ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ ประกาศให้ประชาชนทราบว่า โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) ถูกจัดเป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 7 และเป็นโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความลำดับที่ 22
วานนี้ (18 มิ.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขสองฉบับ เรื่อง เพิ่มเติมโรคติดต่ออันตราย ในเล่ม 132 ตอนพิเศษ 138 ง หน้า 19 และ เรื่อง เพิ่มเติมชื่อโรคติดต่อต้องแจ้งความ เล่ม 132 ตอนพิเศษ 138 ง หน้า 18 โดยมีรายละเอียดดังนี้คือ
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง เพิ่มเติมชื่อโรคติดต่ออันตราย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศลงวันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ประกาศลงวันที่
๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๖ และประกาศลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ กําหนดชื่อโรคติดต่ออันตราย
จํานวน ๖ โรค นั้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศเพิ่มเติมชื่อโรคติดต่ออันตราย ดังนี้
๗. โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory
Syndrome - MERS)
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
ศาสตราจารย์ รัชตะ รัชตะนาวิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง เพิ่มเติมชื่อโรคติดต่อต้องแจ้งความ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศลงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกาศลงวันที่ ๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ประกาศลงวันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๒ และประกาศลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ กําหนดชื่อโรคติดต่อต้องแจ้งความ จํานวน ๒๑ โรค นั้น
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ และมาตรา ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงออกประกาศเพิ่มเติมชื่อโรคติดต่อต้องแจ้งความ ดังนี้
๒๒. โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory
Syndrome - MERS)
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๘
ศาสตราจารย์รัชตะ รัชตะนาวิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ราชกิจจาฯ ประกาศ เมอร์ส (MERS) เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับ 7 และโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความลำดับที่ 22
อนึ่ง ช่วงเย็นวานนี้ (18 มิ.ย.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดและไวรัสวิทยา ร่วมแถลงข่าวกรณีพบผู้ป่วยเมอร์ส (MERS) รายแรกของไทยเป็นชายชาวตะวันออกกลาง วัย 75 ปี ซึ่งผู้ป่วยรายดังกล่าวเดินทางมาจากตะวันออกกลาง ถึงประเทศไทย วันที่ 15 มิ.ย. โดยตั้งใจเข้ามารักษาโรคหัวใจที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งระหว่างเดินทางบนเครื่องบิน ยังไม่มีอาการป่วย แต่มีอาการป่วยหลังออกจากสนามบินมาแล้ว คือ มีอาการเหนื่อย หอบ ไข้ และ ไอ จึงเดินทางไปยัง รพ.เอกชน แห่งดังกล่าวทันที ซึ่ง รพ.เอกชน มีการเตรียมความพร้อมอย่างดี จึงได้นำตัวผู้ป่วยเข้าห้องแยกโรคทันที เพื่อลดการสัมผัสกับบุคคลภายนอก และได้ส่งเสมหะส่งตรวจวิเคราะห์เชื้อ โดยผลยืนยันทางห้องปฏิบัติการ พบว่า เป็นบวก ซึ่งเป็นการตรวจตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอาการของผู้ป่วยไม่ดีขึ้น จึงมีการส่งตัวต่อมายังสถาบันบำราศนราดูร และรักษาตัวในห้องแยกโรค และตรวจวิเคราะห์เชื้อซ้ำอีกครั้งรอบ 2 ซึ่งผลการตรวจเชื้อก็พบว่าเป้นบวกเช่นกัน จึงวินิจฉัยว่าชายรายดังกล่าวป่วยเป็นโรคเมอร์ส ขณะนี้อาการยังทรงตัว (อ่านรายละเอียดข่าว : พบผู้ป่วย เมอร์ส รายแรกของไทย เฝ้าระวัง 59 ราย สัมผัสโรค ยันไม่ระบาดเหมือนเกาหลี)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มิถุนายน 2558
