มะเร็งปากมดลูกคร่าชีวิตวันละ 14 ราย ชี้ไวรัสเอชพีวีต้นเหตุอาจติดจากการสัมผัส ไปใช้ห้องน้ำสาธารณะติดซอกเล็บ
ที่ รพ.ศิริราช เมื่อวันที่ 19 เม.ย. มีการจัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์ป้องกันภัยมะเร็งปากมดลูก” ภายใต้แนวคิด “คิดผิด คิดใหม่ ป้องกันภัยมะเร็งปากมดลูก” โดย รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ นายกสมาคมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นทุกปี โดยแต่ละปีจะมีผู้ป่วยรายใหม่ 9,999 คน และจำนวนครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 5,000 คนจะเสียชีวิต หรือเฉลี่ยเสียชีวิตวันละ 14 คน ผู้ติดเชื้อระยะแรกมักจะไม่มีอาการอะไร แต่จะมีอาการเมื่อเป็นระยะลุกลามแล้ว การป้องกันทำได้ 3 แนวทาง คือ 1.หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน 2.การตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี และ 3.การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการตรวจคัดกรองเป็นระยะ ๆ
นพ.วิ สิทธิ์ สุภัครพงษ์กุล อุปนายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีความเชื่อที่ผิด ๆ เช่น 1.กลุ่มผู้หญิงแต่งงานแล้วเข้าใจผิดว่ากลุ่มที่เสี่ยงคือผู้หญิงที่มีคู่นอน หลายคน ส่วนตัวเองไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงเพราะแต่งงานใช้ชีวิตกับผู้ชายเพียงคนเดียว แต่ความจริงแล้ว 50% ของผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้วมีโอกาสติดเชื้อไวรัสเอชพีวีต้นเหตุมะเร็ง ปากมดลูก 2.กลุ่มวัยรุ่น ผู้ปกครองไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกันโรค เพราะคิดว่ามะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ จึงเข้าใจว่าลูกยังเด็กเกินไปคงไม่จำเป็นต้องป้องกัน ทั้งที่ความจริงอายุน้อย ๆ ก็เป็นได้ เช่น ที่เคยพบคือ 16 ปี หรืออายุมากสุดที่พบคือ 93 ปี โดยรายหลังนี้นั่งรถเข็นมา รพ.และตรวจพบมะเร็งปากมดลูก 3.กลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน มักจะไม่เห็นความสำคัญของการป้องกันและการตรวจคัดกรอง เพราะมั่นใจว่าไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง อีกทั้งเข้าใจว่าการใช้ถุงยางอนามัยป้องกันได้ 100% ซึ่งความจริงไม่ใช่
“แม้ จะไม่มีเซ็กซ์กัน แต่การสัมผัสก็ทำให้ติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ได้เช่นกัน โดยเชื้อเอชพีวี อาจติดมากับซอกเล็บ จากการไปใช้ห้องน้ำสาธารณะ รถสาธารณะ หรือสถานที่แออัดต่าง ๆ ก็อาจเสี่ยงได้รับเชื้อดังกล่าวได้ “นพ.วิสิทธิ์ กล่าวและว่านอกจากนี้การร่วมเพศทางทวารหนัก ก็ทำให้ติดเชื้อที่ทวารหนัก และอาจทำให้เกิดมะเร็งได้ หรือ การทำออรัลเซ็กซ์ก็เสี่ยงติดเชื้อที่ช่องปากได้เช่นกัน
ด้าน นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า อาการเริ่มต้นของมะเร็งปากมดลูกจะมีจุด หรือก้อนตรงปากมดลูกโดยจะมีเลือดออกผิดปกติหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางคนจะมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน แต่ไม่ใช่รอบเดือน ดังนั้นถ้าอยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว มีเลือดออกอย่างน้อย 2 ครั้งควรรีบไปพบแพทย์ รวมถึงมีอาการปวดหลังเรื้อรังร่วมด้วยเพราะมะเร็งอาจจะลุกลามไปแล้ว.
เดลินิวส์
19 เมษายน 2554
