ผู้เขียน หัวข้อ: พลิกล็อก!! ไข้หวัดใหญ่ระบาดไม่ตรงวัคซีน เหตุสายพันธุ์เปลี่ยนช่วงครึ่งปีหลัง  (อ่าน 471 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9787
    • ดูรายละเอียด
ผู้เชี่ยวชาญไวรัส จุฬาฯ เผย “ไข้หวัดใหญ่” ระบาดไม่ตรงคาดการณ์ เหตุสายพันธุ์ไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคลดลง พบผู้ป่วยมากขึ้น แต่ไม่รุนแรง ระบุ H3N2 เปลี่ยนเป็นสายพันธุ์สิงคโปร์ และ B เปลี่ยนเป็นยามากาตะภูเก็ต จากวัคซีนที่เป็นฮ่องกงและวิกตอเรีย WHO จ่อเปลี่ยนสายพันธุ์วัคซีนใหม่

วันนี้ (18 ธ.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” ว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ พลิกล็อกอย่างมาก ทำให้วัคซีนที่ใช้อยู่ที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำ โดยรวมการป้องกันได้ ประมาณ 30% โดยเฉพาะ H3N2 ที่สายพันธุ์แตกต่างจากสายพันธุ์ในวัคซีนอย่างมาก ทำให้การระบาดที่ผ่านมา จึงพบไข้หวัดใหญ่ A H3N2 มากที่สุด จากการตรวจของศูนย์ไวรัส จุฬาฯ เกือบ 7,000 ตัวอย่าง ส่วนไข้หวัดใหญ่ บี ต้นปีเป็นสายพันธุ์ Victoria แต่พอมาปลายปี เปลี่ยนสายพันธุ์อย่างรวดเร็ว มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เป็นสายพันธุ์ Yamagata ไข้หวัดใหญ่ A H1N1 2009 ยังคงเดิม ในปีหน้า องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ A H3N2 เป็นสายพันธุ์ สิงคโปร์ ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ และคาดว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ปีหน้า น่าจะเป็น Yamagata สายพันธุ์ภูเก็ต ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง วัคซีนในปีหน้าก็น่าจะดีกว่าปีนี้ แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่

ศ.นพ.ยง ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมว่า วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่ฉีดในปี 2560 หากเป็นวัคซีนชนิด 3 สายพันธุ์ ซึ่งใช้ในโรงพยาบาลของรัฐนั้น จะเป็น สายพันธุ์ A H1N1 2009 มิชิแกน, A H3N2 ฮ่องกง และสายพันธุ์ B วิกตอเรีย ส่วนวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ใน รพ.เอกชน จะเพิ่มสายพันธุ์ B ยามากาตะ เข้ามา ทั้งนี้ แต่ละปีไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี จึงต้องมีการเปลี่ยนสายพันธุ์ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี และต้องฉีดวัคซีนกันทุกปี แต่ในปี 2560 องค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่ได้เปลี่ยนสายพันธุ์ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ยังคงใช้เหมือนปี 2559 เนื่องจากคาดการณ์ว่า การระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่จากการตรวจของศูนย์ไวรัส จุฬาฯ จำนวนรวม 6,655 ตัวอย่าง พบว่า การระบาดของไข้หวัดใหญ่แตกต่างจากสายพันธุ์ในวัคซีน

“สายพันธุ์ A H1N1 มิชิแกน ยังเป็นไปตามคาดการณ์ แต่ที่ผิดไปจากการคาดการณ์คือ สายพันธุ์ A H3N2 ซึ่งในวัคซีนเป็นสายพันธุ์ฮ่องกง แต่ช่วงต้นปี 2560 ส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ลอนดอน และช่วงครึ่งปีหลังเปลี่ยนเป็นสายพันธุ์สิงคโปร์ ทำให้ WHO กำหนดให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในปี 2561 เป็นสายพันธุ์ A H3N2 สิงคโปร์ ส่วนสายพันธุ์ B ในวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้นเป็นสายพันธุ์วิกตอเรีย เพราะมีการคาดการณ์ว่าจะระบาดมาก ซึ่งต้นปีก็มีการระบาดจริง แต่ช่วงครึ่งปีหลังก็มีการเปลี่ยนแปลงเป็นยามากาตะ สายพันธุ์ภูเก็ต อย่างไรก็ตาม การที่สายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงถือเป็นเรื่องปกติ แม้จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ลดลง คือ อาจพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคไม่ได้มากขึ้น จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล” ศ.นพ.ยง กล่าว




18 ธ.ค. 2560 โดย: MGR Online