม่สงบจะยังเกิดขึ้นบ้างประปราย แม้จะเข้าสู่วัยเกษียณแล้ว แต่ พญ.พรจิต ก็ยังคงเข้ามาช่วยดูแลโรงพยาบาลในฐานะกรรมการมูลนิธิ รพ.ปัตตานีต่อไป
       
       ประวัติ พญ.พรจิต ประพิณวนิชย์
       
       เกิดวันที่ 4 ก.ค. 2496 ปัจจุบันอายุ 61 ปี
       จบมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้คะแนนเป็นอันดับสองของประเทศในสายวิทยาศาสตร์
       พ.ศ. 2514 สำเร็จการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
       ปัจจุบันเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผอ.รพ.ปัตตานี
       
       รางวัลที่เคยได้รับ
       
       ปี 2547 ได้รับรางวัลแพทย์สตรีดีเด่น สาขาบริการดีเด่น จากสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
       ปี 2552 ได้รับรางวัลผู้บริหารดีเด่นและเปี่ยมคุณธรรม จากสมาคมนักบริหารสาธารณสุข
       ปี 2552 ได้รับรางวัลผลงานดีเด่นอันดับ 1 ด้านคุณธรรมจริยธรรม จากกระทรวงสาธารณสุข
       ปี 2555 ได้รับรางวัลศิษย์เก่าแพทย์ศิริราชดีเด่น สาขา ผลงานดีเด่นเป็นที่ยกย่องเชิดชู
       ปี 2556 ได้รับรางวัล ตาราอวอร์ต (TARA ward) รางวัลสำหรับคนปลุกหัวใจสังคมด้วย “หัวใจพระโพธิสัตย์” จากเสถียรธรรมสถานและสาวิกาสิขาลัย
       ปี 2557 ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่น แพทยสภา สาขาผู้บริหาร

โดย...สิรวุฒิ รวีไชยวัฒน์
ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 มกราคม 2558