ผู้เขียน หัวข้อ: สุลต่านแห่งสายน้ำ-สารคดี(เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก)  (อ่าน 1321 ครั้ง)

pani

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 756
    • ดูรายละเอียด
ผมกับชาร์ลีออกตามหาตัวนาก เราทั้งคู่สวมชุดดำน้ำ ลอยตัวอยู่ปริ่มน้ำ เรือบรรทุกน้ำมันกำลังแล่นเอื่อยๆเข้าเทียบท่าท่ามกลางพวยก๊าซจากคลังน้ำมันที่ซัลลอมโว ที่นี่คือกลุ่มเกาะเชตแลนด์ (Shetland) ซึ่งตั้งอยู่ทางปลายเหนือสุดของหมู่เกาะบริติชไอลส์ เฮลิคอปเตอร์หลายลำจากทะเลเหนือส่งเสียงคำรามขณะลงจอดที่สนามบินด้านหลังเรา แต่กลับดูเหมือนอยู่ไกลแสนไกล

ชาร์ลี แฮมิลตัน เจมส์ ตามเก็บภาพนากใหญ่ธรรมดามาตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มตกหลุมรักพวกมันในช่วงที่นากลดจำนวนลงเมื่อหลายสิบปีก่อน เขาติดตามพวกมันด้วยความหลงใหล กระทั่งประชากรของพวกมันเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง เขารู้วิธีย่องเข้าหาตัวนากและบอกเทคนิคนี้กับผมว่า ใบหน้าของคุณต้องลดต่ำลงใต้ผิวน้ำให้มากที่สุด และต้องเงียบชนิดไม่มีแม้แต่เสียงกระซิบ (ใช้ภาษามือจะดีกว่า) ลมหายใจและตีนกบของคุณก็ต้องเงียบด้วยเช่นกัน ถ้าโชคเข้าข้าง คุณอาจได้เข้าใกล้นากสักตัวหนึ่ง

นากที่พบในบริติชไอลส์มีเพียงชนิดพันธุ์เดียว นั่นคือ Lutra lutra หรือนากยูเรเชีย (Eurasian otter) ซึ่งอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม ความแตกต่างเพียงประการเดียวคือ นากที่อาศัยอยู่ในทะเลต้องหมั่นล้างตัวในแหล่งน้ำจืดบ่อยๆ เพื่อชะล้างเกลือออกจากขนและป้องกันการสูญเสียความร้อนของร่างกาย นากมักปรากฏตัวให้เห็นเสมอตามหุบเขาริมแม่น้ำซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของมนุษย์ และมักจะติดกับดัก ถูกสุนัขไล่ล่า และไม่เป็นที่ชื่นชอบของชาวประมง  แต่พรานล่านากไม่เคยฆ่าล้างบางนากให้สูญสิ้น เช่นเดียวกับที่นากก็ไม่ได้กินปลาจนไม่เหลือหลอ นี่คือความสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ นาก และปลา ซึ่งยืนยาวมานานหลายร้อยปี

การประเมินจำนวนประชากรนากในอดีตทำได้ยากหรืออาจถึงขั้นเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว ความสามารถของนากในการหายตัว หลอมรวมไปกับสายน้ำ หรือทำตัวกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมได้ราวกับว่าพวกมันไม่เคยอยู่ตรงนั้น ทำให้นากเป็นเหมือนสิ่งที่มีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความลับอันหลีกเร้นของภูมิประเทศ การหาตัวได้ยากคือลักษณะเด่นของพวกมันโดยแท้

เค้าลางแรกๆของหายนะก่อตัวขึ้นในทศวรรษ 1940 จากการใช้ยาฆ่าแมลง สารป้องกันกำจัดโรคพืช สารเคมีกำจัดศัตรูพืชกลุ่มออร์แกโนคลอรีน และยาฆ่าแมลงครอบจักรวาลอย่างดีดีที  พอถึงทศวรรษ 1950 ถึง 1970 สารเคมีกำจัดศัตรูพืชกลุ่มออร์แกโนคลอรีน และสารพีซีบีซึ่งใช้เป็นสารหล่อเย็นในหม้อแปลงไฟฟ้าและสารให้ความคงตัวในสีทาบ้าน รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมาก ก็เป็นตัวการทำให้เกิดมลพิษทางน้ำอย่างกว้างขวาง

