ผู้เขียน หัวข้อ: “หมอณรงค์” ประเดิมงานปลัด สธ.วันแรก ลั่นสางปัญหา ปชช.มีสุขภาพดี  (อ่าน 926 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด

       “หมอณรงค์” รับตำแหน่งปลัด สธ.คนใหม่ เตรียมขับเคลื่อน 4 นโยบายหลักดูแลสุขภาพประชาชน ส่วนปัญหาที่ค้างคาทั้ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ ความเหลื่อมล้ำ 3 กองทุน จะเร่งแก้ไขให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ย้ำบริหารงานเน้นความเป็นเอกภาพ



       วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 07.00น. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้ารับตำแหน่งปลัด สธ.คนใหม่ โดยได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง จำนวน 5 จุด โดยเริ่มจากพระพุทธนิรามัย ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ศาลพระพรหม พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีฯ และพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาชัยนาทนเรนทร จากนั้นได้ลงชื่อเข้ารับตำแหน่งที่ห้องทำงานบริเวณชั้น 3 โดยได้ก้มลงกราบเท้าของบิดาที่มาให้กำลังใจพร้อมกับครอบครัว ทั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง อธิบดีกรมกองต่างๆ รวมทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เข้าให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น อย่างไรก็ตาม ข้าราชการต่างๆ ได้เข้ามอบดอกไม้แสดงความยินดี พร้อมทั้งได้มีการมอบพระพุทธรูปเพื่อไว้บูชาในห้องทำงาน โดยนพ.ณรงค์ ได้มอบหลวงพ่อเงินพุทธโชติ วัดท้ายน้ำ จ.พิจิตร ให้กับผู้มาร่วมแสดงความยินดี
       
       นพ.ณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ตนใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามาทำงาน เนื่องจากข้าราชการ สธ.ทุกคน รวมถึงผู้บริหาร ต้องได้ใส่เสื้อตัวนี้ หากเปรียบกระทรวงเป็นเรือในวันนี้เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ส่วนตนเปรียบเสมือนคนคัดท้ายซึ่งถือเป็นคนสำคัญ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการทำงานคือการทำให้ สธ.เป็นกระทรวงที่ต้องเดินไปข้างหน้า โดยประชาชนต้องมีสุขภาพดี และเจ้าหน้าที่เองก็ต้องมีความสุขกับการทำงาน
       
       นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับนโยบายที่จะดำเนิน คือ 1.สิ่งที่เป็นนโยบายของรัฐบาลเรื่องการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ตามกลุ่มอายุ คือ เด็ก สตรี คนชรา เพื่อให้เกิดการบริการทางการแพทย์ที่ชัดเจน ซึ่งกำลังทำข้อสรุป เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป 2.การจัดระบบบริการสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาหน่วยบริการให้เป็นระบบเครือข่าย โดยให้ทั้งโรงพยาบาลใหญ่และโรงพยาบาลเล็ก ร่วมกันคิดเนื่องจากปัจจุบัน อยู่ในพื้นฐานความไม่เพียงพอของทรัพยากร หากจะทำให้เกิดประสิทธิภาพทุกฝ่ายต้องร่วมคิดและบริหารทรัพยากรร่วมกัน 3.การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้ที่ สธ.ต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรับเหตุภัยธรรมชาติต่างๆ และ 4.การสาธารณสุขระหว่างประเทศซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการสาธารณสุขตามเขตแนวชายแดน ซึ่งจะมีการหารือเพื่อวางแผนในระยะ 3 ปี
       
       นพ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับเรื่องร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ.... นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งตนจะดูในเรื่องการขยายมาตรา 41 ตามพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 แต่ทั้งนี้ จะดูให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ส่วนการบริหารงานในองค์กรต้องเดินไปร่วมกัน เน้นความเป็นเอกภาพ ทั้งโรงพยาบาลใหญ่ โรงพยาบาลเล็ก โรงพยาบาลชุมชน กรม กองต่าง ภายใต้ทรัพยากรที่มีร่วมกันอย่างจำกัด เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างสูงสุด โดยจะเน้นการบริการที่ดีให้ประชาชนเป็นหลัก ซึ่งไม่ได้กังวลอะไร เนื่องจากปัญหามีไว้แก้ไข
       
       นพ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับปัญหาต่างๆที่ค้างอยู่ อาทิ ความเท่าเทียมของ 3 กองทุน จะพยายามแก้ปัญหาเรื่องสิทธิประโยชน์ที่ยังแตกต่างและเกิดความเหลื่อมล้ำของ 3 กองทุน ต้องทำให้เกิดความเท่าเทียม อย่างกรณีการขยายบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และผู้ป่วยเอชไอวี ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้วในวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่ง สธ. ได้เตรียมพร้อมก่อนหน้านี้แล้ว โดยได้กำชับกับทางโรงพยาบาลต่างๆ ให้บริการอย่างครอบคลุม ส่วนเรื่องการขยายสิทธิโรคเรื้อรังอื่นๆ ทั้งมะเร็ง ยังต้องหารือในระดับคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ต่อไป


manager online