ชาวเขาเมืองน่านกินลาบลู่หมูดิบ ถูกหามเข้าไอซียู รพ.น่าน กว่า 20 ราย สาหัส 2 ราย รวมถึงสาวตั้งท้อง 5 เดือนอีก 1 ราย แพทย์ระบุทุกคนป่วยเป็นโรคพยาธิที่เกิดจากเชื้อทริคริโนซีส หรือโรคพยาธิเม็ดสาคู ขณะที่ยังต้องรอดูอาการใกล้ชิด...
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2555 ที่ รพ.น่าน โดย นพ.ปิยะพงษ์ จงรักษ์ รักษาการแทน ผู้อำนวยการ รพ.น่าน พร้อมคณะแพทย์ได้รับตัวชาวเขาบ้านห้วยระพี หมู่ 15 ต.สะเนียน อ.เมือง จ.น่าน หลังจากรับประทานลาบลู่-หมูดิบ เริ่มทยอยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 20 ราย และที่รักษาตัว เป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย รวมทั้งคนท้องได้ประมาณ 5 เดือน อีก 1 ราย พบอาการสาหัสอยู่ในห้องไอซียู 2 ราย แพทย์ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด
จากการสอบถาม นายสามารถ แซ่เติ๋น อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 15 บ้านห้วยระพี ต.สะเนียน หนึ่งในผู้ป่วยแต่อาการไม่หนักมาก เล่าว่า ตนพร้อมเพื่อนบ้านชาวเขาในหมู่บ้าน ประมาณ 40 กว่าคน ได้นำหมูป่าตัวหนึ่งที่ติดกับดักบริเวณป่าไร่ข้าวโพดเหนือหมู่บ้านและตายมาแล้ว 1 วัน น้ำหนักราว 35-40 กก. มาชำแหละและปรุงอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ พวกลาบดิบ ลู่ดิบ และแกงอ่อม ก่อนที่ชาวบ้านทั้งชายและหญิง จะตั้งวงรับประทานกันในมื้อเย็น พร้อมดื่มสุราพื้นบ้านไปด้วย ซึ่งทำกินกันเองทั้งหมู่บ้าน พอกินเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านไปพักผ่อน
ต่อมาพบว่าชาวบ้านที่รับประทานอาหารดังกล่าว เริ่มมีอาการปวดมวนท้อง ถ่ายเหลวเป็นระยะๆ และอาการก็ไม่ดีขึ้น ตั้งแต่เวลา 01.00 น. จนถึง 06.00 น.ของวันรุ่งขึ้น พอเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขึ้นรถปิกอัพ และรถของกู้ภัย อบต.สะเนียน รวมถึงรถของ รพ.น่าน เดินทางไปยังโรงพยาบาล สำหรับตนอาการไม่หนักมาก แพทย์ฉีดยาและให้ยามารับประทาน แต่ยังคงมีอาการมวนท้อง ปวดบีบ และถ่ายเหลวเป็นระยะๆ ซึ่งแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านเพื่อรอดูอาการ
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยที่มีอาการหนักอยู่ในห้องไอซียู 2 ราย คือ นายณัฐพนธ์ แซ่จ๋าว อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 15 บ้านห้วยระพี ต.สะเนียน และนายสมคิด แซ่เติ๋น อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 15 บ้านห้วยระพี ต.สะเนียน โดยชาวบ้านที่มารักษาตัวเป็นชาย 5 ราย หญิง 6 ราย รวมทั้งมีคนท้องตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5 เดือน อีก 1 รายรวมอยู่ด้วย ขณะนี้แพทย์ได้รอดูอาการอย่างใกล้ชิด ส่วนรายอื่นๆ สามารถกลับบ้านได้
หลังจากนั้น เวลา 14.00 น. นพ.พิศิษฐ์ ศรีประเสริฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า อาการของผู้ป่วยเกิดจากเชื้อพยาธิทริคริโนซี หรือพยาธิเม็ดสาคู ซึ่งอาการขั้นแรกจะถ่ายเหลว ปวดมวนท้อง ถ้ารุนแรงก็จะเข้าหัวใจ หรือสมอง แพทย์ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ โรคดังกล่าวเคยเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.น่าน มาแล้ว ที่ อ.ปัว ตอนนั้นมีผู้ป่วยจำนวนมากเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตไป 3 ราย ดังนั้น ทางแพทย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด แต่ก็มีชาวบ้านบางกลุ่มยังนิยมรับประทานเนื้อดิบกันอยู่ ซึ่งจะต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นต่อไป.