ประชากรนากลดลงอย่างฮวบฮาบ บางทีอาจเป็นผลมาจากการที่ปริมาณปลาในธรรมชาติลดลง หรืออาจเป็นเพราะนากแต่ละตัวได้รับสารพิษ ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลหลายแห่งของอังกฤษไม่หลงเหลือนากอยู่เลย แม่น้ำได้สิ้นชีพไปแล้ว และนากก็ตายไปพร้อมกับสายน้ำด้วย มีเพียงพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกและพรมแดนของเวลส์เท่านั้นที่สัตว์ชนิดนี้ยังเหลือรอดอยู่  ตัวนากสูญพันธุ์ไปแล้วในเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีก็ไม่เหลือนากแล้ว นากกลายเป็นสัตว์หายากในพื้นที่ส่วนใหญ่ของนอร์เวย์และสวีเดนเช่นกัน และถึงแม้ประชากรนากในสกอตแลนด์และยุโรปตะวันออกยังจัดว่าสูง แต่ในที่อื่นๆดูเหมือนนากคงจะสูญพันธุ์ไปในไม่ช้า

มาตรการห้ามใช้สารเคมีค่อยๆเห็นผลอย่างช้าๆ และประชากรนากก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง ตัวนากค่อยๆหวนคืนสู่พื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ กระทั่งปัจจุบันมีเพียงกรุงลอนดอนและเมืองอุตสาหกรรมทางตอนเหนือบางแห่งเท่านั้นที่ยังคงไม่มีนากอาศัยอยู่

 

แต่การฟื้นตัวยังถือว่าเปราะบาง  ชาร์ลีกับผมเดินทางไปยังแม่น้ำสายหนึ่งในมณฑลดอร์เซตทางตอนใต้ของอังกฤษ เวลาเที่ยงวัน ณ ใจกลางเมืองเล็กๆที่เป็นย่านตลาดร้านค้า ผู้คนเดินข้ามสะพานกันอย่างขวักไขว่ บางคนจูงสุนัข เดินเล่น เราเฝ้าดูครอบครัวนากครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบด้วยแม่และลูกๆที่เกือบโตเต็มวัยแล้วสองตัวอยู่นานถึงสี่ชั่วโมง พวกมันกำลังหาปลาและดำผุดดำว่ายเล่นในแม่น้ำ ผู้คนต่างหยุดดูและพูดคุยถึงนาก “ของพวกเขา” และคงนึกประหลาดใจที่เราทั้งสองดูตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้าที่เห็นพวกมันอยู่ที่นั่น ในช่วงสองปีมานี้ พวกมันเป็นสิ่งที่เห็นได้ชินตาในเมืองเล็กๆแห่งนี้

แต่เมื่อเพ่งดูใกล้ๆ คุณก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจไปกับกิจกรรมบ้าพลังของเพื่อนร่วมโลกเจ้าของเรือนร่างเรียบลื่นเหล่านั้น สมาชิกทั้งสามตัวของครอบครัวมักกระโจนเข้าใส่กัน พะเน้าพะนอคลอเคลีย และออกล่าปลาเล็กปลาน้อยที่    ก้นแม่น้ำด้วยกัน นี่เป็นชีวิตที่ต้องแก่งแย่งแข่งขัน โหดร้าย และวุ่นวาย พวกมันต้องดำน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนจะโผล่ขึ้นมาทีละตัวสองตัวพร้อมเหยื่อในปาก แล้วเคี้ยวเหยื่อกร้วมๆอย่างสำราญอุราราวกับชายในร้านอาหารที่เพิ่งถูกหวยและตอนนี้กำลังเคี้ยวเนื้อสเต๊กฉ่ำชุ่มนุ่มลิ้นก็ไม่ปาน

กุมภาพันธ์ 2556