ผู้เขียน หัวข้อ: ตั้ง'สมาคมแพทย์'มารดาและทารกปีนี้  (อ่าน 897 ครั้ง)

ABBA

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2105
    • ดูรายละเอียด
ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- จันทร์ที่ 4 มีนาคม 2556 00:00:34 น.
กรุงเทพฯ * "ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารก" เผย เตรียมตั้งสมาคมสหแพทย์ปลายปีนี้ เน้นให้ความรู้ในการดูแลครรภ์ ดูแลเด็กป้องกันการคลอดก่อนกำหนด เหตุเสี่ยงเกิดสารพัดโรคอันตราย ระบุ แต่ละปีมีเด็กคลอดก่อนกำหนดสูง 13%

รศ.ดร.นพ.บุญศรี จันทร์รัชชกูล สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกศูนย์เวชศาสตร์มารดาและทารกปริกำเนิด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการคลอดก่อนกำหนดสูงถึง 13% ต่อปี ซึ่งการที่เด็กคลอดก่อนกำหนดมีความเสี่ยงให้เกิดโรคต่างๆ มาก เช่น ระบบการหายใจของเขาไม่ดีเพราะปอดยังไม่สมบูรณ์ เกิดเลือดออกในสมอง ลำไส้ทำงานได้ไม่ดีทำให้เกิดภาวะเลือดออกในลำไส้ มีอาการตัวเหลือง เกลือแร่ผิดปกติ หรือถ้าต้องได้รับการรักษาด้วยการให้ออกซิเจนมีโอกาสทำให้ตาบอดได้ และโรคจอตาเจริญผิดปกติ


 
โดยเฉพาะภาวะครรภ์เป็นพิษซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีวิธีการป้องกัน อีกทั้งการตรวจคัดกรองยังไม่มีประ สิทธิภาพ แต่เป็นภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากการมีความดันโลหิตสูงร่วมกับการมีโปรตีนในปัสสาวะ ทำให้แม่เกิดอาการชัก ไตทำงานผิดปกติ ไตวาย มีภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด เลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ เลือดออกในสมอง น้ำท่วมปอด เสียชีวิต หรือตกเลือดหลังการคลอด ส่วนอันตรายที่เกิดกับเด็กคือเจริญเติบโตช้าระหว่างอยู่ในครรภ์ คลอดก่อนกำหนด หรือเสียชีวิตระหว่างอยู่ในครรภ์ โดยเฉพาะในแม่ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือแม่อายุมากกว่า 35 ปี

จากสถิติขององค์การอนามัยโลกพบว่า มีแม่ที่เสียชีวิตจากการคลอดบุตรประมาณ 500,000 คนต่อปี ในจำนวนนี้มี 10% เกิดจากภาวะความดันโลหิตสูง และประมาณ 2-8% เกิดจากภาวะครรภ์เป็นพิษ แต่หากการเสียชีวิตจากภาวะครรภ์เป็นพิษสูงประมาณ 10-15% นั่นหมายความถึงระบบ สาธารณสุขของประเทศนั้นๆ สำหรับในประเทศไทยพบอัตราการเกิดภาวะดังกล่าวประมาณ 4-5%

ดังนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญด้านแม่และเด็กได้หารือร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งสมาคมสหแพทย์เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำในการดูแลครรภ์ การตรวจวินิจฉัย และการรักษาโรคในเด็ก เนื่องจากเล็งเห็นว่าโรคที่เกิดจากการคลอดก่อนกำหนดเป็นสิ่งสำคัญ จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ เพราะบางครั้งโรงพยาบาลในต่างจังหวัดไม่มีที่ปรึกษา โดยมีแนวคิดว่าจะจัดประชุมเพื่อให้ความรู้กันปีละประมาณ 1 ครั้ง หรือเดินทางไปให้คำแนะนำที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถตั้งสมาคมดังกล่าวได้ประมาณปลายๆ ปี 2556

"ในต่างจังหวัดคนจนเยอะ ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดสภาวะอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเป็นในคนที่สถานะทางเศรษฐกิจไม่ดี แต่อย่างน้อยคนเหล่านี้จะขาดสารอาหาร และที่เรารู้แน่ๆ คือใครก็ตามที่มีระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ พวกนี้มีโอกาสครรภ์เป็นพิษสูง แต่ในเมืองไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้เท่าไหร่" รศ.ดร.นพ.บุญศรีกล่าว.