ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.เร่งบรรจุลูกจ้างชั่วคราวกว่าแสนคนเป็นพนักงาน กสธ.ใน ส.ค.นี้  (อ่าน 915 ครั้ง)

story

  • Staff
  • Hero Member
  • ****
  • กระทู้: 9772
    • ดูรายละเอียด
 "หมอชลน่าน" ควงรองปลัด สธ. ชี้แจงการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวกว่าแสนคนเป็น พกส. ลั่นจะเร่งบรรจุให้เสร็จใน ส.ค.นี้ ฟุ้งมีความมั่นคงในอาชีพ ได้สิทธิสวัสดิการใกล้เคียงข้าราชการ
   
       วันนี้ (4 พ.ค.) ที่โรงพยาบาลนครนายก จ.นครนายก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเปิดประชุมสมาชิกสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย ใน 17 จังหวัดภาคกลางจำนวน 600 คน เพื่อชี้แจงนโยบายและความคืบหน้าการปรับเปลี่ยนสถานภาพลูกจ้างชั่วคราวในสถานพยาบาลสังกัด สธ. เป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) ว่า การปรับปรุงรูปแบบการจ้างงานเพื่อให้การปฏิบัติราชการเกิดความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบายแก้ไขปัญหาความขาดแคลนอัตรากำลังคนการให้บริการดูแลรักษาประชาชน ทั้งนี้ หลังออกระเบียบว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข และมีผลบังคับใช้มาแล้ว 2 เดือน สธ.จะเร่งดำเนินการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวทั้งหมด 117,000 คน ทั้งสายวิชาชีพเฉพาะและสายสนับสนุนเข้าเป็น พกส. ให้เสร็จสิ้นทั่วประเทศภายใน ส.ค. 2556 มีสัญญา 4 ปี เหมือนพนักงานราชการ โดยพร้อมเข้าสู่ระบบการจ้างงานแบบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2556 เป็นต้นไป
       
       นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า อัตราการจ้าง พกส.จะใช้บัญชีเงินเดือนของข้าราชการและลูกจ้างประจำ ยกเว้นสายงานวิชาชีพ เช่น พยาบาล จะได้รับ 1.2 เท่าของเงินเดือนข้าราชการ ขั้นต้น 15,960 บาท ขณะที่ตามระบบเดิมจะได้รับ 11,340 บาท เลื่อนค่าจ้างทุกวันที่ 1 ต.ค.ของปี และปรับเพิ่มค่าจ้างไม่เกินร้อยละ 12 ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ นอกจากนั้นยังได้รับสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ไม่ต่างจากข้าราชการ มีสิทธิลา การศึกษาต่อ ลาคลอดบุตร ส่วนผู้ชายมีสิทธิลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรได้ไม่เกิน 15 วันทำการ
       
       ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัด สธ. กล่าวว่า การบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเข้าสู่ตำแหน่ง พกส. จะมีคณะกรรมการของหน่วยบริการดำเนินการประเมิน ทั้งความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และคุณลักษณะของบุคคล โดยแบ่ง พกส.ออกเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภททั่วไป มี 3 กลุ่มงาน ได้แก่

1.กลุ่มเทคนิคบริการและบริหารทั่วไป
2.กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ
3.กลุ่มเชี่ยวชาญ และ

ประเภทพิเศษ ได้แก่ กลุ่มที่ต้องใช้ความสามารถสูงและมีความจำเป็นของหน่วยงาน ที่สำคัญมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสร้างความมั่นคงให้แก่พนักงานฯทุกคน เมื่ออายุมากขึ้นจนถึงวัยเกษียณก็จะมีเงินสะสม รวมกับเงินสมทบพร้อมทั้งผลกำไรที่เกิดจากการลงทุนคืนให้สมาชิกทุกคน

ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 พฤษภาคม 2556