แถลงการณ์
สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป
๔ สิงหาคม ๒๕๕๓
--------------------------
สืบเนื่องมาจาก การคัดค้านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ... โดยทั้งผู้ปฏิบัติงานในหน้าที่แพทย์ผู้รักษา,บุคลากรอื่นผู้ร่วมกระบวนการดูแลรักษาผู้ป่วย และ องค์กรวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านมาตรฐานวิชาชีพ ได้แก่ แพทยสภาและองค์กรวิชาชีพต่างๆ ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจแก่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสนอร่างกฎหมาย ทั้งที่เป็นความชอบธรรมซึ่ง ผู้ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย และผู้รักษามาตรฐานวิชาชีพ ในฐานะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรับรู้ มีสิทธิและหน้าที่โดยหลักคุณธรรม จะต้องปกป้องประชาชนและผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนในทางมิชอบ
ดังนั้น การเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านในสิ่งที่พบว่า มีประเด็นน่าสงสัยในประโยชน์แอบแฝง ซึ่งปัจจุบันมักมีผู้กล่าวอ้างว่า เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนเสมอ แต่แท้ที่จริงเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง ซ่อนเร้นแอบแฝงอยู่ในกลกระบวนการแห่งการใช้กฎหมาย และแก้ไขได้ยากเมื่อเป็นกฎหมายแล้ว ดังปรากฏในชีวิตประจำวันของแพทย์และผู้ร่วมกระบวนการดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นที่ประจักษ์ว่าโรงพยาบาลของรัฐจำนวนกว่า๕๐๐โรงพยาบาล อยู่ในสถานะของการขาดงบดุล และมีสถานะใกล้ล้มละลายถึงประมาณ๓๐๐โรงพยาบาลแล้ว นั้น การคัดค้านเพื่อตรวจสอบป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเติมโรงพยาบาลและผู้ให้บริการ รวมทั้งเกิดอันตรายแก่ประชาชนจนเสียหายต้องการการดูแลเยียวยา กลับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของผู้ที่ไม่เข้าใจบทบาทของผู้ที่คัดค้าน และมีการบิดเบือนกล่าวร้ายลบหลู่ดูหมิ่นเหยียดหยามให้สังคมเข้าใจผิดแก่ผู้คัดค้าน และหลอกลวงให้สังคมหลงเชื่อว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสนอร่างกฎหมายนี้ ได้นำเสนอสิ่งที่ดีต่อประชาชนโดยเสนอกฎหมายดังกล่าว และใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนในการโฆษณาชวนเชื่อทุกวัน ใช้ทุกสื่อและทุกวิถีทางในการสกัดกั้นมิให้ผู้คัดค้านการเสนอกฎหมายได้มีโอกาสชี้แจงสู่สังคม
การตรวจสอบสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นั้น ใช้เวลามากกว่าการสร้างความไม่ถูกต้อง ดังจะเห็นว่า เมื่อโจรผู้ร้ายได้กระทำความผิด การพิสูจน์ความผิดต้องใช้เวลามาก กว่าจะถูกดำเนินกระบวนการทางศาลให้เสร็จสิ้นลง การด่าคน,การกล่าวร้ายป้ายสีคน ใช้เวลาน้อยกว่าการอธิบายให้สังคมได้เข้าใจ และเช่นกัน กระบวนการพิสูจน์ กว่าจะรู้ว่าการทุจริตโกงน้ำมันหลวงเป็นอาจินต์นั้น เป็นการประพฤติมิชอบ ก็ได้เกษียณอายุราชการไปเสียก่อน กว่าจะถูกลงโทษก็ได้อานิสงค์ล้างมลทินไปก่อน แต่กระบวนการที่จะพิสูจน์และแก้ไขในร่างกฎหมายที่เป็นปัญหา กลับมีการใช้เล่ห์กลทางการประชุม การเกรงใจผู้บังคับบัญชา การล่อหลอก ให้ผู้คัดค้านเสียกระบวนความคิด จนถูกใช้ลวดลายเพื่อยุติความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวคัดค้านโดยกำหนดเวลาให้เสร็จสิ้นใน๒สัปดาห์และนำสู่ขั้นตอนในชั้นกรรมาธิการ เพื่อที่จะไปเร่งกระบวนการทางรัฐสภา การรีบเร่งออกกฎหมายนี้ดูผิดสังเกต สมาพันธ์จึงมีความเชื่อว่า การเสนอร่างกฎหมายนี้ เป็นการดำเนินการโดยชอบกล ไม่อาจวางใจที่จะร่วมเวทีซึ่งจัดตั้งขึ้น ต่อไปได้
ดังนั้น สมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป จึงขอถอนตัวจากการร่วมหาข้อยุติดังกล่าว และขอใช้เวลาในการตรวจสอบโดยละเอียดอีกระยะหนึ่ง เพื่อให้เชื่อได้ว่า กฎหมายนี้ ไม่มีสิ่งเดือดร้อนอันตรายต่อประชาชนและผู้ให้บริการ รวมทั้งปลอดภัยต่อเงินภาษีประชาชน และเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
ขอให้ผู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์และเครือข่ายทุกเครือข่าย โปรดได้ติดตามจับตามองเวทีที่จัดตั้งขึ้นอย่างใกล้ชิด และโปรดติดตามการแถลงการณ์จากสมาพันธ์ซึ่งจะมีต่อไปเป็นระยะ จนกว่าภารกิจนี้จะเสร็จสิ้นลง
