ผู้เขียน หัวข้อ: 'ปปช.'ชี้มูลทุจริต'คอมฯสธ.'18มิ.ย.นี้  (อ่าน 1064 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
'ปปช.'ชี้มูลทุจริต'คอมฯสธ.'18มิ.ย.นี้
« เมื่อ: 02 มิถุนายน 2013, 22:31:04 »
'ปปช.'ชี้มูลทุจริต'คอมฯสธ.'18มิ.ย.นี้
'ปปช.' จะชี้มูลผิดหรือไม่ คดีการจัดซื้อจัดจ้างโครงการคอมพิวเตอร์ของ สธ. 18 มิ.ย.นี้ แนะ 'ถวิล' ร้อง 'ปู' ได้ไม่ต้องรอคำสั่งศาลปค.สส.
 
                         2 มิ.ย. 56  นายปรีชา เลิศกลมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ในฐานะกรรมการร่วมรับผิดชอบสำนวนการไต่สวนคดีการจัดซื้อจัดจ้างโครงการคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มูลค่า 821 ล้านบาท สมัยที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นรมว.สาธารณสุข เปิดเผย ว่า ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะส่งสำนวนการไต่สวนของคณะอนุกรรมการเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อลงความเห็นว่าจะชี้มูลความผิดหรือไม่อย่างแน่นอนหลังจากก่อนหน้านี้ได้เลื่อนการพิจารณามาแล้วหลายครั้ง
                         นายปรีชา กล่าวอีกว่า การสอบสวนขณะนี้ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาแล้ว 10 ปาก พร้อมกับได้ประสานไปยังศาลเพื่ิอขอเอกสารที่มีการฟ้องกันในคดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม เพื่อมาประกอบสำนวนการสอบสวนของ ป.ป.ช.ว่าจะเชื่อมโยงอย่างไร อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จากการตรวจสอบมั่นใจว่าสำนวนมีความสมบูรณ์มากยิ่งขี้น จึงคิดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ป.ป.ช.มีความเห็นได้ในวันดังกล่าวได้อย่างแน่นอน
                         นายปรีชา กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม โดยภายหลังที่ ป.ป.ช.ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติไปแล้ว ทำให้จะต้องมาตรวจสอบในประเด็นการทุจริตเพิ่มเติม ซึ่งทั้งนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว เช่นเดียวกับประเด็นเส้นทางการเงินว่าจะมีความผิดปกติหรือไม่อย่างไรด้วย
 
ชี้ 'ถวิล' ร้อง 'ยิ่งลักษณ์' ได้เลยไม่ต้องรอคำสั่งศาลปค.สส.
 
                         นายกล้านรงค์ จันทิก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ จะร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากมีการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองที่ให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสมช. ว่า หากจะร้องจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกล่าวหาบุคคลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ 1. ทุจริต 2. ผิดต่อตำแหน่ง และ 3. ร่ำรวยผิดปกติ หากคำกล่าวหาของนายถวิล เข้าหลักเกณฑ์ 3 ประการนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะรับไต่สวน ทั้งนี้ เรื่องลักษณะอย่างนี้เคยมีการร้องเข้ามายัง ป.ป.ช.หลายเรื่อง เป็นกรณีที่ได้รับการกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชา และไปร้องศาลปกครอง และศาลปกครองพิจารณามีคำสั่งให้คืนตำแหน่ง แต่ฝ่ายผู้บังคับบัญชาไม่ยอมให้กลับ หรือให้กลับ แต่ระบุว่าการกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่แล้ว ซึ่งบางคดี ป.ป.ช.เองเคยมีการวินิจฉัยมาแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของนายถวิล จะอยู่ในขอบเขตอำนาจของ ป.ป.ช.หรือไม่นั้น จะต้องดูรูปเรื่องและคำวินิจฉัยของศาลก่อน เข้าใจว่าหากนายถวิล จะร้องมาคงแนบคำวินิจฉัยของศาลเข้ามาด้วย จากนั้นจะมาดูว่าอยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่
                         ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนี้จะต้องรอคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดก่อนหรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องถึงศาลปกครองสูงสุด ทั้งนี้ สำหรับประเด็นเรื่องการปกครองกับการทุจริตในหน้าที่นั้นแม้จะเป็นคนละส่วนกัน แต่ข้อเท็จจริงเรื่องทางปกครองสามารถจะหยิบยกเข้ามาประกอบในเรื่องการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ได้
 
เผยนำข้อมูล 'หมอวรงค์' มาประกอบคดี 'จำนำข้าว'
 
                         นายกล้านรงค์ ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า ขณะนี้เอกสารที่ ป.ป.ช.ได้มา แม้จะมาจากผู้ร้อง เช่น สำเนาเช็ค แต่หากจะสอบจะต้องได้หลักฐานจากธนาคารที่มีการรับรองมาเท่านั้น ขณะที่ในส่วนของพยาน จะประกอบด้วย พยานผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ ป.ป.ช.สามารถเชิญมาให้ข้อมูลได้ทันที ส่วนพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงจะต้องดูจากเอกสารว่าบุคคลดังกล่าวเกี่ยวข้องหรือไม่ มีการเซ็นชื่อในเอกสารหรือไม่ และหากมีการเซ็นจะต้องนำมาดูว่าการเซ็นชื่อดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ ด้านเอกสารต่างๆ ที่ ป.ป.ช.ได้มาขณะนี้ก็ต้องมาดูในแต่ละแฟ้มมีเอกสารครบถ้วนหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อไม่นานอนุกรรมการไต่สวนได้เชิญนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์มาชี้แจง โดยได้เพียงข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งในส่วนรายละเอียดนางวัชรี จะให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงดำเนินการส่งเอกสารมาให้ต่อไป
                         นายกล้านรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ คณะทำงานของ ป.ป.ช.ได้รับทราบข้อมูลของการอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์แล้ว เพราะได้ให้เจ้าที่ติดตามการอภิปรายอยู่แล้ว และเตรียมนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตามไม่สามารถบอกได้ว่าคดีนี้จะพิจารณาได้เสร็จเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน แลหากมีกรณีใดที่มีผู้เกี่ยวข้องที่ต้องถูกไต่สวนเพิ่มเติมก็จะต้องดำเนินการไต่สวนอีก
                         ด้าน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ตนได้ถอนตัวจากการเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีโครงการรับจำนำข้าวแล้ว เนื่องจากในอดีตเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ร้บมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์ให้เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบ และติดตามการรับจำนำข้าวที่มีนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ ในขณะนั้นเป็นประธานอนุกรรมการ จึงเกรงว่าหากมาทำคดีนี้จะเกิดปัญหาประโยชน์ทับซ้อนได้ ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งให้นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช.มาทำหน้าที่แทน
 
พร้อมประชุมคืบหน้าคดี 'ป.ร.ส.' 3 มิ.ย.
 
                         มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ในพรุ่งนี้ (3 มิ.ย.) เวลาประมาณ 09.00 น. นายใจเด็ด พรไชยา กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน คดีการดำเนินการบริหารองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการ เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่ค้างอยู่ โดยหลังจากประชุมเสร็จจะเชิญ นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมหาชนคนไทยหัวใจเดียวกัน และกลุ่มภาคีพลังประชาชน (ภปช.) พร้อมตัวแทนภาคีฯ เข้าพูดคุยหารือ ที่สำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อชี้แจงให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบรายละเอียดและให้เข้าใจว่าอายุความของคดียังไม่หมดอายุอย่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจ จากนั้น นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการและโฆษก ป.ป.ช. จะเป็นผู้แถลงข่าวดังกล่าวต่อไป
 


คมชัดลึก